เดือนนี้เป็นเดือนสุดท้ายของปีพิธีกรรม อีก 2 สัปดาห์ข้างหน้าก็จะปิดปีพิธีกรรม ซึ่งจะเป็นวันสมโภชพระเยซูเจ้ากษัตริย์แห่งสากลจักรวาล เป็นความเชื่อของคริสตชนว่าในวาระสุดท้าย พระเจ้าจะทรงครอบครองทุกสิ่งทุกอย่าง พระเจ้าจะเสด็จมาพิพากษา พระศาสนจักรจึงเตือนเราทุกคนโดยนำเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับการเตรียมตัวให้พร้อม เพื่อพบกับพระเจ้า พระวาจาของพระเจ้าที่สอนให้ฉลาดรอบคอบเหมือนหญิงสาวที่เตรียมตัวรอรับเจ้าบ่าว และได้เตรียมน้ำมันสำรองไปด้วยรวมทั้งเรื่องเงินตะลันต์ที่จะต้องใช้ให้เกิดประโยชน์ ล้วนแต่เป็นเรื่องที่บอกเราทุกคน ให้ใช้วันเวลาของชีวิตที่มีอยู่อย่างจำกัดให้ดีอยู่เสมอ
เรื่องราวที่พระเยซูเจ้าเปรียบเทียบ พูดถึงหญิงสาว 10 คนที่กำลังเตรียมตัวเพื่อร่วมงานฉลองกับเจ้าบ่าว มีหญิง 5 คนที่รอบคอบ เตรียมพร้อม มีทั้งตะเกียงและเตรียมน้ำมันสำรองไปด้วยส่วนหญิงอีก 5 คนมีเพียงตะเกียงแต่ไม่ได้เตรียมน้ำมันสำรองไป เมื่อถึงเวลาที่เจ้าบ่าวกำลังจะมาถึง มีการส่งข่าวให้บรรดาหญิงเหล่านั้นเตรียมตะเกียงของตน มีเพียงหญิงที่เตรียมพร้อม มีน้ำมันสำรองที่เตรียมมา ได้เข้าร่วมในงานพร้อมกับเจ้าบ่าว ส่วนหญิงที่มีเพียงตะเกียง แต่ไม่มีน้ำมัน จะไปหาซื้อก็ไม่มีใครขาย พวกเขาจึงไม่ได้ร่วมในงานฉลองนั้น
พระเยซูเจ้าทรงบอกเตือนเราทุกคนว่า จะมีวันเวลาของชีวิตที่จะเข้าไปร่วมในงานเลี้ยงหรือการเข้าสู่อาณาจักรสวรรค์ ตะเกียงต้องการน้ำมันเพื่อทำให้เกิดแสงสว่าง ชีวิตเพื่อเข้าสู่สวรรค์ของแต่ละคนก็ต้องการความดีงาม ที่แต่ละคนได้สะสมไว้เพื่อนำพาเราเข้าสู่ความสุขนิรันดร ความจริงที่เราต้องเรียนรู้ก็คือ ความดีไม่สามารถหาซื้อได้ด้วยเงิน ไม่มีความรักที่เกิดจากจินตนาการแล้วกลายเป็นความรัก คุณลักษณะที่จำเป็นเพื่อการเข้าในอาณาจักรของพระเจ้า จะเกิดขึ้นเมื่อเราได้ลงมือปฏิบัติ เรื่องเปรียบเทียบหญิงสาวที่ฉลาดรอบคอบเตรียมน้ำมันสำหรับตะเกียง ก็คือคนที่ดำเนินชีวิตด้วยการสะสมความดี หรืออาจจะบอกว่าเป็นคนที่เอาใจใส่คิดถึงสิ่งที่มีคุณค่าต่อหน้าพระเจ้าและลงมือปฏิบัติเสมอ
ในเรื่องราวพูดถึงหญิง 5 คนที่ไม่ได้เตรียมตัวให้พร้อม ไม่ได้เข้าร่วมแรงงานเลี้ยงฉลองเนื่องจากไม่ได้เตรียมน้ำมันหรือมีไม่พอสำหรับตะเกียงของชีวิต ในเวลานั้นเองที่ต้องการน้ำมันแต่ซื้อไม่ได้ ไม่มีขาย เมื่อคิดถึงเหตุการณ์แบบนี้ เราก็คงไม่อยู่ในไม่อยากอยู่ในสถานการณ์นี้เช่นกันเพื่อจะมีน้ำมันสำหรับตะเกียงชีวิต ต้องสะสมด้วยตัวเอง การดำเนินชีวิตโดยปล่อยให้วันเวลาผ่านไปโดยที่ไม่ได้สะสมความดีงามไว้เลย ก็จะเป็นดังหญิงสาวเหล่านั้นที่ได้แต่เฝ้ามองดูอยู่ด้านนอกประตู งานฉลองที่พระเยซูเจ้าพูดถึงเป็นความยินดี เป็นรางวัลของคนที่ได้ลงมือกระทำ คนที่ทำความดี คนที่รับผิดชอบ ได้ผ่านความยากลำบาก ได้พยายามเอาชนะอุปสรรคต่างๆ ก็จะได้รับความสุข
เดือนนี้เรายังคิดถึงบรรดาวิญญาณในไฟชำระ ซึ่งพวกท่านเหล่านั้นได้ผ่านช่วงเวลาของการดำเนินชีวิตบนโลกนี้ไปแล้ว อยู่ในสถานที่รับการชำระให้วิญญาณบริสุทธิ์ ก่อนจะเข้าสู่เมืองสวรรค์ซึ่งขณะนี้พวกท่านไม่อยู่ในสถานะการช่วยเหลือตนเองได้ อยากจะทำความดี อยากจะแก้ไขข้อบกพร่องต่างๆ ก็ทำไม่ได้ รอคอยการชำระให้บริสุทธิ์เท่านั้น พวกเราที่ยังคงมีชีวิตอยู่สามารถส่งความช่วยเหลือด้วยคำภาวนา กิจการดีงาม และการใช้โทษบาปส่งไปยังผู้ที่อยู่ในไฟชำระ
ความเชื่อที่สำคัญอีกประการหนึ่งที่พระศาสนจักรสอน คือเราทุกคนจะต้องปรากฏตัวต่อหน้าพระเจ้าเพื่อรับการพิพากษา พระเจ้าทรงเห็นและรู้จักเราทุกคน พระเจ้าจะทรงทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างที่เราคิดเรากระทำปรากฏต่อหน้า แต่ละคนก็รู้ดีว่าตนเองได้คิดได้ทำอะไรไว้ การได้คิดคำนึงถึงจึงเป็นโอกาสที่เราจะได้เปลี่ยนแปลงแก้ไข ปรับการดำเนินชีวิตสู่หนทางที่จะนำพาเราไปอยู่กับพระเจ้า เหมือนกับการมองไปข้างหน้าและเลือกสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตให้กับตัวเอง โดยมีพระเจ้าคอยอยู่เคียงข้างเสมอ
สวัสดี…พ่ออดิศักดิ์