วันนี้เป็นวันสมโภชพระวรกายและพระโลหิตของพระคริสตเจ้า หรือจะเรียกว่าวันฉลองศีลมหาสนิทก็ได้ เป็นวันสมโภชที่มาจากคำภาษาละตินว่า Corpus Christi ในภาษาไทยหมายถึงการฉลองพระกายของพระเยซูเจ้า เป็นวันฉลองที่มีความเป็นมายาวนานในพระศาสนจักรคาทอลิก แต่เดิมเคยจัดให้มีการฉลองในวันพฤหัสบดีหลังจากการสมโภชพระตรีเอกภาพ ต่อมาได้เลื่อนวันฉลองมาจัดในวันอาทิตย์ ความสำคัญของการฉลองนี้ เพื่อเป็นการแสดงความเชื่อมั่นในการประทับอยู่ของพระเยซูเจ้า ในรูปของศีลมหาสนิท เป็นพระกายและพระโลหิตของพระเยซูเจ้า
ย้อนกลับไปในช่วงเวลาที่ชาวยิวเดินทางอพยพออกจากการเป็นทาสในประเทศอียิปต์ โมเสสได้พาพวกเขาเดินทางผ่านถิ่นทุรกันดารในทะเลทรายเพื่อเข้าสู่ดินแดนที่พระเจ้าทรงสัญญา ตลอดวันเวลาของการเดินทาง พระเจ้าทรงเลี้ยงดูพวกเขาด้วยมานนา อาหารที่ทำให้พวกเขาดำรงชีวิตอยู่ได้จนกระทั่งเข้าสู่แผ่นดินแห่งพระสัญญา มานนาเป็นอาหารจากพระเจ้าที่ทรงจัดเตรียมเพื่อช่วยเหลือ เลี้ยงดู ประชากรของพระองค์ ทำให้เราเข้าใจถึงความห่วงใย เอาใจใส่ของพระเจ้า พระองค์ทรงช่วยเหลือให้ชีวิตเป็นไปตามธรรมชาติ มานนามีอยู่ที่พื้นดิน ทุกวันตอนเช้าชาวอิสราเอลจะออกไปเก็บรวบรวม มีพอกินสำหรับตัวเองและครอบครัว มานนาหมดลงเมื่อชาวยิวเดินทางเข้าสู่ดินแดนแห่งพระสัญญา
พระเยซูเจ้าก็ทรงเลี้ยงดูประชากรของพระองค์เช่นเดียวกัน ในพระวรสารได้เล่าเหตุการณ์ตอนที่มีผู้คนมากมายติดตามพระเยซูเจ้าเพื่อจะฟังบทเทศน์สอนของพระองค์ ทั้งจะได้พบกับพระองค์เพื่อขอให้ทรงรักษาความเจ็บไข้ได้ป่วย เย็นวันนั้น พระเยซูเจ้าทรงเลี้ยงผู้คนเหล่านั้นด้วยขนมปัง 5 ก้อนกับปลา 2 ตัว พระองค์บอกให้บรรดาสาวกเอาไปแจกให้ทุกคนที่อยู่ที่นั่นได้กินจนอิ่ม พระองค์ทรงเลี้ยงด้วยอาหารฝ่ายกาย แต่ความสำคัญไม่ได้อยู่เพียงร่างกาย แต่อยู่ที่จิตใจและทรงปรารถนาให้พวกเขาดำเนินชีวิตติดตามพระองค์ต่อไป
สมัยของบรรพบุรุษ ชาวยิวได้กินมานนา อาหารที่ช่วยให้มีชีวิต แต่มานนาเป็นอาหารที่กินแล้วก็ยังตาย พระเยซูเจ้าทรงเปิดเผยกับบรรดาสาวกว่า พระองค์จะทรงเตรียมอาหารไว้ให้พวกเขา อาหารที่ไม่ใช่ขนมปังที่กินอิ่มแล้วก็จะหิวอีก แต่เป็นอาหารที่ช่วยให้มีชีวิตนิรันดร บรรดาสาวกได้ยินเช่นนั้นจึงบอกกับพระองค์ว่า ขอพระองค์ประทานอาหารนั้นให้พวกเขา พระเยซูเจ้าตรัสกับเขาว่า “เราเป็นปังแห่งชีวิต ผู้ที่มาเราจะไม่หิว และผู้ที่เชื่อในเราจะไม่กระหายอีกเลย” พระองค์ทรงเป็นเหมือนกับมานนาใหม่ ใครที่กินมานนาใหม่ก็จะมีชีวิตนิรันดร
ในพิธีบูชามิสซาขอบพระคุณ ประกอบด้วย 2 ส่วน ส่วนแรก ที่เราเรียกว่าภาคพระวาจา จะเป็นส่วนที่เราได้ฟังพระวาจาของพระเจ้า ที่ตรัสกับเราผ่านทางหนังสือพระคัมภีร์ ซึ่งเป็นทั้งพันธสัญญาเดิมและพันธสัญญาใหม่ ในส่วนที่ 2 คือภาคบูชาโมทนาคุณ เป็นการรำลึกถึงสิ่งที่พระเยซูเจ้าทรงกระทำเมื่อตั้งศีลมหาสนิท และเป็นการกระทำให้เกิดขึ้นมาอย่างแท้จริง ด้วยคำพูดเดียวกัน กับที่พระเยซูเจ้าได้ตรัส องค์พระจิตเจ้าทรงเปลี่ยนแผ่นปังให้กลายเป็นกายของพระเยซูเจ้า และเปลี่ยนเหล้าองุ่นให้เป็นพระโลหิตของพระองค์ พระเยซูเจ้าทรงมอบร่างกายของพระองค์ในรูปของศีลมหาสนิท เป็นอาหารแห่งชีวิตของบรรดาคริสตชนผู้มีความเชื่อ การมาร่วมมิสซาจึงเป็นการมาร่วมในเหตุการณ์ที่พระเยซูเจ้าทรงเชื้อเชิญให้ออกมารับพระกายของพระองค์ ซึ่งเป็นปังแห่งชีวิต เพื่อช่วยให้ผู้ที่รับศีล ได้ร่วมเป็นหนึ่งเดียวกับพระองค์ คำว่า ศีลมหาสนิท จึงเป็นคำที่มีความหมายอย่างยิ่งเมื่อพี่น้องได้ออกไปด้วยความเชื่อ ยื่นมือออกไปรับ เมื่อพระสงฆ์บอกว่า พระกายพระคริสตเจ้า วางลงบนฝ่ามือ ซึ่งพี่น้องจะรับเข้าสู่ร่างกาย เป็นการประทับอยู่อย่างชิดสนิทขององค์พระเยซูเจ้า
การแห่ศีล เป็นการแสดงความเชื่อถึงการประทับอยู่ของพระเยซูเจ้าในศีลมหาสนิท เป็นการเทิดเกียรติ ถวายความเคารพต่อพระเจ้า ซึ่งมีความหมายลึกซึ้งในชีวิตของพี่น้องทุกคน ทรงเป็นพระเจ้าที่ประทับอยู่ท่ามกลางพี่น้อง ทรงเป็นอาหารที่จะเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตและบันดาลให้ชีวิตของพี่น้องได้เปลี่ยนแปลงเป็นคนใหม่ เป็นปังจากสวรรค์ ใครที่กินปังนี้จะมีชีวิตอยู่ตลอดไป
สวัสดี…พ่ออดิศักดิ์