“พระเยซูเจ้าทอดพระเนตรเขาด้วยพระทัยเอ็นดู”
เป็นอีกครั้งหนึ่งที่มีคนเข้ามาถามคำถามพระเยซูเจ้า ซึ่งครั้งนี้คนถามเป็นชายหนุ่มที่ถามด้วยความตั้งใจดีว่า “พระอาจารย์ผู้ทรงความดี ข้าพเจ้าต้องทำอะไรเพื่อจะได้ชีวิตนิรันดร” (มก 10:17)
สิ่งที่น่าสังเกตจากคำถามของชายหนุ่มคนนี้คือ เขาเริ่มต้นด้วยการเรียกพระเยซูเจ้าว่า “ผู้ทรงความดี” และพระเยซูเจ้าก็ปรับทัศนคติของเขาด้วยการอธิบายว่ามีเพียงพระเจ้าเท่านั้นที่ทรงความดี (ข้อ 18)
พระเยซูเจ้ายังพยายามทำให้ชายหนุ่มเข้าใจให้ถูกต้องในเรื่องต่างๆ รวมถึงเรื่อง “ต้องทำอะไรเพื่อจะได้ชีวิตนิรันดร” ด้วยการบอกให้ปฏิบัติตามพระบัญญัติ ซึ่งน่าสังเกตว่าพระเยซูเจ้าไม่ได้กล่าวถึงพระบัญญัติทุกประการ พระองค์อ้างถึงเพียงบางข้อเท่านั้นเพราะพระองค์ทราบว่าเขารู้อยู่แล้วว่าต้องทำอะไร
นอกจากนี้ พระบัญญัติที่พระองค์กล่าวถึงทั้งหมดเป็นเรื่องเกี่ยวกับความสัมพันธ์กับเพื่อนมนุษย์ “อย่าฆ่าคน
อย่าล่วงประเวณี อย่าลักขโมย อย่าเป็นพยานเท็จ อย่าฉ้อโกง จงนับถือบิดามารดา” (ข้อ 19) และเมื่อเขาตอบว่าเขาปฏิบัติตามบทบัญญัติเหล่านี้มาตั้งแต่เป็นเด็กแล้ว
มาระโกบันทึกว่า “พระเยซูเจ้าทอดพระเนตรเขาด้วยพระทัยเอ็นดู” (ข้อ 21) เป็นคำพูดที่บรรยายความรู้สึกของพระเยซูเจ้าได้น่ารักมาก พระเยซูเจ้าเอ็นดูชายหนุ่มคนนั้นที่แสวงหาชีวิตนิรันดร แสวงหาการดำเนินชีวิตที่ดีพร้อม และเมื่ออยากรู้มากขึ้นก็ถาม
พี่น้องที่รัก เคยพบเจอกับคำถามของ “เด็กสมัยนี้” ไหม? ที่เมื่อฟังแล้วอาจไม่ค่อยสบอารมณ์เราเท่าไร หรือได้ยินแล้วเราอาจรู้สึกว่าทำไมพูดแบบนี้ ซึ่งอันที่จริงพวกเขาอาจจะเหมือนชายหนุ่มในพระวรสารวันนี้ที่แสวงหาความหมายของชีวิต แสวงหาความจริง แม้ว่าอาจจะแสดงออกไม่ค่อยเป็นเท่าไรนัก
ท่าทีของเราที่เมื่อมีคนมาถามน่าจะเป็นเหมือนพระเยซูเจ้า “มองด้วยความเอ็นดู” เพราะพวกเขาก็แค่สงสัย แค่อยากรู้เท่านั้น และสิ่งที่พวกเขาต้องการก็คือคำตอบหรือคำอธิบาย
บางทีพวกเราเวลาแสวงหาความหมายของสิ่งที่เกิดขึ้น เราก็ถามพระเยซูเจ้าตรงๆ แบบนี้ และพระองค์ก็มองเราด้วยความเอ็นดูเช่นกัน
…<ลาซารัส>…