การฉลองคริสมาสและปีใหม่ผ่านไปแล้ว ตามปฏิทินพิธีกรรมของพระศาสนจักร เราจะเข้าสู่ช่วงเวลาที่ปลอดจากการฉลอง ซึ่งว่าเทศกาลธรรมดา ในช่วงต้นนี้ มีระยะเวลาไม่กี่สัปดาห์ แต่ละปีก็จะสั้นยาวไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับว่าวันสมโภชปัสกาจะมาถึงเมื่อไหร่ วันสมโภชปัสกาถือว่าเป็นจุดศูนย์กลางที่สำคัญที่สุดในการฉลองพิธีกรรม ซึ่งปีนี้จะตรงกับวันอาทิตย์ที่ 31 มีนาคม ถือว่าค่อนข้างเร็ว ซึ่งโดยส่วนใหญ่วันปัสกามักจะตกอยู่ในช่วงเดือนเมษายน จากวันปัสกาก็จะนับย้อนเข้ามา 40 วัน ซึ่งเราเรียกช่วงเวลานี้ว่าเป็นเทศกาลมหาพรต ปีนี้ วันเริ่มต้นเทศกาลมหาพรตหรือวันพุธรับเถ้า จะเป็นวันพุธที่ 14 กุมภาพันธ์ จึงมีเวลาของเทศกาลธรรมดา ประมาณ 6-7 สัปดาห์
การฉลองคริสต์มาสและปีใหม่ ยังเป็นโอกาสที่เราได้มอบให้และได้รับของขวัญ เป็นโอกาสที่เราจะได้คิดถึงคนรอบข้างด้วย วันอาทิตย์ที่ผ่านมา ทางคณะวินเซนเดอปอลของทางวัด ได้จัดกิจกรรมมอบของขวัญให้แก่ผู้มาขอความช่วยเหลือ มีจำนวนหนึ่งที่มาร่วมกิจกรรมนี้ เป็นกิจกรรมง่ายๆเพื่อแบ่งปันปัจจัยจำนวนหนึ่งและของขวัญที่ทางสภาภิบาลของวัด ช่วยดำเนินการจัดหามาให้ ทำให้คิดถึงประโยคที่พระเยซูเจ้าเคยพูดไว้ “ท่านจะมีคนยากจนอยู่กับท่านเสมอ” พระเจ้าทรงมอบพวกเขาให้มาอยู่ร่วมในสังคมเดียวกันกับพวกเรา เพื่อเป็นโอกาสที่เราจะได้ส่งมอบความช่วยเหลือ ความรักและการแบ่งปัน ในระหว่างที่กำลังมีกิจกรรม ได้มีสมาชิกซิสเตอร์คณะธรรมทูตแห่งเมตตาธรรม หรือที่เรารู้จักกันในนามของคณะแม่ชีเทเรซา ช่วงนี้ เราอาจจะเห็น ซิสเตอร์คณะนี้มาร่วมมิสซาที่วัดของเรา จิตตารมณ์ของคณะก็คือการดำเนินชีวิตเคียงข้างคนยากจน คณะฯนี้ได้ทำงานในสังฆมณฑลอุดรธานีมากว่า 20 ปีแล้ว เพิ่งจะมาเริ่มกิจการในอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯของเรา เริ่มมีกิจกรรมประจำก็คือการเลี้ยงอาหารคนยากไร้ทุกวันพุธ หลังจากจบกิจกรรมมอบของขวัญแล้ว ได้พาซิสเตอร์ไปแนะนำให้กับบรรดาผู้เตรียมตัวเป็นคริสตชนใหม่ ซิสเตอร์ได้พูดพวกเขา “เราต่างก็มีหน้าที่ที่จะช่วยกัน อะไรที่พวกท่านทำไม่ได้ ซิสเตอร์จะช่วยทำ และอะไรที่ซิสเตอร์ ทำไม่ได้ ก็ขอให้พวกเราช่วยกันทำ” เป็นคำสอนจากซิสเตอร์เทเรซา ฝากมาถึงพวกเราผ่านทางคำพูดของซิสเตอร์
ในวันอาทิตย์ตลอดเดือนมกราคม ทางสุสานศานติคาม ได้จัดให้มีมิสซาเพื่ออุทิศแด่วิญญาณบรรดาผู้ล่วงลับที่บรรจุร่างไว้ที่สุสาน หรือจะใช้ภาษาที่เราคุ้นเคยก็คือการเสกสุสานศานติคาม ก่อนหน้านี้เคยจัดเสกสุสานในวันเดียว ซึ่งมีความยากลำบากในการจัดทุกอย่างให้เรียบร้อย เนื่องจากมีคนมาร่วมจำนวนมาก มีความยากลำบากเรื่องการจราจร รวมทั้งการจัดการหลายสิ่งหลายอย่าง บางปีก็จัด 2 รอบ รอบเช้าและรอบเย็น ส่วนในปีนี้ ทางสุสานฯ ได้จัดแบ่งการเสกสุสานเป็นทั้ง 4 สัปดาห์ของเดือนมกราคม โดยกำหนดแบ่งโซนดังนี้ สัปดาห์แรกจะเป็นโซน 1-2 สัปดาห์ที่ 2 โซน 3-4 สัปดาห์ที่ 3 โซน 5-6 และสัปดาห์สุดท้าย โซน 7-9 การแบ่งแบบนี้จะช่วยให้ไม่เกิดการแออัด สำหรับผู้ที่มีบรรพบุรุษบรรจุร่างไว้ที่สุสานศานติคาม ก็คงจะหาเวลาในระหว่างนี้แวะไปเยี่ยม ไปสวดภาวนา วางดอกไม้ จุดเทียน ซึ่งเป็นธรรมเนียมปฏิบัติ เป็นช่วงเวลาที่เราจะได้คิดถึงและภาวนาให้กับพวกเขาเป็นพิเศษ รวมทั้งการขอมิสซา อุทิศให้พวกเขา เพื่อขอพระเจ้าได้ประทานความสุขนิรันดรและรับทุกท่านให้อยู่กับพระองค์ในเมืองสวรรค์
สมเด็จพระสันตะปาฟรังซิสยังคงอยู่ในความประทับใจของพวกเราเสมอ 4 ปีที่แล้วพระองค์เสด็จมาเยือน มาเยี่ยมวัดของเรา พระองค์ทรงรับตำแหน่งเป็นผู้นำสูงสุดของคริสตศาสนา 2 ปีหลังจากนั้นในปี ค.ศ. 2015 พระองค์ทรงออกสมณสาสน์เตือนใจ “ขอสรรเสริญองค์พระผู้เป็นเจ้า”(Laudato Si) เนื้อหาสรุปรวมให้เราได้ช่วยกันดูแลเอาใจใส่ธรรมชาติ ช่วยกันแก้ไข ไม่ทำลายมากกว่านี้ ในปีนี้เองที่พระองค์ทรงออกสมณสาสน์เตือนใจ “ขอสรรเสริญพระเจ้า” (Laudate Deum) ทางสภาพระสังฆราชคาทอลิกแห่งประเทศไทย ได้มีคำประกาศ ขอให้ปี 2024-2025 เป็นปีแห่งการ “รวมพลัง รักษ์โลก” เป็นเรื่องที่เชิญชวนพวกทุกคนร่วมใจนำไปปฏิบัติในชีวิตประจำวัน…
สวัสดี…พ่ออดิศักดิ์