วันอาทิตย์นี้เป็นวันสมโภชพระเยซูคริสตเจ้า กษัตริย์แห่งสากลจักรวาล เป็นภาพเปรียบเทียบเพื่อให้เข้าใจและมองเห็นภาพที่จะเกิดขึ้นในวาระสุดท้ายของโลก พระองค์คือผู้มีอำนาจสูงสุดในอาณาจักรพระเจ้า ทรงอยู่ในสถานะเป็นกษัตริย์ที่จะปกครองดูแลประชากรทุกคนในอาณาจักรของพระองค์ เราเชื่อว่าเหตุการณ์นี้จะเกิดขึ้นในช่วงเวลาสุดท้ายของโลก เรื่องที่มีความสำคัญต่อเราทุกคนก็คือ การปรากฏตัวต่อหน้าพระเจ้าเพื่อรับการพิพากษา พระเจ้าจะทรงพิจารณาชีวิตของแต่ละคน ประทานรางวัลตอบแทนความดี เหมือนกับเรื่องที่พระเยซูเคยเทศน์สอนเรื่องอาณาจักรสวรรค์ เป็นเหมือนชาวประมงจับปลาในทะเลได้ปลาชนิดต่างๆมากมายชาวประมงจะเลือกเอาเฉพาะปลาที่ดีเท่านั้น พระศาสนจักรสอนว่า จะมีวันเวลาการสิ้นสุดของโลกจักรวาลและมนุษย์ทุกคน เวลานั้นในพระอาณาจักรของพระเจ้า เราจะร่วมความยินดีกับพระเจ้าผู้ทรงเป็นกษัตริย์ที่แท้จริงของเราทุกคน
ตลอดสัปดาห์นี้ พระวาจาของพระเจ้าในพิธีบูชามิสซาทุกวัน จะเตือนสอนเราให้คิดถึงการเตรียมพร้อมสำหรับการไปพบกับพระเจ้า เราคงไม่อยู่จนถึงวันสิ้นพิภพ ไม่รู้ว่าจะมีชีวิตยาวนานเท่าแค่ไหน ไม่รู้วันเวลาว่าจะมาถึงเมื่อไหร่ แต่จะมีช่วงเวลาสิ้นสุดของชีวิต เราแต่ละคนได้ใช้เวลาไปมากพอสมควรแล้วสำหรับบรรดาผู้สูงอายุ ผู้หลักผู้ใหญ่ มีวันเวลาที่จำกัดลง เด็กๆเยาวชน พวกเขาเพียงแต่เริ่มต้นและดูเหมือนยังมีเวลาในชีวิตอีกยาวไกล หากจะเปรียบกับการมีชีวิตเป็นช่วงเวลากลางวัน เมื่อแรกเกิดก็คือตอนพระอาทิตย์ขึ้น การจบชีวิตก็คือช่วงที่ดวงอาทิตย์ตก พี่น้องอยู่ในช่วงเวลาไหนของวัน และไม่ว่าจะเป็นช่วงเวลาไหนก็ตาม ทุกคนจะมีเวลาที่พระอาทิตย์ตกดิน ด้วยเหตุนี้ชีวิตของทุกคน เวลาแต่ละวันเป็นสิ่งที่มีคุณค่าที่เดินไปกับชีวิตของเราทุกคน ความจริงก็คือ เวลาที่ผ่านไปแล้วไม่กลับมาอีก และเมื่อดวงอาทิตย์ของทุกชีวิตตก ก็จะเป็นการพบกับองค์พระผู้เป็นเจ้าทันที พระเจ้าให้ชีวิตของเราตั้งแต่ยามเช้าเมื่อดวงอาทิตย์ขึ้น และรอคอยต้อนรับเราในยามดวงอาทิตย์ตก ขอให้ทุกๆวันในชีวิต เต็มด้วยความดี ประสบการณ์ชีวิตที่มีคุณค่า เพื่อถวายแด่พระเจ้า
ในสัปดาห์หน้าเราจะเริ่มต้นปีใหม่ของพระศาสนจักร การเริ่มต้นจะแตกต่างจากปีใหม่สากลที่มีการกำหนดตายตัวในปฏิทินว่าเป็นวันที่ 1 มกราคมของทุกปี หรือปีใหม่ไทย ก็กำหนดไว้เป็นช่วงสงกรานต์ สำหรับในพระศาสนจักรคาทอลิก ให้ความสำคัญกับการสมโภชพระคริสตสมภพ วันที่พระบุตรของพระเจ้าทรงบังเกิดเป็นมนุษย์ บรรดาคริสตชนใช้เวลาเตรียมจิตใจ 4 สัปดาห์ ก่อนการฉลองนี้ วันอาทิตย์หน้า จะเป็นสัปดาห์แรกของเทศกาลเตรียมรับเสด็จฯ พิธีกรรมในวัดจะมีบางสิ่งบางอย่างเปลี่ยนแปลงไป พระสงฆ์จะสวมอาภรณ์ประกอบพิธีมิสซาสีม่วง สีที่ทำให้คิดถึงกันเป็นทุกข์ กลับใจ เพื่อนำพาให้เกิดการเปลี่ยนแปลง ปรับปรุงชีวิต เตรียมใจให้พร้อมเพื่อต้อนรับการเสด็จมาของพระเจ้า ที่พระองค์จะเสด็จมาประทับในชีวิตของทุกคน ยังมีสัญลักษณ์อื่นๆอีก การจัดดอกไม้พร้อมเทียน 4 เล่ม การประดับตกแต่งสถานที่ด้วยต้นสน การเตรียมสร้างถ้ำเลี้ยงสัตว์จำลอง เพื่อนำพาให้คิดถึงสถานที่ที่พระเจ้าเสด็จมาบังเกิดเป็นมนุษย์
วันคริสตมาสซึ่งอยู่ในช่วงปลายปีจึงมีการเฉลิมฉลองต่อเนื่องไปจนถึงวันขึ้นปีใหม่ เราเริ่มเห็นการจัดบรรยากาศแบบคริสตมาสตามสถานที่ต่างๆ ห้างสรรพสินค้า ตามวัดและโรงเรียน ซึ่งก็จะเริ่มในช่วงนี้เป็นต้นไป ต้นคริสตมาสเป็นสัญลักษณ์ที่ดูจะแพร่หลายอยู่ทั่วไป มีการตั้งต้นสนคริสตมาสทั้งต้นใหญ่ต้นเล็ก แม้แต่ตามบ้าน แต่สำหรับพวกเราคริสตชน การจัดเตรียมถ้ำพระกุมารเป็นสิ่งที่มีความหมาย เป็นการสร้างบรรยากาศแห่งความสุข
เทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้าปีนี้ มีกิจกรรมที่อยากเสนอให้พี่น้องได้กระทำร่วมกันในครอบครัว คือการจัดบรรยากาศในบ้าน การจัดทำถ้ำพระกุมาร สถานที่บังเกิดของพระกุมาร เป็นกิจกรรมที่ทำร่วมกันในครอบครัว โดยเฉพาะครอบครัวที่มีเด็กเล็กๆ เพื่อเป็นโอกาสที่จะใช้เวลาร่วมกันพ่อแม่ลูก อีกทั้งยังเป็นโอกาสที่จะสอนคำสอน เล่าเรื่องการบังเกิดของพระเยซู รวมทั้งเหตุการณ์ต่างๆ ในช่วงเวลานั้นให้ลูกๆ ได้รับฟัง เพื่อพวกเขาได้เข้าใจความสำคัญของการฉลองคริสตมาส.
สวัสดี…พ่ออดิศักดิ์