“เขาจะทำพิธีล้างให้ท่านเดชะพระจิตเจ้าและด้วยไฟ”
วันฉลองพระเยซูเจ้ารับพิธีล้างเป็นวันสิ้นสุดเทศกาลพระคริสตสมภพและเริ่มต้นเทศกาลธรรมดา ซึ่งเริ่มต้นด้วยยอห์นผู้ทำพิธีล้างเป็นพยานยืนยันถึงพระเยซูเจ้า ในพระวรสารนักบุญลูกาไม่ได้กล่าวโดยตรงว่ายอห์นเป็นผู้ประกอบพิธีล้างให้พระเยซูเจ้าแต่กล่าวเพียงว่า “พระเยซูเจ้าก็ทรงรับพิธีล้างด้วย” (ลก 3:21) เพื่อต้องการแสดงให้เห็นว่าพระเยซูเจ้าเป็นผู้เลือกจะรับพิธีล้างเอง เป็นพระองค์ที่ยืนยันว่าสิ่งที่ยอห์นพูดและทำนั้นถูกต้อง
พระวรสารทุกเล่มกล่าวอย่างชัดเจนว่ายอห์นไม่ใช่พระเมสสิยาห์ แต่เป็นเพียงผู้เตรียมทางของพระองค์ ยอห์นยอมรับว่า “ผู้ที่ทรงอำนาจยิ่งกว่าข้าพเจ้าจะมา และข้าพเจ้าไม่สมควรแม้แต่จะแก้สายรัดรองเท้าของเขา” (ลก 3:16)
อันที่จริง ลูกาเพิ่มเติมเรื่องราวที่ยอห์นถูกจับแทรกลงไปในพระวรสารตอนนี้ด้วย (แต่ไม่ได้กล่าวไว้ในพระวรสารวันนี้) เพื่อชี้ให้เห็นว่าหน้าที่ของยอห์นจบลง และภารกิจของพระเยซูเจ้ากำลังจะเริ่มต้นขึ้น
พิธีล้างของยอห์นใช้น้ำ แต่การล้างของพระเยซูเจ้าพระองค์ใช้พระจิตเจ้าและไฟ (ลก 3:16) เพราะการใช้น้ำเป็นเครื่องหมายภายนอก แต่การล้างที่แท้จริงของพระเยซูเจ้านั้นเป็นพลังของพระจิตเจ้าที่ทำให้เกิดผลกับวิญญาณ
ลูกาไม่ได้เล่าเรื่องการล้างของพระเยซูเจ้าเป็นฉากๆ ว่ามีอะไรเกิดขึ้น ยอห์นเป็นผู้กระทำหรือไม่ ไม่ได้กล่าวว่าพระเยซูเจ้ากำลังขึ้นจากน้ำ แต่จงใจเน้นฉากที่ท้องฟ้าเปิดออกและพระจิตเจ้าเสด็จลงมาพร้อมกับเสียงจากสวรรค์ ในขณะที่พระเยซูเจ้า “กำลังภาวนา” (ลก 3:21)
สิ่งที่ลูกาต้องการบอกกับเราคือท้องฟ้าเปิดออกไม่ใช่เมื่อพระเยซูเจ้ารับพิธีล้าง แต่เมื่อพระองค์กำลังภาวนา ซึ่งสำหรับลูกาแล้ว การภาวนาเป็นเรื่องสำคัญมาก เราจะเห็นพระเยซูเจ้าภาวนาอยู่บ่อยๆ ในพระวรสารของท่าน ดังนั้นชีวิตคริสตชนไม่ได้สำเร็จสมบูรณ์ที่ศีลล้างบาป แต่ศีลล้างบาปเป็นการเริ่มต้นพันธกิจ เช่นเดียวกับที่พระเยซูเจ้าเริ่มพันธกิจหลังจากรับพิธีล้าง และเราจะได้ยินเสียงจากสวรรค์ ได้รู้น้ำพระทัยของพระเจ้าได้ผ่านทางการภาวนา
…ลาซารัส…