งานชุมนุมเยาวชนโลกที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 1-6 สิงหาคม 2023 ที่เมืองลิสบอน ประเทศโปรตุเกสได้จบลง สมเด็จพระสันตะปาฟรังซิสทรงเสด็จไปร่วมงานและเป็นประธานในพิธีสหบูชามิสซาในพิธีปิด มีผู้เข้าร่วมประมาณ 1.5 ล้านคน พ่อได้ดูการถ่ายทอดสด และคงจะมีพี่น้องหลายท่านได้ติดตามเหตุการณ์ครั้งนี้ ประเทศไทยส่งตัวแทนเยาวชนไปร่วมกิจกรรมครั้งนี้ด้วย ในส่วนของอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ มีตัวแทนเยาวชนและพระสงฆ์ คุณพ่อวิทวัฒน์ แก้วแหวน ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบแผนกงานเยาวชนของอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ ได้ไปร่วมงานชุมนุมเยาวชนครั้งนี้ กลับมาก็คงจะมีเรื่องราวประสบการณ์ต่างๆ ที่จะแบ่งปันต่อไป ในระหว่างพิธีมิสซาปิดการประชุมได้มีการประกาศว่าครั้งต่อไปจะจัดขึ้นที่กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ ปี ค.ศ. 2027
การไปรวมกันของบรรดาเยาวชน คนหนุ่มสาว เพื่อพบปะแลกเปลี่ยน ยอมรับ เรียนรู้กันและกัน รวมทั้งเป็นเวลาที่จะได้เรียนคำสอนและได้แสดงพลังความเชื่อ เป็นผลดีต่อผู้เข้าร่วมทุกคนสมเด็จพระสันตะปาปาทรงเปิดโอกาสให้เยาวชนได้เข้าพบ ทรงสอนและท้าทายพวกเขา “อย่าอายที่มือของท่านจะเปื้อน ซึ่งจะทำให้ใจของท่านสะอาด” และหลังจากจบมิสซาปิดการชุมนุม พระองค์ทรงตรัสกับบรรดาเยาวชนว่า “เพื่อนๆ ที่รัก อนุญาตให้ชายสูงอายุคนนี้ได้แบ่งปันกับพวกท่านคนหนุ่มสาวถึงความฝันที่จะอยู่กับข้าพเจ้าตลอดไป เป็นความฝันถึงสันติภาพ ฝันถึงบรรดาเยาวชนคนหนุ่มสาวที่จะสวดภาวนาเพื่อสันติภาพ จงดำเนินชีวิตในสันติและสร้างอนาคตให้มีสันติภาพแท้จริง เมื่อกลับไปบ้านจงช่วยกันภาวนาเพื่อสันติภาพต่อไป ท่านทุกคนเป็นเครื่องมือแห่งสันติภาพในโลก แสดงให้เห็นว่าความแตกต่างทางเชื้อชาติ ภาษา และประวัติศาสตร์ สามารถหลอมรวมเป็นหนึ่ง แทนที่จะแบ่งแยก พวกท่านเป็นความหวังของโลกที่แตกแยกนี้” พระองค์ยังขอให้คิดถึงบรรดาเยาวชนที่ไม่ได้มาร่วมงาน รวมถึงบรรดาผู้ที่อยู่ในความขัดแย้งและสงคราม แม้ว่าพวกเราไม่ได้อยู่ร่วมในพิธี ไม่ได้ยินเสียงของพระองค์ แต่ขอให้ทุกคนรับรู้ น้อมรับ และช่วยกันทำในสิ่งที่เป็นความฝันของพระสันตะปาปาให้เป็นความจริง
วันอังคารที่ 15 สิงหาคมจะเป็นวันฉลองอาสนวิหารอัสสัมชัญและจะมีพิธีบวชพระสงฆ์ด้วย วันบวชพระสงฆ์เป็นวันสำคัญของอัครสังฆมณฑลฯของเรา จะมีสังฆานุกร 2 ท่านได้รับศีลบวชเป็นพระสงฆ์ กว่าจะมาถึงวันนี้ พวกเขาได้ใช้เวลายาวนานเพื่อศึกษาเล่าเรียน ฝึกฝนชีวิตเพื่อเตรียมตัวให้พร้อมที่จะปฏิบัติภารกิจชีวิตพระสงฆ์ สำหรับผู้ที่จะรับศีลบวช พระศาสนจักรได้กำหนดหลักเกณฑ์สำคัญคือ ผู้สมัครต้องมีอิสระ สมัครใจขอรับศีลบวชฯ ส่วนที่ 2 ก็มาจากพระสงฆ์ที่ดูแลอบรมในช่วงเวลาที่อยู่ในบ้านเณรใหญ่ให้ความเห็นชอบ และที่สุดพระสังฆราชท้องถิ่นก็จะเป็นผู้ตัดสินใจให้ผู้สมัครได้รับศีลบวช วันบวชพระสงฆ์ จึงเป็นวันที่ผู้สมัครจะรับการบวชจากพระสังฆราชผู้มีอำนาจ ซึ่งจะทำให้สถานะชีวิตของเขากลายเป็นผู้ร่วมงานสงฆ์ของพระคริสตเจ้า บางทีเราเรียกว่า เป็นสงฆ์ศาสนบริกร
การที่มีพิธีบวชพระสงฆ์ตามวัดแบบนี้ อาจจะทำให้บางคนเกิดความสนใจและอยากจะทราบถึงขั้นตอนการเตรียมตัวเป็นพระสงฆ์ ทุกสังฆมณฑลฯจะให้ความสำคัญอย่างมากกับการดูแล เตรียมผู้ที่จะเป็นพระสงฆ์ ทุกสังฆมณฑลจะมีบ้านเณรเล็ก เป็นสถานที่เพื่อช่วยเตรียมพร้อมเด็กชายที่มีความสนใจ ตั้งแต่ในช่วงวัยเป็นเยาวชนเรียนระดับชั้นม.1 ถึง ม. 6 เวลานั้นก็จะยังไม่ได้มีเป้าหมายชัดเจนมากนัก เพียงแต่พวกเขามีความอยากจะเป็นพระสงฆ์ เมื่อจบจากบ้านเณรเล็กก็จะเข้ารับการอบรมในบ้านเณรกลาง เป็นเวลา 1 ปี เป็นช่วงเวลาที่สามเณรเล็กจากทุกแห่งจะรับการอบรม และปรับตัวเตรียมเข้าสู่บ้านเณรใหญ่ ปัจจุบันบ้านเณรกลางได้ย้ายสถานที่และตั้งอยู่บริเวณใกล้กับวัดพระชนนีของพระเจ้า รังสิต หลังจากนั้นก็จะเข้าไปใช้เวลาในบ้านเณรใหญ่อีก 8 ปี เพื่อเรียนวิชาสาขาปรัชญา 4 ปี จากนั้นก็จะเป็นช่วงเวลาไตร่ตรองชีวิตและฝึกงานอภิบาลตามวัด 1 ปีและกลับเข้าไปเรียนอีก 3 ปี เมื่อถึงเวลานั้น ผู้ที่พร้อมก็จะสมัครบวช และจะได้รับการบวชเป็นพระสงฆ์ ขอเชิญพี่น้องได้ร่วมโมทนาคุณพระเจ้า และร่วมความยินดีกับพระสงฆ์ใหม่ทั้งสองในโอกาสนี้.
สวัสดี…พ่ออดิศักดิ์