วันอาทิตย์นี้เป็นวันคนยากจนสากล สมเด็จพระสันตะปาทรงกำหนดให้วันอาทิตย์ก่อนสุดท้ายของปีพิธีกรรมเป็นที่วันพระศาสนจักรให้ความสำคัญกับคนยากจน เริ่มตั้งแต่ปี 2017 ปีนี้ก็เป็นปีที่ 7 แล้ว “อย่าเบือนหน้านี้บรรดาผู้ยากจน” พระศาสนจักรสอนเรื่องนี้ ในขณะที่ความเป็นไปทางสังคมผลักดันให้คนเราแสวงหาหนทางเพื่อความร่ำรวย การได้มาโดยทางสุจริต รวมทั้งวิธีการต่างๆที่บางครั้งไม่ถูกต้อง แต่ถึงแม้ว่าความร่ำรวยจะมาอย่างถูกต้อง พระศาสนจักรเรียกร้องเราทุกคนในโลกจากสารฯของสมเด็จพระสันตะปาให้หันมองดูคนยากจน ไม่ใช่เพียงแต่มองดูแล้วก็เบือนหน้าหนี หรือเดินจากไป แต่ต้องการให้เราเห็นบรรดาคนยากจนซึ่งมีอยู่ทั่วไป ช่วยเหลือและแบ่งปัน
พระสันตะปาปาทรงนำเรื่องของโทบิตที่สอนลูกชายของตน “ลูกเอ๋ย จงระลึกถึงองค์พระผู้เป็นเจ้าทุกวันตลอดชีวิตของลูก” “อย่าจงใจทำบาปหรือละเมิดบทบัญญัติของพระองค์เลย จงทำความดีทุกวันตลอดชีวิต อย่าดำเนินตามหนทางที่ไม่ถูกต้อง” (ทบต.4:5) นอกจากจะสอนให้ลูกเป็นคนดี มีความเชื่อในพระเจ้าแล้ว ท่านยังมีวิธีการปฏิบัติเป็นแบบอย่างที่ชัดเจน “จงแบ่งทรัพย์สมบัติของลูกส่วนหนึ่งไว้ทำทาน อย่าเสียดายสิ่งที่ลูกให้เป็นทาน”
ความยากจนเป็นเรื่องแรกที่พระเยซูเจ้าทรงนำมาเป็นบทสอนในบทเทศน์บนภูเขา “ผู้ที่มีจิตใจยากจน ย่อมเป็นสุข เพราะอาณาจักรสวรรค์จะเป็นของเขา” ความยากจน ในความหมายที่ยังขาด มีไม่เพียงพอ และให้พึ่งพาขอความช่วยเหลือจากพระเจ้า สำหรับคนที่ยากจนขัดสน พวกเขามีไม่เพียงพอสำหรับการดำรงชีวิตแบบปกติ แต่ก็ยังมีผู้คนอีกมากมาย ที่ยังมีความต้องการและอยากได้อยากมีในสิ่งที่เกินความจำเป็น และคิดว่าตัวเองยากจนตลอดเวลา และก็มักจะทำให้เกิดการเบือนหน้าจากบรรดาผู้ที่ยากจนขัดสนจริงๆ ชีวิตของโทบิตได้เป็นทั้งแบบอย่างและบทสอน ท่านมีช่วงเวลาที่ถูกทดลองให้พบกับความยากจน ทำให้สามารถเห็นและเข้าใจความยากจนของผู้อื่น ท่านยังคงดำเนินชีวิตซื่อสัตย์ต่อพระเจ้า ท่านเป็นคนกล้าหาญมีความเข้มแข็งรับใช้พระเจ้าในท่ามกลางคนต่างศาสนา รักเพื่อนบ้าน แม้จะต้องเสี่ยงชีวิตเป็นการยืนยันถึงการเป็นคนดี
