ข้อคิดประจำวันอาทิตย์
ว้าวว…พวกเราได้เป็นลูกแกะของพระคริสตเจ้าจริงๆ
พระวาจาของพระเจ้า เสียงของพระองค์ ได้ร้องบอกให้เราตระหนักว่า พระบิดาได้ส่งพระเยซูเจ้าไปหาชาวยิว บรรดาผู้ที่พระเจ้าทรงเลือกสรร และเราก็เป็นหนึ่งในบุคคลที่พระเลือกสรร พระองค์เรียก…เลือก…เพื่อเลี้ยงดู ปกป้อง และไถ่พวกเขาให้รอดตามพระสัญญาโบราณของพระเจ้า และพระองค์ไม่เรียกหรือเลือกคนใดคนหนึ่งแต่ทรงเลือกเราและบุคคลรอบๆเราไปถึงทุกชนชาติ ทั่วทุกมุมโลก ด้วยเหตุนี้พระเยซูเจ้าจึงทรงตรัสว่า “เรามีแกะอื่นที่ไม่อยู่ในคอกนี้ แกะเหล่านี้เราก็ต้องเป็นผู้นำด้วย…” ดังนั้น พระเยซูเจ้าจึงได้รับตำแหน่งเจ้านายไม่เพียงฝูงเล็กๆ ของอิสราเอลและยูดาห์ แต่เป็นฝูงแกะทั้งหมดบนแผ่นดินโลกด้วย
เราทุกคนวันหนึ่งเราเป็นลูกแกะที่พระองค์ทรงดูแล และไม่เพียงเท่านั้น ยามเมื่อเราเติบโต รับศีลกำลัง พระจิตเจ้าทรงนำเราทุกคนอยู่ภายใต้การปกครองที่เป็นหนึ่งเดียวกับพระเยซูเจ้า ผู้เลี้ยงแกะที่ดีดูแลฝูงแกะของพระองค์ อ่านมาถึงตรงนี้แล้ว…เราได้พิจารณามโนธรรมของเราช่วงนี้เป็นพิเศษ…ว่าเราเป็นลูกแกะของพระองค์แบบไหน แต่ต่อจากนี้พ่อชวนเราดูในฐานะเราดูแลแกะของพระองค์รอบตัวของเราอย่างไร
จากพระวาจากล่าวถึงสุนัขป่า คือการจับแกะและทำให้แกะกระจัดกระจาย ในทางกลับกันพระเยซูเจ้าทรงเป็นต้นแบบในการรวมเราให้เป็นหนึ่งเดียวกัน แล้วสำหรับเรา ในครอบครัว ในที่ทำงาน เราเดินไปไหน นั่งที่ไหน เราทำให้คนรอบข้างรู้สึกถูกจับหรือทำให้วงแตกหรือไม่ หรือว่าเราได้เลียนแบบพระเยซูเจ้าไปที่ไหนเรามีสันติสุขในจิตใจและเติมพลังให้คนรอบข้าง…เราเป็นแบบไหนเอ่ย…
แล้ววันไหนเราพยามปรับปรุงแก้ไขตัวเราเองให้ดำเนินชีวิตเหมือนพระเยซูเจ้า แต่ผลกลับเป็นคนรอบข้างยังรู้สึกถูกกดขี่ ไปไหนก็วงแตก พ่ออยากให้กำลังใจ ให้เรามองไปที่พระเยซูเจ้าผู้เลี้ยงแกะที่ดี และเป็นพระองค์ผู้เลี้ยงแกะ เพราะฉะนั้น จะไม่มีวันล้มเหลวเลย…สู้ๆ ทำต่อไป เลี้ยงดูต่อไป และวางใจในพระเจ้า ดังนั้น ให้เราตระหนักว่าเราเป็นคริสตชน การได้เป็นสมาชิกในฝูงแกะนี้เป็นของขวัญล้ำค่าที่สุดที่เราได้รับจากพระเจ้าของประทานที่ทำให้เรามีชีวิตร่วมกับพระองค์ พ่อไตร่ตรองมาถึงตอนนี้…ก็คิดถึงคำที่ คุณพ่อราเชนกี้ ผู้เป็นพ่อวิญญาณสมัยอยู่บ้านเณรใหญ่ แสงธรรม เคยถามบรรดาเณรก่อนบวชนว่า “ลูกรู้ไหม รู้มีสิ่งสำคัญที่สุดอยู่กับลูก…สิ่งนั้นคือลูกได้เป็นคริสตชน ได้เป็นลูกของพระเจ้า…และในอนาคตอันใกล้นี้ ลูกได้เป็นผู้ที่จะดูและฝูงแกะของพระเยซู ลูกเราทุกคนได้รับเรียกให้ประกาศข่าวดีเรื่องพระคริสต์ และสอนคนทุกชาติให้เป็นศิษย์ของพระองค์” (มธ. 28:19)
