เรามาถึงช่วงสุดท้ายก่อนการสมโภชแม่พระรับเกียรติเข้าสู่สวรรค์ทั้งกายและวิญญาณ ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 15 สิงหาคม พระศาสนจักรมีความเชื่อในเรื่องนี้มาตั้งแต่ยุคแรก แต่เพิ่งจะมีการประกาศเป็นข้อความเชื่อ เมื่อปีค.ศ 1950 นี่เอง โดยพระสันตะปาปาปีโอที่ 12 เรื่องราวของแม่พระเกี่ยวข้องผูกพันกับพระเยซูเจ้า เป็นไปตามแผนการของพระเจ้า เริ่มตั้งแต่การที่ทูตสวรรค์ได้มาแจ้งให้พระนางทราบถึงพระประสงค์ของพระเจ้า ที่ให้พระนางเป็นมารดาของพระผู้ไถ่ โดยฤทธิ์อำนาจของพระจิตเจ้า ซึ่งพระนางมารีย์ก็น้อมรับด้วยความเต็มใจ เป็นจุดเริ่มต้นการน้อมรับน้ำพระทัยของพระเจ้า ทำให้พระนางมารีย์เป็นแม่ของพระเยซูเจ้าและเป็นมารดาของพระเจ้า หลังจากพระเยซูเจ้าซึ่งเป็นบุตรของพระนางได้จบภารกิจ สิ้นพระชนม์ เสด็จกลับคืนชีพและเสด็จสู่สวรรค์ แม่พระยังคงใช้ชีวิตต่อไปอีกระยะหนึ่งโดยมีนักบุญยวงและบรรดาอัครสาวกคอยช่วยเหลือ ที่สุด เมื่อถึงช่วงเวลาที่แม่พระจบสิ้นชีวิต พระเจ้าได้ทรงรับพระนางเข้าสู่สวรรค์ทั้งกายและวิญญาณ มีสถานที่ที่เรียกว่าพระบรรทม เพื่อแสดงว่าแม่พระเพียงหลับไปและถูกนำขึ้นสู่สวรรค์ทันที ชีวิตของแม่พระมีความต่อเนื่องกันกับพระเยซูเจ้า เมื่อพระองค์เสด็จกลับคืนพระชนมชีพ พระองค์ก็ให้มารดาของพระองค์ได้กลับคืนชีพด้วย ยังมีอีกเหตุผลที่สำคัญก็คือแม่พระเป็นมนุษย์เพียงคนเดียวที่ไม่มีบาป ร่างกายของพระนางจึงบริสุทธิ์และเข้าสู่สวรรค์ทันที
สัปดาห์ที่แล้ว คุณพ่ออนุสรณ์ แก้วขจร ได้มาเทศน์เตรียมจิตใจ ได้พูดถึงเรื่องราวในอดีตที่เกี่ยวโยงกับวันสมโภชแม่พระเสด็จสู่สวรรค์ ย้อนไปตั้งแต่เมื่อเริ่มต้นการตั้งมิสซังสยาม ได้มีการประกาศแต่งตั้งให้ดินแดนสยามเป็นดินแดนแห่งการแพร่ธรรม โดยพระสันตะปาปาเคลเมนต์ที่ 9หลังจากนั้นไม่นานก็มีความลำบากเกิดขึ้น มีการคุมขังบรรดาคริสตชน มิชชันนารี รวมทั้งพระสังฆราช พวกเขาได้ช่วยกันสวดภาวนาขอความช่วยเหลือจากแม่พระ ได้มีการปล่อยตัวผู้ถูกคุมขัง คนสุดท้ายในโอกาสอัสสัมชัญ ต่อมา ในสมัยกรุงรัตนโกสินทร์เมื่อ 100 ปีที่แล้ว โอกาสเข้าเงียบของบรรดามิชชันนารี พระสังฆราชแปร์รอส ได้ประกาศให้มีการถวายประเทศไทยแด่แม่พระ มีการแต่งบทสวดภาวนาและกำหนดให้สวดบทภาวนาเป็นประจำในวันสมโภชแม่พระรับเกียรติเข้าสู่สวรรค์ทั้งกายและวิญญาณ
โอกาสครบรอบ 100 ปีการถวายประเทศไทยแด่แม่พระ สภาพระสังฆราชคาทอลิกแห่งประเทศไทย ได้จัดพิธีรื้อฟื้นเหตุการณ์สำคัญ เชิญชวนคริสตชนไทย ได้ร่วมใจกันสวดภาวนาวอนขอแม่พระเสนอวิงวอนต่อพระเจ้า ทั้งขอแม่พระได้ปกป้องคุ้มครองประเทศไทยและคนไทย ความสำคัญของการฉลองในครั้งนั้นกับในวันนี้ยังคงเป็นเรื่องเดียวกัน การถวายประเทศไทยและขอให้บรรดาคริสตชนได้ร่วมใจกันสวดภาวนา การรณรงค์ในเรื่องนี้ยังเป็นการเตรียมตัวเพื่อเข้าสู่ปีศักดิ์สิทธิ์ของพระศาสนจักร ซึ่งได้มีการประกาศอย่างเป็นทางการแล้วว่า ในปีหน้าจะเป็นปีศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งจะเริ่มตั้งแต่วันฉลองคริสมาสปีนี้เป็นต้นไป
ความสำคัญและหัวใจของการฉลอง ขึ้นอยู่กับพี่น้องแต่ละคนเป็นสำคัญ ไม่ได้อยู่ที่กิจกรรมที่จัดขึ้น เป็นเรื่องของความตั้งใจและความเอาใจใส่ที่อยากให้พี่น้องคริสตชนแต่ละคนได้ลงมือปฏิบัติ ด้วยการสวดภาวนากันอย่างจริงจัง สม่ำเสมอ ต่อเนื่อง เรายอมรับว่ายุคสมัยปัจจุบัน เราสวดภาวนาน้อย น้อยทั้งคนที่สวดและคนที่สวดก็สวดน้อย การฉลองอัสสัมชัญของเราในปีนี้ จึงอยากเชิญชวนพี่น้องได้ไตร่ตรองและหันมาเอาใจใส่ในการสวดภาวนาในชีวิตมากขึ้น
สวัสดี…พ่ออดิศักดิ์