เราอยู่ในยุคที่มีความกดดันทางสังคมที่เน้นความร่ำรวยทางเศรษฐกิจ ทุกคนอยากร่ำรวย ในขณะที่มีคนอีกจำนวนหนึ่งอยู่ในสถานะที่ยากจน ความจริงแล้วก็ยังมีเหตุผลและองค์ประกอบอื่นๆอีกที่เป็นตัวแปรของความยากจน มีคนที่ยากจนอยู่ทั่วไปที่เราพบปะ ที่ทำให้เรารู้สึกรำคาญและเบือนหน้าหนี และเหตุผลอื่นๆที่ขัดขวางมาให้เราช่วยเหลือผู้อื่น จึงเป็นเรื่องท้าทายเราทุกคน ให้หันมาเอาใจใส่ มีความเมตตาช่วยเหลือคนยากจน พระเจ้าทรงเรียกเราทุกคนให้มีส่วนร่วมภารกิจนี้
ในสัปดาห์นี้ จะมีการประชุมสภาภิบาลวัด ร่วมพิจารณาเตรียมกิจการต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นในเดือนธันวาคม มีงานสำคัญอยู่ที่การฉลองคริสตมาส แม้จะยังมีเวลาอีกพอสมควรกว่าจะถึงวันนั้น แต่ก็จะมีกิจกรรมบางอย่างที่ทางวัดจัดขึ้นก่อน เพื่อเป็นการเตรียมจิตใจและช่วยให้งานคริสตมาส มีคุณค่าและความหมายสำหรับทุกคน ในปีนี้เทศกาลเตรียมรับเสด็จฯ จะสั้นที่สุด เพราะวันคริสตมาสปีนี้ วันที่ 24 ธันวาคมจะตรงกับวันอาทิตย์ซึ่งเป็นสัปดาห์ที่ 4 ของเทศกาลเตรียมรับเสด็จ เทศกาลเตรียมรับเสด็จในปีนี้ จึงมีเวลาเพียง 3 อาทิตย์เต็มเท่านั้น เริ่มตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ 3 ธันวาคม 10 และ 17 ธันวาคม ส่วนวันที่ 24 ซึ่งเป็นวันอาทิตย์ ภาคเช้าก็จะมีมิสซาของวันอาทิตย์ตามปกติ ส่วนภาคค่ำก็จะเป็นมิสซาสมโภชพระคริสตสมภพ
เทศกาลเตรียมรับเสด็จฯ ทางวัดได้เตรียมจัดให้มีกิจกรรมหลายอย่างเพื่อเป็นการเตรียมสมโภชคริสตมาส กิจกรรมหลักๆที่จะกระทำก็คือในเย็นของวันอาทิตย์ทั้ง 3 สัปดาห์ จะมีกิจกรรมที่ลานหน้าอาสนวิหาร ซึ่งได้เคยจัดมา 2 ปีแล้วและปีนี้ก็จะจัดในลักษณะคล้ายๆกับที่ผ่านมา มีกิจกรรมที่ออกไปตามบ้านของพี่น้อง เพื่อร่วมกันภาวนาขอพรจากพระกุมาร บางครั้งเราเรียกว่าเป็นการไปร้องเพลงอวยพรตามบ้าน กิจกรรมนี้มีมากกว่าการไปร้องเพลง แต่เป็นการได้ร่วมเตรียมจิตในสวดภาวนา รอคอยและต้อนรับการเสด็จมาของพระเจ้า ยังมีกิจกรรมเพื่อความสุขโดยมีคณะนักขับร้องบทเพลงประสานเสียง จะมาขับร้องบทเพลงคริสตมาสให้ฟัง และส่วนที่สำคัญที่พี่น้องแต่ละคนจะต้องเตรียมด้วยตัวเองก็คือ การคืนดีกับพระผ่านทางศีลอภัยบาป เรายังมีเวลาก่อนที่เรื่องราวต่างๆจะเกิดขึ้น วันนี้อยากจะบอกกล่าวเพื่อพี่น้องจะได้รับทราบและเตรียมพร้อมกับกิจกรรมที่กำลังจะมาถึงในไม่ช้า.
สวัสดี…พ่ออดิศักดิ์