บทอ่านจากบทสนทนาเรื่องพระญาณสอดส่อง โดยนักบุญกาธารีนา ชาวซีเอนา พรหมจารี
สายสัมพันธ์แห่งความรัก
ข้าแต่พระเจ้าผู้อ่อนหวาน โปรดทอดพระเนตรประชากรของพระองค์ด้วยพระทัยกรุณา โดยเฉพาะพระวรกายของพระศาสนจักร พระนามของพระองค์ทรงรับพระเกียรติมงคล ในการยกโทษแก่ฝูงชน มากกว่าทรงยกโทษความผิดหนักต่อพระบรมเดชานุภาพให้ข้าพเจ้าคนเดียว ข้าพเจ้าไม่มีความบรรเทาใจที่มีชีวิตของพระองค์อยู่กับข้าพเจ้า ในเมื่อประชากรศักดิ์สิทธิ์ของพระองค์กำลังอยู่ในความตาย เพราะข้าพเจ้าเห็นบาป กำลังปกคลุมชีวิตของพระศาสนจักร เจ้าสาวของพระองค์ บาปของข้าพเจ้า และบาปของคนอื่นๆ
พระคุณพิเศษที่ข้าพเจ้ากราบวอนขอนี้ก็คือ ขอพระองค์ทรงพระกรุณายกโทษแก่สิ่งถูกสร้าง ซึ่งพระองค์ได้ทรงสร้างมาตามภาพลักษณ์ของพระองค์ เมื่อพระองค์ทรงสร้างมนุษย์ พระองค์ทรงรู้สึกหวั่นไหวด้วยความรักจนถึงกับทรงสร้างเขา ตามภาพลักษณ์ของพระองค์ แน่นอน มีแต่ความรักเท่านั้นสามารถให้ศักดิ์ศรีแก่สิ่งที่ถูกสร้างได้ ข้าพเจ้าทราบดีว่ามนุษย์ได้เสียศักดิ์ศรีที่พระองค์ประทานให้ เขาสมควรเสียศักดิ์ศรีนี้ เพราะเขาได้ทำบาป
พระองค์ทรงรู้สึกหวั่นไหวด้วยความรัก ทรงปรารถนาจะทำให้มนุษยชาติคืนดีกับพระองค์ พระองค์จึงได้ประทานพระบุตรแต่องค์เดียวของพระองค์ให้กับเราทั้งหลาย พระบุตรได้ทรงกลับเป็นคนกลาง และความยุติธรรมของเรา โดยทรงรับความอยุติธรรมและบาปของเรา อันเกิดจากการไม่นอบน้อมต่อน้ำพระทัยของพระองค์ ข้าแต่พระบิดาผู้สถิตสถาพร เพราะพระองค์ทรงพอพระทัยให้พระบุตรรับธรรมชาติมนุษย์ของเรา โอ ความรักอันสูงสุดพรรณนา พระบุตรของพระองค์เสด็จลงมาจากพระเทวภาพที่สูงสุดมาสู่ที่ต่ำสุดของธรรมชาติมนุษย์ มนุษย์คนใดหนอสามารถปิดหัวใจของตน และแข็งกระด้างต่อเหตุการณ์นี้
เรามนุษย์เป็นภาพลักษณ์ของพระ ส่วนพระองค์ทรงเป็นภาพลักษณ์ของเราโดยทรงยอมเป็นหนึ่งเดียวกับมนุษย์ พระองค์ได้ทรงซ่อนพระเทวภาพในเมฆ ในดินเหนียวของธรรมชาติมนุษย์ ด้วยความรักเท่านั้น พระองค์จึงทรงสามารถยกฐานะเนื้อหนังของอาดัมให้สูงขึ้นเพียงนี้ ด้วยความรักอันไม่มีขอบเขตนี้แหละ ข้าพเจ้าวอนขอด้วยสิ้นสุดจิตใจของข้าพเจ้า ขอพระองค์ทรงแผ่พระเมตตามายังสิ่งที่ถูกสร้างต่ำต้อยทั้งหลายของพระองค์…
บางครั้งเราพบความท้าทายของการไว้วางใจในศรัทธาของเราเช่นเดียวกับพระวาจาในวันนี้ เรื่องราวการเดินบนน้ำของเปโตรมีอยู่ในมัทธิวเท่านั้น ดังนั้น การที่มัทธิวเล่าเรื่องเหตุการณ์นี้ซ้ำจึงบอกบางอย่างเกี่ยวกับเปโตรและความเชื่อของเขาด้วย แม้ว่ามัทธิวอาจเน้นย้ำถึงความกลัวของเปโตร การจมลง และศรัทธาที่ “เล็กน้อย” ของเขา พ่อเชิญชวนเราพิจารณาการก้าวกระโดดแห่งศรัทธาของเขาด้วย เปโตรซึ่งเป็นตัวแทนของทุกคนที่กล้าเชื่อว่าพระเยซูคือพระผู้ช่วยให้รอด
