ช่วงเวลาของการเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้ามาถึงช่วงสุดท้าย พระศาสนจักรเชิญชวนให้คิดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในประวัติศาสตร์ที่บอกเล่าเรื่องราวและเหตุการณ์ต่างๆ ที่พระเจ้าทรงกำหนดไว้ หญิงพรหมจารีผู้หนึ่งทำหน้าที่เป็นมารดาให้กำเนิดบุตรชาย สตรีคนนี้ได้หมั้นกับยอแซฟ ซึ่งในช่วงเวลานั้นที่พระเจ้าทรงบันดาลให้นางตั้งครรภ์ และเมื่อถึงกำหนดใกล้คลอด ได้มีประกาศกฤษฎีกาจากจักรพรรดิที่ปกครองอาณาจักรโรมันในเวลานั้น ให้ชาวยิวทุกคนกลับไปยังถิ่นฐานบ้านเกิดของตน เพื่อลงทะเบียนสำรวจสำมะโนประชากร จึงทำให้ยอแซฟต้องพามารีย์ออกเดินทางไปที่เมืองเบธเลเฮม ถิ่นกำเนิดของบรรพบุรุษของท่านยอแซฟ และขณะที่ทั้งสองเดินทางมาถึงเบธเลเฮม ก็ถึงกำหนดคลอด มารีย์ได้ต้อนรับการเสด็จมาบังเกิดของพระผู้ไถ่ในถ้ำเลี้ยงสัตว์ หลังจากนั้นก็มีบรรดาชุมพาบาลที่กำลังเฝ้าฝูงแกะในบริเวณนั้น ได้มาต้อนรับพระกุมารด้วย
เรื่องราวการบังเกิดมาเป็นมนุษย์ของพระเจ้า ได้มีการพูดถึงและเราก็จดจำรายละเอียดเหตุการณ์เหล่านั้นได้ แต่การร่วมฉลองการบังเกิดของพระเจ้าเป็นมากกว่าการระลึกถึงเหตุการณ์ทางประวัติศาสตร์ คริสตมาสยังคงมีความหมายว่า พระเจ้าทรงเสด็จมาบังเกิดและประทับในชีวิตของพวกเราทุกคน ขอให้ชีวิตของเราเป็นดังรางหญ้าที่เบธเลเฮม ที่พระเจ้าเสด็จมาและประทับอยู่
เรื่องราวการเดินทางของแม่พระและยอแซฟ เป็นไปตามกฤษฎีกาที่สั่งให้ชาวยิวทุกคนปฏิบัติตาม แต่ก็เป็นเรื่องราวที่มีการพยากรณ์ไว้ล่วงหน้าด้วย คำสัญญาของพระเจ้าเป็นความจริง “หญิงพรหมจารีคนหนึ่งตั้งครรภ์และคลอดบุตรชาย” ที่เบธเลเฮมในเวลานั้นรวมทั้งเมืองอื่นๆคงมีความวุ่นวายเพราะการเดินทางของผู้คนที่กลับไปลงทะเบียน การหาที่พักแรมเป็นเรื่องที่มีความยากลำบาก การบังเกิดมาของพระกุมารจริงไม่มีผู้ใดให้ความใส่ใจ
การฉลองคริสต์มาสที่เราจัดขึ้นทุกปี ไม่ได้เพียงจัดเพื่อเป็นการระลึกถึงเหตุการณ์ในประวัติศาสตร์ แต่ยังมีความหมายถึงการต้อนรับการเสด็จมาของพระบุตรของพระเจ้าที่ทรงรับสภาพมนุษย์และบังเกิดในจิตใจของมนุษย์ทุกคน เราเคยได้ยินประโยคเตือนสอนว่า “อย่าให้ประวัติศาสตร์ซ้ำรอย” การเรียนรู้เรื่องราวจากประวัติศาสตร์ก็เพื่อนำมาใช้ปรับปรุงแก้ไขและไม่ให้เรื่องราวเดิมๆ เกิดขึ้นซ้ำอีก หากว่าที่ผ่านมา เราไม่ได้สนใจเรื่องการต้อนรับให้พระเจ้ามาบังเกิดในจิตใจ ก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะเปลี่ยนแปลงไม่ได้ พระองค์เสด็จมาในถ้ำเลี้ยงสัตว์ได้ ก็เสด็จมาบังเกิดในจิตใจของเราได้ด้วยเช่นเดียวกัน
ในค่ำคืนการบังเกิดของพระกุมารมีทูตสวรรค์ของพระเจ้าได้ขับร้องสรรเสริญพระเจ้า “พระสิริรุ่งโรจน์จงมีแด่พระเจ้าในสวรรค์สูงสุดและบนแผ่นดิน สันติจงมีแก่มนุษย์ที่พระองค์โปรดปราน” ทูตสวรรค์ประกาศเชิญชวนพวกเราทุกคนให้สรรเสริญพระเจ้าพร้อมกับมีสันติสุขในชีวิต ซึ่งเกิดขึ้นจากการประทับอยู่ของพระเจ้า
วันคริสตมาส วันที่เรารอคอยกำลังจะมาถึง เป็นช่วงเวลาที่อยากให้พี่น้องได้ต้อนรับการเสด็จมาของพระเจ้า เราสามารถรับรู้มีประสบการณ์จากเรื่องราวต่างๆ ขอให้คริสมาส ปีนี้เป็นเวลาที่พี่น้องได้สัมผัสกับการประทับอยู่ของพระเจ้า พระเจ้าผู้ทรงเต็มเปี่ยมด้วยความรักทรงเสด็จมาเพื่อจะได้ประทับอยู่กับพี่น้องทุกคนและจะทรงประทานความสงบและสันติสุขให้กับพี่น้องทุกคนด้วย.
สวัสดี..พ่ออดิศักดิ์