“สันติสุขจงอยู่กับท่านทั้งหลาย” พระวาจาของพระเยซูเจ้าที่บอกกับบรรดาศิษย์ เมื่อพระองค์ได้ปรากฏองค์กับพวกเขาหลังจากเสด็จกลับคืนพระชนมชีพ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก่อนหน้านั้น บรรดาศิษย์ไม่คาดคิดว่าจะพบเจอกับเหตุการณ์ร้ายแรงและทำให้พวกเขาอยู่ในสภาพหวาดกลัว สิ้นหวัง พระเยซูเจ้าอาจารย์ของพวกเขาถูกจับตัวไป ถูกตัดสินลงโทษประหารชีวิตด้วยการตรึงกางเขน นักโทษที่ควรจะรับโทษแบบนี้ต้องทำความผิดร้ายแรง แต่อาจารย์ของพวกเขาเป็นคนดี มีผู้ติดตามมากมาย ได้รับความชื่นชมจากผู้คนทั้งหลาย พระองค์ช่วยเหลือผู้คน แต่ต้องถูกตรึงบนไม้กางเขนและสิ้นพระชนม์ แต่แล้วก็มีคนมาแจ้งข่าวบอกว่า ศพของพระองค์หายไป คูหาที่ฝังศพได้ถูกเปิดออกตั้งแต่เช้าตรู่ของวันต้นสัปดาห์ มีการพูดกันด้วยว่าศิษย์ของพระองค์ได้มาขโมยศพไปในเวลากลางคืน ซึ่งพวกเขาไม่ได้มีส่วนรู้เห็นกับเรื่องราวเหล่านี้เลย ยิ่งทำให้พวกเขาเกิดความหวาดกลัว
พระเยซูจะได้ปรากฏพระองค์ให้พวกเขาได้เห็น พร้อมกับได้ยื่นมือที่มีรอยแผลจากตะปูและด้านข้างพระวรกายกายให้พวกเขาได้สัมผัส ยืนยันกับพวกเขาว่าพระองค์เป็นอาจารย์ของพวกเขาที่ถูกจับตัวไปถูกตรึงกางเขน พวกเขาได้เฝ้ามองดูพระองค์สิ้นพระชนม์บนไม้กางเขน มีการนำศพไปบรรจุไว้ในคูหาฝังศพ ไม่มีใครได้เห็นพระองค์ที่นั้น แต่บัดนี้พระองค์อยู่กับพวกเขา ปรากฎมาให้พวกเขาได้สัมผัสร่างกายและรอยแผล เพื่อยืนยันว่าพระองค์ได้ตายไปแล้วจริง แต่เดี๋ยวนี้พระองค์อยู่กับพวกเขา พระองค์เสด็จกลับคืนพระชนมชีพ ขอให้พวกเขาได้เชื่อและมั่นใจว่าบัดนี้พระองค์ยังคงมีชีวิตอยู่ต่อไป
หลังจากการสมโภชปัสกา ซึ่งเป็นวันที่เราร่วมใจกันแสดงความเชื่อและมีความชื่นชมยินดีกับพระเยซูเจ้า ผู้เป็นพระบุตรของพระเจ้า พระองค์สิ้นพระชนม์และกลับคืนพระชนมชีพ เป็นเรื่องราวที่มีความหมายต่อชีวิตของเราทุกคน เป็นเรื่องราวความรักของพระเจ้าที่ทรงยอมตายแทนเพื่อเป็นการชดใช้บาปของมนุษย์ทุกคน ตลอดสัปดาห์นี้ซึ่งใช้คำว่าอัฐวารปัสกาจึงเป็นเวลาที่พระศาสนจักรกำหนดไว้เพื่อฉลองความรักของพระเจ้าที่มีต่อมนุษย์ทุกคน การฉลองปัสกาไม่ใช่เพียงการระลึกถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้นในอดีต แต่ยังเป็นเรื่องราวที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน มีผลต่อเราทุกคนในวันนี้ด้วย เพราะการสิ้นพระชนม์และการไถ่บาปมนุษย์ที่พระเยซูเจ้าทรงกระทำ พระองค์ทรงกระทำครั้งเดียวแต่มีผลตลอดไป
“สันติสุขจงสถิตกับท่านทั้งหลาย” ประโยคที่พระเยซูเจ้าพูดกับพวกเราทุกคนในวันนี้ด้วย พวกเราไม่ได้อยู่ในสถานการณ์เหมือนกับบรรดาสาวก ไม่ต้องหวาดกลัวหรือหวาดระแวงว่าจะมีใครมาจับตัวไปลงโทษ พระเยซูเจ้าทรงมอบสันติสุขและบอกต่อไปว่า “พระบิดาส่งเรามาฉันใด เราก็ส่งท่านไปฉันนั้น”
วันอาทิตย์ที่ 2 ของเทศกาลปัสกา ยังเป็นวันฉลองพระเมตตาของพระเยซูเจ้า นักบุญโฟสตินา ได้รับการดลใจให้เผยแพร่ความเชื่อ ความศรัทธาและความรักต่อพระเยซูเจ้า “พระเจ้าข้า ลูกวางใจในพระองค์” เป็นประโยคที่เขียนบนรูปพระเมตตาฯ เพื่อยืนยันถึงพระเมตตาของพระเยซูเจ้าความศรัทธานี้ช่วยเสริมสร้างชีวิตคริสตชนของเรา ความเชื่อความศรัทธาที่ไม่ใช่เพียงแค่ทำแล้วสบายใจ แต่เป็นกิจการที่จะได้รับผลจากความไว้วางใจที่มอบให้กับพระเจ้า พระเยซูเจ้าผู้เสด็จกลับคืนพระชนมชีพ.
สวัสดี…พ่ออดิศักดิ์