“ผู้ใดไม่ต่อต้านเรา ก็เป็นฝ่ายเรา”
หากถามว่าในบรรดาอัครสาวกของพระเยซูเจ้ามีใครบ้างที่เป็น “ศิษย์รัก” ของพระเยซูเจ้าที่ดูเหมือนจะมีอภิสิทธิ์เหนือคนอื่นๆ พวกเราตอบได้ทันทีว่าได้แก่ เปโตร ยากอบ และยอห์น
แต่มาระโกชี้ให้เห็นว่าแม้จะเป็นศิษย์รักของพระเยซูเจ้าก็ยังเข้าใจผิดและทำผิดพลาดได้ เปโตรที่ไปขวางทางพระเยซูเจ้า (8:32) ยากอบและยอห์นที่ไปขอนั่งข้างขวาและซ้ายของพระเยซูเจ้า (9:30-41) และวันนี้มาระโกเล่าเรื่องที่ยอห์นไปถามพระเยซูเจ้าว่า “เราได้เห็นคนคนหนึ่งขับไล่ปีศาจเดชะพระนามของพระองค์ เราจึงพยายามห้ามปรามไว้ เพราะเขาไม่ใช่พวกเดียวกับเรา”
ก่อนหน้านี้ (มก 9:13-29) บรรดาศิษย์ของพระเยซูเจ้าเคยพยายามขับไล่ปีศาจแต่ทำไม่สำเร็จ แล้วพระเยซูเจ้าเคยสอนพวกเขาว่าจะขับไล่ปีศาจได้ “ด้วยการอธิษฐานภาวนาเท่านั้น”
น่าสังเกตคำพูดของยอห์นที่กล่าวถึงคนหนึ่งที่ขับไล่ปีศาจได้เดชะพระนามของพระเยซูเจ้าว่า “เขาไม่ใช่พวกเดียวกับเรา” ทั้งๆ ที่คนนั้นใช้ “พระนามของพระเยซูเจ้า” ในการขับไล่ปีศาจ
ดูเหมือนว่ายอห์นกำลังพยายามไม่ให้ใครดีเลิศกว่าตนเองผู้ซึ่งเป็นศิษย์รัก ถ้าตัวยอห์นเองขับไล่ปีศาจไม่ได้ คนอื่นก็ต้องขับไล่ไม่ได้เหมือนกัน ต้องไม่มีใครจะมาเก่งหรือดีเลิศไปกว่าตนเอง ยอห์นกำลังกีดกันคนที่ใช้พระนามของพระเยซูเจ้าเพียงเพราะตนเองไม่สามารถทำได้เหมือนคนคนนั้น
ในขณะที่ยอห์นขีดเส้นแบ่งพรรคพวก พระเยซูเจ้าขยายเส้นนั้นออกด้วยพระวาจาที่ว่า “ผู้ใดไม่ต่อต้านเรา ก็เป็นฝ่ายเรา” (มก 9:40) เพราะบุคคลนั้นที่ยอห์นกล่าวถึงไม่เหมือนพวกฟาริสีที่วางตัวเป็นศัตรูของพระเยซูเจ้าตั้งแต่ต้น แต่บุคคลนั้นใช้พระนามของพระเยซูเจ้าในการขับไล่ปีศาจ บรรดาอัครสาวกของพระเยซูเจ้าอาจไม่ยอมรับบุคคลนั้นด้วยเหตุผลต่างๆ นานา แต่พระเยซูเจ้ายืนยันว่า “ผู้ใดไม่ต่อต้านเรา ก็เป็นฝ่ายเรา”
ตัวเราเองในโลกปัจจุบัน เราขีดเส้นแบ่งฝ่ายกันอย่างไร? เพียงแค่เราทำอย่างเขาไม่ได้ก็ถือว่าไม่เป็นฝ่ายเราหรือเปล่า? เพียงแค่ปฏิบัติไม่เหมือนกันก็ไม่ถือว่าเป็นฝ่ายเราหรือเปล่า? บ่อยครั้งเราแบ่งฝ่าย แบ่งพรรค แบ่งพวก เพียงเพราะพวกเขาไม่มารวมกลุ่มกับเรา ไม่ปฏิบัติตามแนวทางของกลุ่มเรา ไม่ยกย่องสรรเสริญเรา เรากีดกันพวกเขาออกเหมือนกับยอห์นในวันนี้ ทั้งๆ ที่พวกเขาไม่เคยต่อต้าน ไม่เคยปฏิเสธ ไม่เคยมุ่งร้ายเราเลย
กลับกลายเป็นตัวเราที่สร้างฝ่ายนั้นฝ่ายนี้ขึ้นมา และต่อต้านผู้ที่อยู่ฝ่ายเดียวกันกับเรา
<ลาซารัส>