ความเชื่อของนักบุญเปโตรด้วยความมั่นใจว่าพระเยซูทรงสามารถค้ำจุนพวกเขาได้ จากนั้นจึงลืมที่จะจ้องมองไปที่พระองค์เมื่อพวกเขาเผชิญกับพายุแห่งการล่อลวง อย่างไรก็ตาม จากห้วงวิกฤต เปโตรจำได้ว่าต้องเรียกหาพระผู้ช่วยให้รอด และเปโตรก็ได้รับพระพร พระหรรษทานอย่างพอเพียงที่ “ความเชื่อเล็กน้อย”
พระเยซูทรงเปิดเผยพระองค์เองต่อเหล่าสาวกว่าเป็นพระเจ้าโดยการพิสูจน์ว่าพระองค์ทรงเป็นเจ้านายเหนือทะเล ซึ่งคนสมัยก่อนถือว่าเป็นความโกลาหลที่วิญญาณชั่วร้ายอาศัยอยู่ ในนิทานพื้นบ้านของชาวยิว มีเพียงพระเจ้าเท่านั้นที่สามารถเดินบนน้ำได้ แต่มนุษย์ไม่สามารถเห็นพระเจ้าและมีชีวิตอยู่ได้ ดังนั้นถ้าใครคิดว่าเห็นคนเดินบนน้ำก็ต้องเป็นผี! นอกจากนี้ยังมีความเชื่อทางไสยศาสตร์ว่ามีสัตว์ประหลาดอยู่ที่ก้นทะเลกาลิลีและน่าจะเป็นสัญญาณเตือนภัยของพวกเขาเช่นกัน. และวิธีกำจัดผีก็คือการตะโกนโหวกเหวก นี่คือสิ่งที่เหล่าสาวกทำจนกระทั่งพระเยซูตรัสสั่งพวกเขาว่า “ทำใจให้ดี เราเอง อย่ากลัวเลย” จากนั้นคนในเรือก็นมัสการพระเยซูและประกาศว่าพระองค์เป็นพระบุตรของพระเจ้าอย่างแท้จริง
เมื่อเกิดเรื่องเลวร้ายขึ้น ใจเราจะเปิดรับพระเยซูมากขึ้น หัวใจที่ชอกช้ำมักเป็นประตูที่พระคริสต์สามารถเข้ามาได้ พระองค์ยังคงมาหาเราท่ามกลางปัญหาของเราและตรัสว่า“ทำใจเถอะ ฉันเอง; อย่ากลัว.” หากเราปล่อยให้ความโกลาหลและความชั่วร้ายรอบตัวเราเบี่ยงเบนความสนใจและมีอิทธิพลต่อเรา เราจะจมดิ่งสู่ความโกลาหลที่เรากลัว! ในทางกลับกัน หากเราจดจ่ออยู่กับแหล่งที่มาของความปลอดภัย ความรอดของเรา ผู้ที่เราร้องเรียกให้ช่วยเรา เมื่อนั้นลมก็สงบลง และเราจะพอใจอีกครั้งในการประทับอยู่ของพระเจ้า นี่คือวิธีที่เราเพิ่มพูนหรือรักษาศรัทธาของเรา โดยไม่เคยสงสัยเลยว่าการประทับอยู่ของพระเจ้าอยู่กับเราทุกช่วงเวลาในชีวิตของเรา! คำสอนของเราเตือนเราว่าเมื่อเราร้องว่า “พระเจ้า!” เราแสดงการยอมรับความลึกลับอันศักดิ์สิทธิ์ของพระเยซู และยังแสดงความเคารพและไว้วางใจในผู้ที่เราเข้าไปขอความช่วยเหลือและการรักษา (CCC #448)
“ทำใจให้ดี เราเอง อย่ากลัวเลย” เป็นวลีที่พระเยซูเจ้า ทรงให้กำลังใจเรา ในเวลาที่เราคาด… ความเชื่อ ความหวัง ความรัก ซึ่งในบางครั้งเราพบพายุแห่งชีวิต บางครั้งเราพบพายุแห่งความเชื่อ บางครั้งเราละสายตาไปจากพระเยซูเจ้า บางครั้งเราท้อแท้อย่างถึงที่สุด
ขอให้เราภาวนาร้องขอต่อพระเยซูเจ้าด้วยคำของนักบุญเปโตรที่ว่า “พระเจ้าข้า ช่วยข้าพเจ้าด้วย” แล้วเราจะพบว่าพระองค์ทรงยื่นพระหัตถ์มาให้เรา ถ้าเรายังมีความเชื่อน้อยเกินไป ก็ให้เราสวดภาวนามากขึ้น แล้วเราจะได้ยินเสียงว่า “ทำใจให้ดี เราเอง อย่ากลัวไปเลย”