ครั้งหนึ่ง สมเด็จพระสันตะปาปาปีอุสที่ 9 วันหนึ่งพระองค์ท่านเดินคนเดียวผ่านห้องแสดงภาพวาติกัน พระองค์ได้พบชายหนุ่มชาวอังกฤษคนหนึ่ง ที่กำลังจ้องมองภาพวาดของราฟาเเอล อย่างปลาบปลื้มใจ พระองค์เฝ้ามองจากที่ไกลๆ และเดินเขาไปหากล่าวว่า “ลูกเอ๋ย เรามันใจว่าลูกต้องเป็นศิลปินแน่ๆ” ชายหนุ่มตอบว่าเขามาโรมเพื่อศึกษาการวาดภาพ แต่ไม่มีเงินเพียงพอที่จะจ่ายค่าเล่าเรียนที่สถาบัน พระสันตะปาปาก็เสนอให้ทุนการศึกษาส่วนพระองค์ให้แก่เขา เขาตอบว่า “ลูกไม่ใช่คาทอลิกนะครับ” พระองค์ตอบด้วยรอยยิ้มว่า “อย่ากังวล การเข้าที่เรียนจะไม่ถูกปฏิเสธด้วยเหตุนั้น” ฝูงแกะของพระเจ้าไม่ได้ถูกกำจัดว่าเป็นคาทอลิกหรือไม่ พระองค์ดึงเราทุกคนเข้าสู่อ้อมแขนของพระองค์ผู้ทรงเลี้ยงแกะที่ดี…
…สามวิธีในการเพิ่มฝูงแกะของพระเจ้า
มีสามวิธีที่เราสามารถทำได้เพื่อช่วยเพิ่มขนาดของฝูงแกะของพระเยซูเจ้า และเพื่อช่วยให้แกะตัวอื่นๆ ที่หลงไปได้กลับมาอยู่ในการดูแลของผู้เลี้ยงแกะที่ดีแต่เพียงผู้เดียว
วิธีแรก คือ การที่เราปฏิบัติกับผู้อื่น ในฐานะที่เราได้เป็นลูกของพระ วาจาสื่อมารยาท กิริยาสื่อสกุล ดังนั้นกิริยาการกระทำของเราควรเต็มไปด้วยศักดิ์ศรีความมีน้ำใจ หัวในที่เปิดกว้าง ศักดิ์สิทธิ์สง่างาม และเปี่ยมไปด้วยสันติสุข เพื่อสะท้อนความดีงามนี้ไปสู่สายตาของคนรอบข้าง เราจะกลายเป็นโฆษณาเป็นประกาศก เป็นลูกของพระที่มีชีวิตที่เดินได้ ท่ามกลางเพื่อนพี่น้องของเราทั้งหลาย
วิธีที่สอง คือ งานหรือบทบาทของเราที่เป็นประจักษ์ ไม่ว่าเราจำทำสิ่งใด งานใด ผลการศึกษา งานอดิเรก งานบ้าน กีฬา เราสามารถเป็นลูกของพระศิษย์ของพระเยซูเจ้าได้เสมอ และสิ่งที่เราควรโดดเด่นในด้านต่างๆ นี้ คือ ความรับผิดชอบ ความน่าเชื่อถือ ความมุ่งมั่น ความซื่อสัตย์
วิธีที่สาม คือ คำพูดของเรา เช่นเดียวกับนักบุญเปโตรในบทอ่านแรกที่เราได้ฟังในวันนี้ เราควรพร้อมที่จะใช้คำพูดของเราเพื่อเผยแพร่ความจริง ความหวัง และการให้กำลังใจซึ่งกันและกัน เพื่อจุด…ปกป้อง…เสริมไฟแห่งศรัทธาในใจคนรอบข้างของเรา
เมื่อเราพิจารณารงานของผู้เลี้ยงแกะนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย พวกเราคงมีประสบการณ์บอก เตือน สั่งสอน คนรอบตัวเรา อาจจะมีวิ่งหนีไปตามหนทางที่เขาสนใจ หรือวิ่งตามไม่ทันจนเป็นที่กังวลของครอบครัวสร้างความไม่มั่นคง ไม่มั่นใจให้กับพวกเรา ดังนั้น ขณะที่เรากำลังร่วมพิธีบูชาขอบพระคุณในวันนี้ ให้เราขอบพระคุณพระเจ้า ที่ทรงนำพวกเรา ให้เป็นฝูงแกะฝูงเดียวของพระองค์
ท้ายสุดนี้ลองถามตัวเราเองก่อนว่า “เราเป็นแกะแบบไหน” ฉันเป็นแกะที่ทำให้ผู้เลี้ยงแกะที่ดีมีอาการปวดหัวไหม? แน่นอนว่าความอดทนของพระเจ้านั้นไม่มีที่สิ้นสุดและความเมตตาของพระองค์ดำรงอยู่เป็นนิตย์ ดังบทเพลงสดุดีที่เตือนเราในวันนี้ โอกาสนี้ขอให้พวกเราเรียนรู้ที่จะ “เข้าลี้ภัยในพระเจ้า วางใจในพระองค์” และชวนกันและกันร่วมวางใจในพระองค์ผ่านทางชีวิตของพวกเรา…