ประเทศไทยของเราอยู่ในช่วงเวลาที่จะมีเหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้น ตามที่พวกเราทุกคนทราบดี วันที่ 14 พฤษภาคมจะเป็นเลือกตั้งส.ส เลือกผู้ที่จะมาทำหน้าที่เป็นผู้บริหารประเทศ ซึ่งครั้งนี้ระบบของเราได้ออกแบบให้เลือก 2 ส่วน มีบัตรเลือกตั้ง 2 ใบ ใบแรกเลือกคนที่เราตั้งใจสนับสนุนให้เป็นส.ส ส่วนใบที่ 2 เลือกพรรคการเมืองที่เราสนับสนุน ซึ่งจะได้รับผลเป็นส.ส. บัญชีรายชื่อของพรรคนั้นๆ ในฐานะที่เป็นพลเมืองดี ขอพี่น้องได้ทำหน้าที่ซึ่งเราทุกคนมีสิทธิ์ ให้ใช้สิทธิ์เลือกอย่างอิสระ บนฐานความคิดของพี่น้อง เลือกคนดี คนที่พร้อมอุทิศตนเสียสละทำงานเพื่อส่วนรวม
มีพี่น้องคริสตชนส่วนหนึ่งได้ทำงานและมีบทบาทหน้าที่ทางการเมือง ทั้งที่ทำงานในส่วนหน้าหรือส่วนหลังที่อาจจะไม่มีใครรู้จัก ทุกท่านคงจะมีความมั่นใจว่าได้ทำหน้าที่ของตนอย่างดีบนความเชื่อมั่นว่าพระเจ้าทรงประทับอยู่ด้วยเสมอ การมีตำแหน่งทางการเมืองในทุกส่วนไม่เฉพาะเพียงแค่การเป็นส.ส. ซึ่งมีบทบาทหน้าที่สำคัญในบริหารประเทศ แต่ยังมีตำแหน่งหน้าที่ทางการเมืองในระดับอื่นๆ ทั้งในระดับจังหวัด อำเภอ ตำบล ผู้นำชุมชน ความคิดของคนทั่วไปมักจะคิดว่า การมีตำแหน่งทางการเมืองก็คือการมีอำนาจ ซึ่งหมายถึงจะมีบทบาทสำคัญที่จะชี้นำนโยบายและบริหารจัดการงบประมาณ เราทุกคนคาดหวังว่าจะได้คนดีจริง ที่อาสาเข้ามาช่วยพัฒนาสังคมให้ดีงามและมีความสงบสุข
พระวาจาของพระเจ้าจากพระวรสารในมิสซาอาทิตย์นี้ เป็นประโยคทองของพระเยซูเจ้าที่เราทุกคนจำได้ดี “เราเป็นหนทาง ความจริง และชีวิต ไม่มีใครไปเฝ้าพระบิดาได้ นอกจากผ่านทางเรา” หากจะคิดถึงช่วงเวลาที่เราเรียกว่าเทศกาลปัสกา ก็เข้าสู่ช่วงหลังแล้ว อีก 2 สัปดาห์ก็จะเป็นวันสมโภชพระเยซูเจ้าเสด็จขึ้นสู่สวรรค์ และต่อจากนั้น ก็เป็นการสมโภชพระจิตเจ้า เป็นการสิ้นสุดเทศกาลปัสกาในปีนี้ พระเยซูเจ้าเองทรงรู้แน่ว่า แม้พระองค์อยากอยู่ใกล้ชิดกับบรรดาศิษย์ต่อไปนานๆ แต่ก็จะถึงวันที่พระองค์จะต้องเสด็จกลับคืนสู่สวรรค์ กลับไปหาพระบิดา พระเยซูเจ้าในฐานะเป็นมนุษย์ ทรงห่วงใยมีความผูกพันกับผู้อยู่ใกล้ชิดกับพระองค์ พระองค์บอกบรรดาสาวกและพวกเราทุกคนว่า พระองค์เอง “เป็นหนทาง ความจริง และชีวิต” เป็นแพ็คเกจที่พระองค์จัดให้ ใครก็ตามที่เริ่มต้นจะด้วยอะไรก็ตาม ก็จะได้รับครบในส่วนที่เหลือ คนที่เริ่มด้วยการให้พระเยซูเจ้าทรงนำทาง และติดตามพระองค์หรือปฏิบัติตามเรื่องราวที่พระองค์สอน เป็นดังทางเดินชีวิตและการปฏิบัติแบบนี้จะนำพวกเขาไปสู่ความจริง และเมื่อตระหนักว่าได้อยู่ในความจริง ผู้นั้นก็จะไม่แสวงหาสิ่งอื่นใดอีก ที่สุดความจริงก็นำพาเขามีชีวิตอยู่กับพระเจ้า บางคนอาจจะเริ่มด้วยการแสวงหาความจริงแท้ มีผู้สนใจที่สมัครเรียนคำสอน เขากำลังแสวงหาคำตอบที่เขาสงสัย ถึงเรื่องกำเนิดของสิ่งต่างๆรวมทั้งชีวิต ที่สุดก็จะค้นพบความจริงที่อยู่เหนือเหตุผลและสิ่งที่เราเรียกว่าความเชื่อ ซึ่งนำพาเขายอมรับว่า พระเจ้าทรงเป็นผู้ให้กำเนิดชีวิตและความเชื่อนี้ก็จะเป็นทางเดินนำพาเขาไปสู่ชีวิต
พระศาสนจักรเตรียมเราทุกคนเพื่อดำเนินชีวิตทุกๆวันต่อไป พระเยซูเจ้าทรงส่งพวกเราให้มีชีวิตในสังคม ในโลกนี้ ยังคงให้ทุกคนมีชีวิตอยู่ เราส่งท่านไปในโลก ยน.17:18 “พระองค์ทรงส่งข้าพเจ้ามาในโลกฉันใด ข้าพเจ้าก็ส่งเข้าไปฉันนั้น” เราทุกคนไม่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์ เป็นคริสตชน มาเป็นลูกของพระด้วยความบังเอิญ แต่เป็นพระเจ้าเองที่ทรงรู้จักเราทุกคน กำหนดให้มีเหตุการณ์ต่างๆตามเวลาและโอกาสที่เป็นไปในชีวิตของเรา พระเจ้ากำหนดและวางชีวิตของพี่น้องลงในสถานที่ที่พี่น้องมีชีวิตอยู่ บ้านพักอาศัยที่มีเพื่อนบ้าน สถานที่ทำงาน รวมถึงโอกาสได้พบปะผู้คนมากมาย ที่เป็นเพื่อนมนุษย์ร่วมสังคมเดียวกัน
การประกาศพระคริสตเจ้าด้วยประจักษ์พยานชีวิต เป็นส่วนที่มีความสำคัญ เป็นแนวทางที่พระเจ้าทรงให้เราทุกคนปฏิบัติ คือการดำเนินชีวิตในโลก (ด้วยความเชื่อที่มั่นคงในพระเจ้า) ขอพี่น้องเริ่มต้นโดยมีความเชื่อในพระเจ้า พระองค์จะทรงดลใจให้เห็นหนทางที่จะก้าวเดิน หนทางที่จะปฏิบัติความดี ความถูกต้อง ขอให้ชีวิตและครอบครัวของพี่น้องได้เป็นบ้านแห่งความเชื่อ และขอพระเจ้าได้ทรงทำให้คนรอบข้างได้เห็น และได้สัมผัสแสงแห่งความดีงามและนำพาพวกเขาให้ได้พบความรักของพระองค์ด้วย
สวัสดี…พ่อเจ้าอาวาส