วันที่ 19 มีนาคมของทุกปี จะเป็นวันสมโภชนักบุญยอแซฟ พระศาสนจักรให้ความสำคัญท่านบุญยอแซฟ วันฉลองของท่านเป็นถือการสมโภช หากในปีใดตรงกับวันอาทิตย์ซึ่งมักจะอยู่ในช่วงเทศกาลมหาพรต การสมโภชนักบุญยอแซฟจะเลื่อนไปจัดในวันจันทร์ถัดไป มิสซาเช้าของวันจันทร์นี้จะเป็นมิสซาสมโภชนักบุญยอแซฟ
วันนี้ ยังมีความสำคัญอีกประการหนึ่ง ย้อนหลังไปในปี ค.ศ. 2013 สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสได้รับเลือกให้เป็นประมุขสูงสุดปกครองพระศาสนจักร ได้มีพิธีรับตำแหน่งและมิสซาโมทนาคุณพระในวันสมโภชนักบุญยอแซฟ ปีนี้เป็นโอกาสครบรอบ 10 ปีแห่งสมณสมัยของพระองค์ สภาพระสังฆราชแห่งประเทศไทยได้เชิญพี่น้องคริสตชนได้ร่วมพิธีบูชาในเย็นวันอาทิตย์นี้ที่อัสสัมชัญ สำหรับพี่น้องสัตบุรุษของอาสนวิหารอัสสัมชัญก็คงจะมีภาพความทรงจำที่ประทับใจ คราวที่สมเด็จพระสันตะปาปาฟรังซิสเสด็จเยือนประเทศไทย ได้พบกับพี่น้องสัตบุรุษโดยเฉพาะบรรดาเยาวชน ได้เป็นประธานถวายบูชามิสซาที่อาสนวิหารอัสสัมชัญแห่งนี้ จึงเป็นโอกาสที่พี่น้องจะได้ระลึกถึง สวดภาวนาขอพระเจ้าเพื่ออำนวยพรและปกป้องคุ้มครองพระสันตะปาปาฟรังซิสในภารกิจและชีวิตของพระองค์
การเดินทางของพวกเราในเทศกาลมหาพรตมาถึงสัปดาห์ที่ 4 แล้ว เป้าหมายของการเดินทางคือการร่วมสมโภชปัสกากับพระเยซูเจ้า จิตตารมณ์ของเทศกาลมหาพรตคือการชำระจิตใจให้บริสุทธิ์ เชิญชวนเราทุกคนปฏิบัติอย่างจริงจังด้วยการสวดภาวนา การทำพลีกรรม ทำกิจใช้โทษบาปและการทำบุญบริจาค อยากให้พี่น้องคิดถึงความตั้งใจดี เมื่อวันพุธรับเถ้า หรือวันอาทิตย์สัปดาห์แรกของเทศกาลมหาพรตที่พี่น้องได้ตั้งใจมาวัด ตั้งใจมารับเถ้า วันนั้นมีความตั้งใจอยากจะปรับปรุงตนเอง พอเวลาผ่านไป การขาดความเอาจริงเอาจังอย่างต่อเนื่อง และความเฉื่อยชาเริ่มครอบงำ เป็นธรรมชาติของเราที่มักจะเป็นแบบนี้ การสวดภาวนา การชำระจิตใจและการบริจาคเป็นกิจกรรมที่เสริมสร้างและต่อเนื่องกัน สำหรับเรื่องการบริจาค พี่น้องคงได้นำภาชนะที่เป็นกระบอกพลาสติกกลับไปไว้ที่บ้าน เพื่อหยอดเงินที่เกิดจากการบังคับใจกาย ไม่ซื้อของที่อยากได้หรือ อดใจไม่ทานอาหารที่อยากกินและนำเงินนั้นใส่กระปุกออมเงินมหาพรต การออมเงิน ตามจิตตารมณ์เป็นแบบนี้ มีคุณค่าเมื่อมาจากการสละน้ำใจ โดยที่เราก็ไม่ได้เก็บเงินส่วนนั้นไว้ใช้ในภายหลัง แต่ยินดีเสียสละเพื่อส่งต่อไปยังคนอื่น ซึ่งเมื่อสิ้นสุดเทศกาลมหาพรตจะมีการรวบรวมและส่งเงินเหล่านั้น เพื่อช่วยคนยากจนขัดสน อยากเขียนเรื่องนี้เพื่อเตือนใจจะได้ไม่ลืมช่วงเวลามหาพรต พระพรที่พระเจ้าทรงเมตตาและประทานให้พวกเราทุกคนคือเวลาที่เรามีชีวิตและโอกาสให้หันเหปรับชีวิตให้อยู่ในหนทางที่ใกล้ชิดกับพระเจ้า เราผ่านวันเวลาชีวิตโดยไม่รู้ตัว ไม่ตั้งใจ เดี๋ยวมหาพรตก็จะจบลง แล้วก็อาจจะคิดเสียดายเวลาที่ผ่านไป
พระวรสารในสัปดาห์นี้ พระเยซูเจ้าทรงรักษาชายตาบอดแต่กำเนิดคนหนึ่ง คนที่ตาบอดตั้งแต่เกิดเป็นคนที่มีความทุกข์อย่างมาก แต่เมื่อยังมีชีวิตก็ต้องพยายามทุกวิถีทางเพื่อประคองเอาชีวิตรอดต่อไป ทั้งมีความหวังว่าสักวันหนึ่งจะมีโอกาสมองเห็น พระเยซูเจ้าได้พบชายคนนี้ ทรงรักษาตาของเขาโดยใช้น้ำลายผสมฝุ่นดินทำเป็นโคลนป้ายที่ตาและให้เขาไปล้างตาที่สระสิโลอัม ชายคนนั้นลงไปล้างตาแล้วก็กลับมองเห็น สำหรับคนที่ตาบอด เขามีความยินดีที่ไม่เคยคิดว่าจะพบเจอเรื่องแบบนี้ ไม่เคยมีใครให้ความสนใจ ต้องดิ้นรนใช้ชีวิตในโลกมืด แต่พระเยซูเจ้าทรงเห็นความกระหายที่อยากจะเห็นซึ่งอยู่ภายในใจที่ถูกความมืดบอดปิดบังไว้ พระองค์ทรงทำลายอุปสรรคและทำให้เขามองเห็น ไม่ใช่เห็นเพียงทางกายภาพแต่ได้เห็นความช่วยเหลือจากพระเยซูซึ่งเขาไม่ได้รู้จักพระองค์มาก่อน เรื่องราวในพระวรสารตอนนี้ ทำให้เราคิดถึงสภาพที่เราแต่ละคนก็อยู่ในสภาพที่มองไม่เห็น ถูกบางสิ่งบางอย่างทำให้เกิดอาการมืดบอด พระเยซูเจ้าทรงพร้อมจะช่วยให้เราได้เห็นและทรงปรารถนาให้เราทุกคนได้เห็นเรื่องราวที่กำลังจะเกิดขึ้นกับตัวของพระองค์ ความทุกข์ทรมาน ยอมรับความตายและการกลับคืนพระชนมชีพ เป็นเรื่องที่พระเจ้าอยากให้เราได้มองเห็น ได้รับรู้และติดตามใกล้ชิด…
สวัสดี…พ่ออดิศักดิ์