บทอ่านจากบทความกล่าวถึงบทข้าแต่พระบิดา โดยนักบุญชีเปรียน พระสังฆราช และมรณสักขี
ให้คำภาวนาของท่านออกมาจากจิตใจที่สุภาพ
เมื่อเราภาวนา วาจาของเราจะต้องสงบเสงี่ยม และอยู่ในระเบียบอันดีงาม ให้เราตระหนักว่าเรากำลังอยู่เฉพาะพระพักตร์พระเป็นเจ้า เราต้องให้พระองค์พอพระทัย ทั้งด้วยอากัปกิริยาและมารยาทในวาจา เป็นลักษณะของไพร่ที่จะตะโกนและทำเสียงอึกทึก แต่ไม่ใช่ลักษณะของคนสงบเสงี่ยม ตรงกันข้ามเขาควรใช้น้ำเสียงเรียบๆ ในการภาวนา
ยิ่งกว่านั้น ในระหว่างที่พระองค์เทศนา พระองค์ทรงสอนให้เราภาวนาในที่เร้นลับและสันโดษ แม้ว่าห้องของเราเอง ก็จะเป็นพยานถึงการที่เราเชื่อว่า พระเป็นเจ้าสถิตอยู่ทั่วไป พระองค์ทรงเห็นและได้ยินทุกสิ่งด้วยความสมบูรณ์แห่งอานุภาพของพระองค์ พระองค์ทรงหยั่งรู้ แม้ในที่เร้นลับ ท่านเยเรมีย์สอนว่า “เราเป็นพระเป็นเจ้าที่อยู่ใกล้ ไม่ใช่พระเป็นเจ้าที่อยู่ไกล ใครจะซ่อนตัวอยู่ในมุมมืดได้ โดยที่เราไม่เห็น เราไม่อยู่เต็มสวรรค์และแผ่นดินหรือ?” พระคัมภีร์ยังกล่าวอีกว่า “สายพระเนตรของพระเจ้าอยู่ทุกหนทุกแห่ง ทรงสอดส่องทั้งผู้ชอบธรรมและคนอธรรม”
ความสงบเสงี่ยมและความมีระเบียบเรียบร้อย จะต้องเป็นลักษณะของการภาวนาในพิธีกรรมของเราเช่นเดียวกัน เมื่อเราชุมนุมกัน เฉลิมฉลองธรรมล้ำลึกของพระเป็นเจ้า ร่วมกับพระสงฆ์ของพระองค์ เราควรภาวนาอย่างสุภาพและมีระเบียบ คำทูลขอต่อพระเป็นเจ้าด้วยความรู้ประมาณ ไม่สมควรตะโกนด้วยเสียงดัง และใช้คำพูดมากเกินไป เหตุว่า พระเป็นเจ้าทรงได้ยินดวงใจของเรา มิใช่เสียงของเรา พระองค์ทรงล่วงรู้ความคิดของเรา เราจึงไม่ต้องตะโกนใส่พระองค์ พระองค์แสดงให้เราเห็นความจริงข้อนี้ ในเมื่อพระองค์ทรงถามว่า “ทำไมท่านจึงมือคติในใจท่าน?” หนังสือวิวรณ์ก็ยืนยันในข้อนี้ด้วยว่า “และทุกคนจะรู้ว่าเราเป็นผู้ที่แสวงหาดวงใจและความปรารถนา”
ในหนังสือพงศ์กษัตริย์ฉบับที่หนึ่ง อันนาเป็นรูปแบบของพระศาสนจักร เธอถือซื่อสัตย์ในเรื่องนี้ เพราะเมื่อเธออธิษฐานภาวนาต่อพระเจ้า เธอมิได้ภาวนาด้วยเสียงดัง แต่ภาวนาในใจอย่างเงียบๆ เธออธิษฐานด้วยคำภาวนาที่ซ่อนเร้น แต่ด้วยความเชื่อที่แจ้งชัด มิใช่ด้วยเสียงแต่ด้วยใจ เพราะเธอทราบว่าพระเจ้าทรงฟังคำภาวนาแบบนี้ แล้วเธอก็ได้รับผลตามที่เธออธิษฐาน เพราะเธอได้อธิษฐานโดยวิธีที่ถูกต้อง พระคัมภีร์กล่าวว่า “เธอกำลังพูดด้วยจิตใจ ริมฝีปากเธอขมุบขมิบ ไม่มีใครได้ยินเสียงเธอ แต่พระเป็นเจ้าได้สดับฟังเธอ” ในเพลงสดุดี ผู้ประพันธ์เพลงสดุดีเตือนเราด้วยเช่นกันว่า “จงรำพึงในจิตใจและเป็นทุกข์อยู่บนที่นอนของท่าน” พระจิตเจ้าก็ได้ทรงสอนสิ่งเดียวกันนี้ ทางประกาศกเยเรมีย์ “ข้าแต่พระเป็นเจ้า ข้าพเจ้าทั้งหลายควรต้องนมัสการพระองค์ในจิตใจ”
