การประจักษ์ของแม่พระเมืองลูร์ด ประเทศฝรั่งเศส เกิดขึ้นครั้งแรกในวันที่ 11 กุมภาพันธ์ 1958 ขณะที่เด็กหญิงชื่อแบร์นาแด็ต กำลังไปเก็บฟืนกับน้องสาว สตรีคนหนึ่งได้ปรากฏตัวให้แบร์นาแด็ตได้เห็น และยังได้พบกันอีกตลอดเวลา 5 เดือนรวม 18 ครั้ง สตรีนั้นได้บอกให้สวดสายประคำ ทั้งบอกให้เธอไปแจ้งคุณพ่อเจ้าอาวาสให้สร้างวัดขึ้นบริเวณนั้น ยังได้บอกความลับกับเธออีกหลายข้อ ซึ่งเธอได้เก็บไว้จนชั่วชีวิต เธอได้บอกเล่าเหตุการณ์ให้คนรอบข้างฟัง แต่ไม่มีใครเชื่อ เธอได้พยายามถามชื่อของสตรีคนนั้น จนกระทั่งในการประจักษ์ ครั้งที่ 16 วันที่ 25 มีนาคม สตรีนั้นได้บอกกับแบร์นาแด็ตว่า “ฉันคือการปฏิสนธินิรมล” หลังจากที่พระศาสนจักรดำเนินการสอบสวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ได้ประกาศรับรองว่า แม่พระได้ประจักษ์แก่แบร์นาแด็ต ต่อมาได้มีการสร้างสักการสถานแม่พระประจักษ์ที่ลูร์ด ตามที่แม่พระได้บอก
แม่พระประจักษ์ที่ลูร์ด เกิดขึ้น 4 ปีหลังจากที่พระศาสนจักร โดยพระสันตะปาปาปีโอที่ 9 ได้ประกาศเป็นข้อความเชื่อ “พระแม่มารีย์เป็นผู้ปฏิสนธิรมล” (วันสมโภช 8 ธันวาคม) ยืนยันว่าพระนางเป็นผู้ที่เต็มเปี่ยมด้วยพระจิตเจ้า และเป็นผู้ได้รับการคุ้มครองรักษาให้พ้นจากบาปทุกชนิด ในการประจักษ์ครั้งแรกๆ แบร์นาแด็ตไม่รู้ว่าสตรีผู้นั้นเป็นใคร ได้บอกให้สวดสายประคำ สวดให้คนบาปที่น่าสงสาร สวดให้โลกที่กำลังยุ่งยาก การประจักษ์บางครั้ง สตรีผู้นั้นก็บอกความลับบางประการซึ่งแบร์นาแด็ตได้รักษาไว้ตลอดชีวิต การประจักษ์ครั้งที่ 8 มีผู้ที่อยู่ใกล้เธอได้ยินเสียงเธอพูดว่า “ใช้โทษบาป ใช้โทษบาป ใช้โทษบาป” ครั้งต่อมาสตรีนั้นบอกให้เธอใช้มือขุดดินบริเวณนั้นได้มีน้ำพุไหลออกมา สตรีผู้นั้นบอกให้ไปแจ้งพระสงฆ์ให้สร้างวัดเล็กๆขึ้น การประจักษ์ครั้งที่ 15 มีผู้คนตามมาดูเหตุการณ์มากมาย หลังจากการประจักษ์ เธอได้ไปบอกเจ้าอาวาสถึงเรื่องที่สตรีผู้นั้นต้องการ เจ้าอาวาสบอกกลับมาว่าไปถามชื่อสตรีผู้นั้นมาก่อน ครั้งที่ 16 แบร์นาแด็ตได้อ้อนวอนขอให้สตรีผู้นั้นบอกชื่อ สตรีผู้นั้นซึ่งยืนพนมมือก็ค่อยๆกางแขนแบมือปล่อยให้ต่ำลงทั้งสองข้าง และบอกว่าฉันคือการปฏิสนธินิรมล เธอรีบวิ่งกลับไปบอกพระสงฆ์ ซึ่งถามว่าเธอรู้ไหม แปลว่าอะไร แบร์นาแด๊ตตอบว่าไม่รู้ค่ะ แต่หนูท่องมาตลอดทาง
