ในสัปดาห์นี้ จะมีวันสำคัญของบรรดาคริสตชนอีก 2 วัน คือวันฉลองเทิดทูนไม้กางเขน ซึ่งตรงกับวันที่ 14 กันยายน และวันระลึกถึงแม่พระระทมทุกข์ ในวันที่ 15 กันยายน เนื่องจากทั้ง 2 วัน ไม่ได้เลื่อนไปทำการฉลองในวันอาทิตย์ ก็อาจจะทำให้เกิดความหลงลืมและพี่น้องจะไม่มีโอกาสได้ร่วมฉลอง วันฉลองเทิดทูนไม้กางเขน เพื่อให้เราได้เข้าใจความหมายของไม้กางเขน ไม้กางเขนเป็นเครื่องหมายและสัญลักษณ์ที่พวกเราต่างเข้าใจความหมายกันดีอยู่แล้ว ความจริงในสมัยของพระเยซูเจ้า การถูกตรึงบนไม้กางเขนเป็นการลงโทษประหารชีวิต นักโทษที่กระทำความผิดร้ายแรง ถูกลงโทษโดยการประหารชีวิต จะใช้วิธีการตรึงกางเขน นักโทษทีถูกตัดสินจะถูกพาตัวไปนอกเมืองและถูกมัดตรึงไว้กับกางเขน จากนั้นก็จะปักกางเขนและปล่อยให้นักโทษตายอย่างทรมาน เหตุการณ์แบบนี้ได้เกิดกับพระเยซูเจ้า พระองค์ทรงยอมรับโทษประหารและสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขน ไม้กางเขนที่เป็นสัญลักษณ์ของความทุกข์ทรมานและความตาย พระเยซูเจ้าทรงเป็นบุคคลแรกที่ทำให้ไม้กางเขนมีความหมายใหม่ เพราะหลังจากความตายพระองค์ได้เสด็จกลับคืนพระชนมชีพ กางเขนจึงกลับกลายเป็นเครื่องมือที่พระเยซูคริสตเจ้าใช้เพื่อก้าวผ่านความตายไปสู่การมีชีวิตใหม่ เวลาที่เรามองดูไม้กางเขน เราจึงไม่เห็นเพียงแค่พระเยซูเจ้าถูกตรึงบนกางเขนเท่านั้น แต่เป็นพระเยซูเจ้าที่ทรงกลับคืนพระชนมชีพด้วย มีความหมายว่าพระองค์ทรงชนะบาปและมีชัยชนะเหนือความตาย
ควบคู่กับการเทิดทูนเทิดทูนไม้กางเขน ติดต่อกันก็คือ วันระลึกถึงแม่พระระทมทุกข์ ในรอบปีมีวันฉลองแม่พระอยู่หลายวัน ส่วนใหญ่วันฉลองเหล่านั้นก็เป็นเหตุการณ์แห่งความชื่นชมยินดีกับแม่พระ แต่ในชีวิตของแม่พระ ยังมีเหตุการณ์ที่นำความทุกข์ระทม รูปแม่พระระทมทุกข์หรือบางทีเรียกว่า แม่พระมหาทุกข์ จะมีดาบ 7 เล่มปักที่หน้าอก หมายถึงเหตุการณ์แห่งความทุกข์ทั้ง 7 ซึ่งมีดังนี้
- คำทำนายของซีเมโอน
- การพาพระกุมารนี้ไปประเทศอียิปต์
- เหตุการณ์ตอนที่พระเยซูเจ้าในช่วงวัยเด็ก พระองค์หายไปในพระวิหารกรุงเยรูซาเล็ม
- การพบกับพระเยซูเจ้า ขณะที่พระองค์แบกกางเขนไปยังเนินเขากัลวารีโอ
- การเฝ้ามองดูพระเยซูเจ้าถูกตรึงบนกางเขน
- การรับพระศพของพระเยซูลงจากไม้กางเขน
- การฝังพระศพพระเยซูเจ้าในคูหา
