หลังจากเทศกาลปัสกาสิ้นสุดลงด้วยการสมโภชพระจิตเจ้า ยังมีวันสมโภชต่อเนื่องอีก 2 วันคือการสมโภชพระตรีเอกภาพในวันอาทิตย์นี้ และสัปดาห์หน้าก็จะเป็นการสมโภชพระคริสตวรกาย จากนั้นก็จะเข้าสู่ช่วงที่ปลอดจากการฉลอง ซึ่งเราเรียกว่าเทศกาลธรรมดา การสมโภชพระตรีเอกภาพ เป็นคำสอนของพระศาสนจักรคาทอลิก ความเป็นหนึ่งเดียวขององค์พระผู้เป็นเจ้า ที่ประกอบด้วย 3 พระบุคคล พระบิดา พระบุตรและพระจิต ในคำอธิบายเรื่องข้อความเชื่อประการนี้พระบิดาเป็นพระเจ้า พระบุตรทรงเป็นพระเจ้า และพระจิตทรงเป็นพระเจ้า ทั้ง 3 พระบุคคล ไม่ใช่พระเจ้า 3 พระองค์แต่เป็นพระเจ้าองค์เดียว เรียกว่าพระตรีเอกภาพ
พระตรีเอกภาพอยู่เหนือและเกินกว่าสติปัญญาของมนุษย์เราจะเข้าใจ เรามีเพียงความเชื่อที่นำพาให้รู้จักพระบิดาผู้ทรงสร้างสรรพสิ่งทั้งหลายตั้งแต่ในอดีตและตลอดไปในอนาคต เรารู้จักและมีความเชื่อว่า พระเยซูเจ้าทรงเสด็จมาบังเกิดเป็นมนุษย์ หลังจากสิ้นพระชนม์ พระองค์ได้เสด็จกลับสู่สวรรค์ พระองค์ได้เปิดเผยให้เรารู้ว่า พระองค์เป็นพระบุตรขององค์พระผู้เป็นเจ้า ทรงเตรียมบรรดาอัครสาวกให้พร้อมเพื่อรับการเสด็จมาขององค์พระจิตเจ้า และเป็นพระจิตเจ้าที่ยังคงประทับอยู่เพื่อภารกิจขององค์พระผู้เป็นเจ้า จนกว่าจะบรรลุความสำเร็จ ความเข้าใจของเรามนุษย์ก็คงไปได้ประมาณนี้ นั่นก็หมายความได้ว่า เราทุกคนและสิ่งสร้างทั้งหมดล้วนอยู่ภายใต้และการปกครองดูแลของพระตรีเอกภาพเสมอ ไม่มีอะไรเลยที่อยู่นอกการเป็นอยู่ของพระตรีเอกภาพ
เมื่อ 2 สัปดาห์ก่อนบทอ่านในมิสซาประจำวัน ได้เล่าเรื่องเหตุการณ์ตอนที่นักบุญเปาโลไปเทศน์สอนที่กรุงเอเธนส์ ที่นั่นมีแท่นบูชาเทพเจ้าของชาวกรีกหลายพระแท่น แต่มีพระแท่นที่ว่างเปล่า มีเพียงอักษรเขียนไว้ว่า แด่พระเจ้าที่เราไม่รู้จัก เปาโลได้ใช้พระแท่นนี้เพื่ออธิบายให้บรรดาผู้คนและชาวกรีกเข้าใจถึงพระเจ้าที่เขาไม่รู้จัก ก็คือองค์พระผู้เป็นเจ้า หากคิดถึงความเป็นมาของการตั้งพระแท่นนี้ ชาวกรีกมีเทพเจ้าที่มีความสามารถในด้านต่างๆ แต่ก็ดูเหมือนว่าจะยังขาดอยู่ ก็เลยตั้งพระแท่นเพื่อถวายบูชาแด่พระเจ้าองค์นั้นที่เขาไม่รู้จัก
ในยุคสมัยของเปาโลและบรรดาอัครสาวกที่อยู่ภายใต้อิทธิพลความเชื่อในแบบชาวโรมและกรีก ได้มีการบูชาเทพเจ้าต่างๆ ในดินแดนปาเลสไตน์ชนชาติที่อยู่โดยรอบชาวยิวก็มีการนับถือเทพเจ้าต่างๆมากมาย โมเสสได้กำหนดแนวทางปฏิบัติเพื่อบรรดาชาวยิวจะไม่ออกนอกทาง ให้พวกเขานมัสการและมีความเชื่อซื่อสัตย์ต่อพระยาห์เวห์ เป็นพระเจ้าเพียงผู้เดียว ทำให้บรรดาชาวยิวไม่ยอมรับพระเยซูเจ้าเมื่อพระองค์เปิดเผยว่าพระองค์ทรงเป็นพระบุตรของพระเจ้า ทั้งๆที่พระองค์ทรงทำอัศจรรย์ต่างๆมากมายแม้กระทั่งการเสด็จกลับคืนพระชนมชีพจากความตาย มีเพียงชาวยิวบางส่วนเท่านั้นที่ยอมรับและมีความเชื่อในพระองค์
สำหรับพวกเรา องค์พระผู้เป็นเจ้า และพระเยซูคริสตเจ้า คงไม่ได้เป็นพระเจ้าที่เราไม่รู้จักพวกเรารู้จักองค์พระผู้เป็นเจ้าอยู่บ้าง มีความเชื่อและมีประสบการณ์สัมผัสความรัก ความเมตตาของพระเจ้า พระเจ้ายังคงรอคอยอยู่และพร้อมเปิดเผยชีวิตของพระองค์กับทุกคน แต่ละคนจะมีวิธีการรู้จักพระเจ้าแตกต่างกัน ซึ่งไม่ใช่เพียงแค่สติปัญญาเพื่อเรียนรู้และเข้าใจ แต่สิ่งที่สำคัญกว่าคือการได้มีประสบการณ์ตรงที่ได้พบกับองค์พระผู้เป็นเจ้า พระเจ้าทรงอยู่ใกล้กับพี่น้องทุกคนในรูปแบบและวิธีการต่างๆ ซึ่งหากพี่น้องได้ไตร่ตรองมองดูความเป็นไปในชีวิต จะเป็นความบังเอิญหรือความพอดีที่ไม่คาดคิด องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงอยู่ที่นั่นเสมอ
การไตร่ตรองและมีประสบการณ์ความเชื่อ การเป็นคริสตชนแม้ว่าจะล้างบาปมานานแล้วก็ไม่ได้หมายความว่ามีความเชื่อในพระเจ้ามากกว่า เราทุกคนต่างจะต้องพยายามเพิ่มพูนความเชื่อซึ่งมาจากเหตุการณ์ปกติในชีวิตประจำวัน การปฏิบัติหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบในที่ทำงาน ที่บ้าน กับคนในครอบครัว ไม่ใช่ตัวเราเพียงลำพัง แต่มีองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงประทับอยู่เคียงข้างเสมอ
สวัสดี…พ่ออดิศักดิ์