“สิเมโอนรับพระกุมารมาอุ้มไว้ และกล่าวถวายพระพรแด่พระเจ้า”
เมื่อพระคัมภีร์กล่าวถึงชื่อของผู้ใด บุคคลนั้นย่อมมีความสำคัญหรือมีวัตถุประสงค์บางอย่างเสมอ ในกรณีของสิเมโอนนี้ก็เช่นกัน ลูกาเล่าและเน้นย้ำเป็นพิเศษถึงชายคนนี้ว่า “เป็นคนชอบธรรมและยำเกรงพระเจ้า” ซึ่งแตกต่างจากแนวทางการเขียนทั่วไปของลูกาที่เน้นความเชื่อของสตรีมากกว่า
ลูกาเน้นว่าตลอดชีวิตของสิเมโอนรอคอยการเสด็จมาของพระคริสตเจ้า เขาจะไม่ตายจนกว่าจะได้เห็นพระองค์ พระจิตเจ้าทรงนำสิเมโอนไปและที่สุดได้พบพระเยซูเจ้าพร้อมกับมารีย์และโยเซฟ (ลก 2:25-26)
สิเมโอน เป็นแบบอย่างของชีวิตของคนที่พากเพียรรอคอยด้วยความดี เพราะการดำเนินชีวิตชอบธรรมและยำเกรงพระเจ้าไม่ได้ตัดสินเพียงแค่วันเดียว เดือนเดียว หรือปีเดียว แต่เป็นการมองภาพรวมของทั้งชีวิต จนที่สุดได้พบองค์ความรอดพ้นที่แท้จริง
บ่อยครั้งทีเดียวในชีวิตของเรา เรามีความปรารถนาดี แต่เราลืมจะพากเพียร ลืมจะหมั่นเป็นผู้ชอบธรรมและยำเกรงพระเจ้า ในโลกปัจจุบันที่ทุกอย่างต้องรีบร้อน ด่วนและทันใจไปหมดทุกสิ่ง อะไรที่ได้มายิ่งเร็วยิ่งดี หรือแม้การที่มีภารกิจหน้าที่มากมายที่ต้องรีบทำให้เสร็จทำให้เราลืมเว้นที่ให้กับการรอคอย ลืมเว้นที่ให้กับความพากเพียร ลืมเว้นที่ให้กับความชอบธรรมและยำเกรงพระเจ้า เราเลือกสิ่งอื่นที่ให้บางสิ่งบางอย่างกับชีวิตเร็วกว่าพระเจ้า
หลายสิ่งในชีวิตนั้นคุ้มค่าที่จะรอ เหมือนสิเมโอนที่เฝ้ารอคอยพระผู้ไถ่มาทั้งชีวิต และเมื่อได้เห็นแล้วก็กล่าวว่า “บัดนี้ พระองค์ทรงปล่อยผู้รับใช้ของพระองค์ไปเป็นสุขตามพระดำรัสของพระองค์เถิด เพราะนัยน์ตาของข้าพเจ้าได้เห็นองค์พระผู้ช่วยให้รอดพ้นแล้ว”
…ลาซารัส…