พี่น้องที่รัก ใครก็ตามที่นมัสการพระเป็นเจ้าควรระลึกว่าคนเก็บภาษีและฟาริสีภาวนาอย่างไรในพระวิหาร คนเก็บภาษีไม่กล้าเงยหน้าขึ้นสู่เบื้องบน หรือยกมือขึ้นอย่างหยิ่งผยอง เขากลับข้อนอกและสารภาพบาปที่ซ่อนอยู่ภายในจิตใจ วอนขอพระมหากรุณาของพระเจ้าให้ช่วยเหลือเขา ในขณะที่ฟาริสีพึงพอใจในตนเองเต็มที่ คนเก็บภาษีจึงสมควรได้รับความศักดิ์สิทธิ์ เพราะเขาอธิษฐานด้วยวิธีที่ถูกต้อง เขามิได้หวังว่าจะรอดได้โดยอาศัยความบริสุทธิ์ของเขา เพราะตามความจริง ไม่มีใครปราศจากความผิด ตรงกันข้ามเขาภาวนาด้วยใจสุภาพและสารภาพบาปของตน และองค์พระผู้เป็นเจ้าผู้ประทานอภัยแก่ผู้มีใจสุภาพก็ทรงสดับฟังคำภาวนาของเขา…
พระวาจาอาทิตย์นี้ เมื่อเราได้รับ “ข่าวดี” แห่งความรัก ความเมตตา การให้อภัย และความรอดของพระเจ้า เราได้เป็นคนของพระองค์ผ่านทางพระเยซูพระบุตรของพระองค์
การอ่านบทแรก ชาวอิสราเอลได้รับข่าวดีว่าพระเจ้าแห่งภูเขาซีนายทรงรักและห่วงใยประชาชนของพระองค์ พระเจ้าทรงแสดงความห่วงใยต่ออิสราเอลอย่างต่อเนื่องโดยปลดปล่อยประชาชนจากการเป็นทาสในอียิปต์ และโดยเสนอความสัมพันธ์จะเป็น “กรรมสิทธิ์พิเศษของพระเจ้า”
ในบทอ่านที่สองของวันนี้ นักบุญเปาโลใคร่ครวญการสิ้นพระชนม์ และการฟื้นคืนพระชนม์ของพระเยซูเจ้า ได้สำแสดงความรักและความห่วงใยที่พระเจ้ามีต่อมนุษยชาติอย่างไร? ซึ่งข้อพิสูจน์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดเกี่ยวกับความรักและความห่วงใยของพระเจ้าที่มีต่อเราคือ ความเต็มใจของพระเยซูที่จะสิ้นพระชนม์เพื่อมนุษยชาติที่เป็นคนบาป และเพื่อให้เป็นไปได้ที่ความสัมพันธ์ใหม่และดียิ่งขึ้นกับพระเจ้า
สู่พระวรสารในวันนี้เป็นเครื่องเตือนใจจากพระเจ้าถึงเราแต่ละคนว่า “เราได้รับพระคุณและพรสวรรค์จากพระโดยไม่คิดมูลค่า ดังนั้นคุณต้องให้โดยไม่คิดมูลค่าผ่านชีวิตที่เรียบง่าย รับผิดชอบ และแบ่งปัน” นี่เป็นแกนหลักของกระแสเรียกของนักบวช พระสงฆ์และกระแสเรียกของฆราวาสทุกคนที่ผ่านการล้างบาป
วันนี้พระเยซูยังคงกระตือรือร้นในชีวิตของเราผ่านทางพระคัมภีร์และศีลศักดิ์สิทธิ์ นอกจากนี้ พระเจ้าประทานพระจิตแก่เรา ผู้ทรงสอนเรา และเตือนเราถึงทุกสิ่งที่พระเยซูตรัสกับเรา ดังนั้น เราถูกขอให้ทำงานของพระเยซู และผ่านงานเหล่านี้เพื่อเปิดเผยฤทธิ์อำนาจและพระลักษณะของพระเจ้าต่อโลก ถ้าเราตอบรับคำเชิญนี้และดำเนินชีวิตด้วยความเต็มใจ ด้วยพระหรรษทานของพระเจ้า ผู้คนจะมองมาที่เราและพูดว่า “พระเยซู”
…บทเทศน์โดยคุณพ่อโทนี่ คาดาวิน