เมืองลูร์ดกลายเป็นสถานที่แห่งหนึ่งที่มีคนเดินทางไปแสวงบุญจำนวนมาก โดยเฉพาะคนป่วยทั้งที่ยังพอเดินได้ด้วยตนเอง หรือแม้แต่ต้องนั่งรถเข็น พวกเขาเดินทางมาจากที่ต่างๆ ไปเพื่อสวดขอความช่วยเหลือผ่านทางแม่พระ มีคนจำนวนมากที่ได้รับความช่วยเหลือ เห็นได้จากมีป้ายเขียนคำขอบคุณมากมายติดอยู่ที่ผนังกำแพง และแม้ว่าพวกเขาเหล่านั้นไม่ใช่ทุกคนที่จะหายป่วยอย่างอัศจรรย์ แต่ก็ได้เห็นพลังความเชื่อศรัทธาที่บรรดาผู้แสวงบุญแสดงออกด้วยความเชื่อศรัทธา
ในปี 1993 โอกาสฉลองแม่พระประจักษ์ที่เมืองลูร์ด พระสันตะปาปายอห์นปอลที่ 2 ได้ประกาศให้เป็นวันผู้ป่วยโลก เนื่องจากพระองค์เองเริ่มป่วยมาระยะหนึ่ง และจากการที่ได้เห็นผู้คนมากมายเดินทางไปแสวงบุญที่เมืองลูร์ด ด้วยความเชื่อศรัทธาว่าจะได้รับการเยียวยารักษาผ่านทางการเสนอวิงวอนของพระแม่มารีย์ จึงประกาศให้วันฉลองแม่พระประจักษ์ที่ลูร์ดเป็นวันภาวนาเพื่อผู้ป่วย
ต่อมาปี 2013 พระสันตะปาปาเบเนดิกต์ที่ 16 ก็ใช้โอกาสวันวันผู้ป่วยโลก ประกาศสละตำแหน่งของพระองค์เอง ในวันผู้ป่วยโลกนี้พระศาสนจักรเชื้อเชิญบรรดาคริสตชนให้สวดภาวนาเพื่อบรรดาผู้เจ็บป่วย เพื่อผู้ที่ดูแลเอาใจใส่คนป่วย ให้การช่วยเหลือคนที่เจ็บป่วยและการแนะนำทางด้านจิตใจให้กับบรรดาผู้ป่วย
การเจ็บไข้ได้ป่วยเป็นเรื่องที่เราทุกคนต้องพบเจอ เมื่อเรายังแข็งแรง สุขภาพดี ก็เป็นโอกาสที่จะได้คิดถึงบรรดาผู้ป่วย ได้ช่วยเหลือและดูแลใจใส่บรรดาผู้เจ็บไข้ได้ป่วยที่เป็นญาติพี่น้อง ไม่มีใครอยากเจ็บป่วยหรือสุขภาพไม่ดี หากถึงเวลาต้องพบเจอด้วยตนเองก็ขอให้ได้เตรียมตัว มีบางคนเรียกช่วงเวลานี้ว่าเป็นพระพรยามเจ็บป่วย ซึ่งจะเป็นแบบนั้นได้ ผู้นั้นก็ต้องมีความเชื่อและเตรียมตัวพร้อมอย่างดีที่จะรับสภาพที่เกิดขึ้น
วันพุธรับเถ้า ตรงกับวันที่ 22 กุมภาพันธ์ จะมีมิสซาเวลา 19.00 น. ในระหว่างมิสซาก็จะมีพิธีเสกและโรยเถ้า และในวันอาทิตย์ที่ 26 กุมภาพันธ์ สัปดาห์แรกของเทศกาลมหาพรต ตอนปลายของทุกมิสซาก็จะมีการโรยเถ้าให้กับพี่น้องทุกท่านที่ไม่สามารถมาร่วมรับเถ้าในวันพุธรับเถ้า
ในวันพุธรับเถ้า พระศาสนจักรกำหนดให้เป็นวันพลีกรรมใช้โทษบาป มีการจำศีลอดอาหาร
คริสตชนทุกคนที่มีอายุ 14 ปีบริบูรณ์ จะต้องอดเนื้อ และผู้ที่อายุ 18 ปีบริบูรณ์ – 59 ปีบริบูรณ์ ต้องอดอาหาร หมายถึงในวันนั้น ทานอิ่มได้เพียงมื้อเดียว
การเตรียมเถ้า ปกติก็จะให้ใบลานเก่า นำมาเผาทำเป็นผงเถ้าเพื่อใช้ในพิธี จึงขอพี่น้องได้ช่วยนำใบลานที่ใช้ในปีที่แล้วมาส่งที่วัด เพื่อรวบรวมและจัดทำเป็นเถ้าสำหรับใช้ในวันพุธรับเถ้า
สวัสดี…พ่ออดิศักดิ์