สัปดาห์ที่ผ่านมาได้มีการประชุมสภาภิบาล มีการปรึกษาหารือเรื่องการเตรียมฉลองวัดและการสรรหาคณะกรรมการสภาภิบาลชุดใหม่ วันสมโภชพระนางมารีย์รับเกียรติสู่สวรรค์ทั้งกายและวิญญาณจะเป็นวันที่ 15 สิงหาคมของทุกปี วัดอื่นๆ จะเลื่อนไปทำการสมโภชในวันอาทิตย์ สำหรับพวกเรามีธรรมเนียมปฏิบัติ จะทำการฉลองอาสนวิหาร ในวันที่ 15 สิงหาคมเสมอ หากวันนั้นไม่ตรงกับวันอาทิตย์ พิธีมิสซาฉลองก็จะจัดเวลา 17:00 น. แต่หากตรงกับวันอาทิตย์ก็จะจัดเวลา 10:00 น. ในปีนี้จะเป็นวันอังคาร ได้มีการปรึกษาหารือและแสดงความคิดเห็น รายละเอียดของงาน เนื่องจากในวันนั้นจะมีพิธีบวชพระสงฆ์ใหม่ของอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ ด้วย เป็นกิจกกรรมพิเศษเพิ่มเข้ามาในปีนี้
โดยปกติการบวชพระสงฆ์ใหม่ของอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ มักจะจัดในโอกาสวันสมโภชพระจิตเจ้า ตัวของพ่อเองก็รับศีลบวชในวันสมโภชพระจิตเจ้า มาในช่วงหลังได้มีการปรับเปลี่ยนเป็นวันเสาร์หลังการสมโภชพระจิตเจ้า ด้วยเหตุผลที่อยากให้บรรดาพระสงฆ์และสัตบุรุษสามารถไปร่วมในพิธีบวชได้ เพราะในวันสมโภชพระจิตเจ้า พระสงฆ์ส่วนใหญ่ก็จะติดภารกิจ มีหน้าที่ถวายมิสซาตามวัด สำหรับปีนี้ ทางอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ ได้จัดงานฉลอง 50 ปีการอภิเษกเป็นพระอัครสังฆราชของพระคาร์ดินัลไมเกิ้ล มีชัย กิจบุญชู และ 40 ปีการแต่งตั้งเป็นพระคาร์ดินัล เมื่อวันที่ 3 มิถุนายน การบวชพระสงฆ์จึงกำหนดให้จัดขึ้นในโอกาสฉลองอาสนวิหารอัสสัมชัญของเรา
พี่น้องที่เป็นสัตบุรุษของวัดอัสสัมชัญ มีความโชคดีและเป็นโอกาสดีของพวกเราอีกครั้งหนึ่งที่จะได้ร่วมใจกันเป็นเจ้าภาพจัดงานฉลองสำคัญของอัครสังฆมณฑล ทำให้พ่อคิดย้อนไปในช่วงเวลาที่ยังอยู่ในบ้านเณรนักบุญยอแซฟ ในเวลานั้นการจัดพิธีบวชพระสงฆ์ มักจะจัดขึ้นที่บ้านเณร พวกเราที่เป็นสามเณร มีงานหลายอย่างที่ต้องช่วยกันเตรียม โดยเฉพาะเมื่อใกล้ถึงวันงาน การจัดเตรียมสถานที่ การประดับธง การจัดทำบอร์ด การต้อนรับสัตบุรุษที่จะมาร่วมงาน ทำให้รู้สึกและรู้ว่าการบวชพระสงฆ์เป็นงานที่มีความสำคัญ ซึ่งเป็นความสำนึกของพี่น้องคริสตชนทั่วไป ที่ตระหนักดีในเรื่องนี้ พิธีบวชพระสงฆ์เป็นความชื่นชมของพระศาสนจักรและของบรรดาคริสตชน พวกเขาเต็มใจไปร่วมงาน อาจจะมีบางคนที่เป็นญาติใกล้ชิดของพระสงฆ์ ซึ่งจะที่ได้รับบัตรเชิญ แต่แม้ว่าจะไม่มีบัตรเชิญ พี่น้องทุกคนก็สามารถมาร่วมโมทนาคุณพระเจ้า และร่วมยินดีกับการบวชพระสงฆ์ได้เสมอ