พวกเรามักจะคิดถึงแม่พระเพียงด้านที่พูดถึงการเป็นผู้มีบุญ แต่ในชีวิตของแม่พระ พระแม่ต้องพบเจอเหตุการณ์ที่ทำให้เกิดความเศร้าโศกและระทมทุกข์หลายประการ หากพี่น้องเชื่อมั่นว่าแม่พระยังคงทำหน้าที่เป็นมารดาของมนุษย์ทุกคน เป็นแม่ของพวกเรา การที่พระเยซูเจ้าขอร้องแม่พระในขณะที่พระองค์กำลังจะสิ้นพระชนม์บนไม้กางเขน เพื่อทำหน้าที่เป็นแม่ของเราทุกคน ซึ่งแม่พระก็ยังคงทำหน้าที่แม่ที่ห่วงใย ติดตามและช่วยเหลือมนุษย์ทุกคน พวกเราก็อาจจะเป็นดังดาบอีกเล่มหนึ่ง เป็นความทุกข์ที่เกิดจากความห่วงใย พวกเราทุกคนอาจจะเป็นเหตุแห่งความทุกข์ระทมใจของแม่พระ หากเราประพฤติตัวไม่ดี ไม่เชื่อฟังพระเจ้า ดำเนินชีวิตไม่สนใจพระเจ้าเหมือนไม่อยากไปสวรรค์ แม่พระก็คงจะระทมทุกข์มากกว่าความทุกข์ทั้ง 7 ประการก่อนหน้านั้น แม่พระไม่สามารถบังคับจิตใจคนใดให้กลับใจ คำขอร้องที่แม่พระส่งมาถึงพวกเราเสมอ ก็คือขอให้คนที่รักแม่พระและมีความเชื่อได้ร่วมใจกันสวดภาวนา เพื่อเป็นการใช้โทษบาปทั้งของตนเองและของคนอื่น ทั้งยังเป็นโอกาสเพื่อคนบาปได้กลับใจ ขอให้พี่น้องด้วยช่วยกันสวดภาวนาเสมอและไม่เป็นสาเหตุทำให้แม่พระระทมทุกข์ใจโดยตัวเราเองเป็นสาเหตุ
ระหว่างวันเสาร์ – อาทิตย์นี้ทางวัดจัดกิจกรรมเพื่อให้ผู้เรียนคำสอนที่เป็นผู้ใหญ่ ปกติพวกเขาก็จะเรียนกันในวันอาทิตย์ตั้งแต่เวลา 10.00 ถึง 12:00 น ซึ่งมีผู้ใหญ่ที่สนใจเข้าร่วมกลุ่มเรียนด้วยกัน ขณะเดียวกันก็ยังมีกลุ่มพี่เลี้ยงซึ่งก็คือคริสตชนที่สมัครใจมาช่วยทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยง การเรียนการสอนในยุคสมัยนี้พี่เลี้ยงถือเป็นส่วนสำคัญ ในชั่วโมงเรียนคำสอน หากมีข้อสงสัยผู้เรียนก็จะสอบถามกับผู้สอนและรวมถึงบรรดาผู้ทำหน้าที่พี่เลี้ยง ซึ่งจะช่วยอธิบายตอบคำถามและข้อสงสัย รวมทั้งแนะนำแนวทางการปฏิบัติ พี่เลี้ยงยังทำหน้าที่เป็นเหมือนกับเพื่อนร่วมเดินทาง คอยช่วยเหลือคริสตชนใหม่ ให้ก้าวเข้ามาสู่การเป็นหนึ่งเดียวกับพี่น้องคริสตชนอื่น วันเสาร์อาทิตย์นี้พวกเขาจะออกไปศึกษาร่วมกันนอกสถานที่ ใช้เวลาอยู่ด้วยกันเพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์ เป็นช่วงเวลาของการเรียนรู้ลึกซึ้งมากขึ้น หากพี่น้องท่านใดมีความปรารถนาอยากสมัครมาทำหน้าที่เป็นพี่เลี้ยง ทางวัดยินดีต้อนรับเสมอ.
สวัสดี…พ่ออดิศักดิ์