วันนี้เป็นวันอาทิตย์สัปดาห์ที่ 4 ของเทศกาลปัสกา ซึ่งมีชื่อเรียกว่าเป็นวันนายชุมพาบาลผู้ใจดี เนื่องจากพระวรสารประจำสัปดาห์นี้จะพูดเรื่องนายชุมพาบาลใจดี ซึ่งเป็นเรื่องราวที่พระเยซูเจ้าทรงเทศน์สอน โดยใช้คำเปรียบเทียบว่า พระเจ้าทรงห่วงใยและดูแลพวกเราทุกคน ดังเช่นนายชุมพาบาลผู้ใจดีที่คอยเอาใจใส่ดูแลฝูงแกะ เรื่องราวที่เป็นอยู่ในสังคมของชาวยิวที่พระเยซูเจ้าทรงรับรู้และเป็นประสบการณ์ของพระองค์ที่เห็นได้จากคนที่มีอาชีพเป็นคนเลี้ยงแกะ อาชีพเลี้ยงแกะมีทั้งผู้ที่เป็นเจ้าของฝูงแกะเอง และคนที่รับจ้างเลี้ยงแกะ คนเลี้ยงแกะที่เป็นเพียงลูกจ้าง บางครั้งก็ไม่ได้ดูแลฝูงแกะอย่างดี เมื่อมีสุนัขป่าเข้ามาทำร้ายฝูงแกะ พวกเขาจะวิ่งหนี แกะก็จะถูกกัดทำร้ายหนีกระจัดกระจาย แต่คนเลี้ยงแกะที่ดีจะเฝ้าดูแลฝูงแกะ ปกป้องให้ปลอดภัย พระเยซูเจ้าทรงเปรียบชีวิตของพระองค์เป็นดังผู้เลี้ยงแกะที่ดี “เรารู้จักแกะของเราและแกะของเราก็รู้จักเรา” “เรายอมสละชีวิตเพื่อแกะของเรา”
ในระหว่างเทศกาลปัสกานี้ เราจะพูดกันถึงเรื่องความเชื่อในพระเยซูเจ้าผู้ทรงสิ้นพระชนม์และได้กลับคืนพระชนมชีพ สัปดาห์นี้ซึ่งอยู่ระหว่างกลางของเทศกาลปัสกา เป็นความห่วงใยของพระเจ้าที่ทรงมีต่อพวกเราทุกคน โดยใช้เรื่องราวการดูแลของคนเลี้ยงแกะผู้ใจดีมาเป็นการเปรียบเทียบให้เข้าใจมากขึ้น ในพระวรสารนักบุญยอห์นบทที่ 10 ที่พูดถึงเรื่องผู้เลี้ยงแกะที่ดี อธิบายให้เข้าใจชัดเจนถึงความรักความผูกพันใกล้ชิดระหว่างคนเลี้ยงแกะกับแกะของตน คนเลี้ยงแกะจะรู้จักแก่ทุกตัวเป็นอย่างดี แกะแต่ละตัวมีชื่อ เมื่อคนเลี้ยงแกะเรียกชื่อ มันก็จะเดินไปหาเขา คนเลี้ยงแกะจะรู้ดีว่าแกะแต่ละตัวเป็นอย่างไร นิสัยของมันเป็นอย่างไร ซึ่งคนเลี้ยงเข้าใจและเต็มใจที่จะดูแลแกะทุกตัว ในเวลาเดียวกันแกะก็เชื่อฟังและเดินตามคนเลี้ยง ซึ่งจะพาไปยังที่ที่มีหญ้าและน้ำ รวมทั้งคอยปกป้องภัยร้ายต่างๆให้แกะทุกตัวได้ปลอดภัย
คนเลี้ยงแกะผู้ใจดีคนนั้นก็คือพระเยซูเจ้าเอง ที่พระองค์ทรงเป็นเจ้าของฝูงแกะ ซึ่งก็คือพวกเราทุกคน พระองค์ทรงรู้จักเราทุกคนในแบบที่เราเป็น แกะที่อยู่ในความดูแลของพระองค์มีทั้งดี เชื่อฟัง และไม่เชื่อฟัง และไม่ว่าจะเป็นอย่างไรพระเยซูเจ้าทรงดูแลและช่วยปกป้องคุ้มครองทุกคนให้ปลอดภัย จนกระทั่งยอมตายแทนเพื่อเป็นการชดเชยความผิดและช่วยให้ทุกคนได้รับความรอดพ้น
เมื่อพูดถึงคนเลี้ยงแกะผู้ใจดีซึ่งตัวจริงก็คือพระเยซูเอง พระองค์ได้ทรงมอบหมายให้บรรดาอัครสาวกทำหน้าที่เป็นคนเลี้ยงแกะ และส่งต่อพันธกิจนี้เรื่อยมาจนถึงยุคสมัยของเรา ซึ่งหมายถึง ผู้ทำหน้าที่สงฆ์ของพระองค์ ที่จะทำหน้าที่เป็นดังลูกจ้างซึ่งพระองค์มอบหมายให้ทำหน้าที่เป็นคนเลี้ยงแกะดูแลฝูงแกะของพระองค์
พระสันตะปาปาเปาโลที่ 6 ได้ประกาศให้วันอาทิตย์สัปดาห์ที่ 4 เทศกาลปัสกา เป็นวันที่จะร่วมใจกันภาวนาเพื่อกระแสเรียก ในสาส์นวันกระแสเรียกปีนี้ พระสันตะปาปาฟรังซิส เชิญชวนเราทุกคนให้ช่วยกัน “หว่านเมล็ดพันธุ์แห่งความหวังและช่วยกันสร้างสันติสุข” เป็นโอกาสดีที่เราทุกคนที่จะขอบคุณพระเจ้าที่พระองค์ทรงรู้จักและเรียกเราทุกคนให้ติดตามพระองค์ เพื่อก้าวเดินมีส่วนร่วมในแผนการกอบกู้ในรูปแบบที่แตกต่างตามสภาพชีวิตของแต่ละคน”
สวัสดี…พ่ออดิศักดิ์