อัสสัมชัญมีผู้มาขอรับศีลล้างบาปอยู่เสมอ อาจจะพอพูดได้ว่าพวกเขาเป็นสัตบุรุษของวัดอัสสัมชัญ คำว่าสัตบุรุษ ความหมายตามคำสอนของพระศาสนจักร ให้ความหมายว่า “เป็นผู้ที่ได้ร่วมอยู่ในร่างกายของพระคริสตเจ้าโดยผ่านทางศีลล้างบาป ประกอบขึ้นเป็นสมาชิกของประชากรของพระเจ้า พวกเขามีส่วนร่วมอยู่ตามวิธีการของตนในหน้าที่สงฆ์ ประกาศกและกษัตริย์ของพระคริสตเจ้า ได้รับเรียกให้มาปฏิบัติพันธกิจซึ่งพระเป็นเจ้าได้ทรงมอบหมายไว้แก่พระศาสนจักร พวกเขาต่างมีศักดิ์ศรีของการเป็นบุตรพระเจ้า” ในบริบทที่เราเข้าใจกัน เมื่อบอกว่าเป็นสัตบุรุษของวัด ก็จะมีความรู้สึกผูกพันและถือว่าเป็นสมาชิกเป็นส่วนประกอบที่สำคัญของวัดนั้นๆ ในกรุงเทพฯ เรามีวัดหลายแห่งพี่น้องก็กระจัดกระจายอยู่ทั่วไป พี่น้องสะดวกจะไปวัดใด ใกล้ที่ไหนก็เลือกไปที่นั่น
พูดถึงการเป็นสัตบุรุษของอัสสัมชัญ จึงอยากจะบอกกับพี่น้องว่า อัสสัมชัญ เคยมีลูกวัดที่ได้บวชเป็นพระสงฆ์สังกัดอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ แต่นานมาแล้ว อาจจะมีอยู่บ้าง ที่ผู้ที่ได้รับศีลล้างบาปของอัสสัมชัญได้เป็นนักบวช สังกัดคณะนักบวชต่างๆ กระแสเรียกเพื่อเป็นพระสงฆ์ นักบวชผู้ถวายตนทั้งชายและหญิง เป็นพระพรของพระที่มีสำหรับทุกคน ช่วงเวลาของพระพรนี้ก็อยู่ในช่วงเวลาไม่ยาวนานมากนักในชีวิตของแต่ละคน เริ่มตั้งแต่วัยเด็กจนถึงวัยรุ่น พี่น้องสัตบุรุษมักจะมีความคิดเรื่องกระแสเรียกแตกต่างกัน บางคนมีความคิดว่า กระแสเรียกเป็นเรื่องของคนอื่นไม่ใช่ของฉัน หรือเป็นของครอบครัวที่มีความศรัทธา ในยุคนี้ หลายครอบครัวมีลูกคนเดียวหรือสองคนความคิดที่จะให้ลูกไปบวชจึงแทบจะไม่มีเลย อยากให้พี่น้องได้คิดถึงเรื่องนี้บ้าง กระแสเรียกการอุทิศชีวิตมอบให้พระเจ้า หรือการที่เราจะเลี้ยงดูลูกของเราและเขาได้มีโอกาสรับใช้พระเจ้า เป็นพระพรของพระ การอุทิศตนให้พระเจ้า ทั้งพระสงฆ์และนักบวช พวกเขาอาจมาจากผู้ที่เป็นลูกหลานของพี่น้องเอง หากว่าวันหนึ่งลูกของพี่น้องเติบโตขึ้น และเขาได้รับศีลบวชเป็นพระสงฆ์ คงจะเป็นความภูมิใจ ความชื่นชมและความสุข ไม่ใช่แค่ของพี่น้องและครอบครัวเท่านั้น แต่สำหรับทุกคน.
สวัสดี…พ่ออดิศักดิ์