ในระหว่างเทศกาลมหาพรต ที่วัดอัสสัมชัญจะมีพิธีกรรมการเดินรูป 14 ภาค ก่อนพิธีมิสซาเย็นของวันเสาร์และวันอาทิตย์ การเดินรูป เป็นกิจศรัทธาที่พระศาสนจักรรับรอง บางครั้งก็เรียกกิจกรรมนี้ว่ามรคาศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งมาจากคำศัพท์ภาษาละตินว่า Via Crucis หรือทางแห่งไม้กางเขน ในภาษาไทย ใช้คำว่าการเดินรูป 14 ภาค เพื่อแสดงถึงเหตุการณ์ของพระเยซูเจ้าในวันสุดท้ายของพระองค์ ที่พระองค์ทรงถูกตัดสินประหารชีวิตโดยการแบกกางเขน เป็นการเลียนแบบ Via Dolorosa หรือเส้นทางแห่งความเศร้าโศก เป็นเส้นทางดั้งเดิมของพระเยซูเจ้าจากจุดที่พระองค์ถูกตัดสินประหารชีวิต พระองค์เดินแบกไม้กางเขนไปยังเนินเขากัลวารีโอ กิจศรัทธานี้เพื่อบรรดาคริสตชนร่วมเดินทางพร้อมกับการพิจารณาถึงความทุกข์ทรมานของพระเยซูคริสต์ เป็นกิจศรัทธาที่บรรดาคริสตชนโดยทั่วไปให้ความสำคัญอย่างมาก
การเดินรูปหรือมรคาศักดิ์สิทธิ์ เป็นกิจศรัทธาที่สามารถทำร่วมกัน หรือทำเป็นการส่วนตัวก็ได้ เพื่อรำพึงถึงเหตุการณ์ช่วงท้ายในชีวิตของพระเยซูเจ้า ซึ่งต่างจาก 2-3 เดือนที่ผ่านมา เวลาที่เรา ฉลองการเสด็จมาบังเกิดเป็นมนุษย์ของพระองค์ เวลานั้นเป็นความชื่นชมยินดี แต่ในช่วงนี้เป็นวาระสุดท้ายของพระองค์ที่เต็มไปด้วยความทุกข์ การทรมาน จนถึงการสิ้นพระชนม์ของพระองค์ ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่ทำให้การมาบังเกิดของพระองค์ครบสมบูรณ์ เป็นการไถ่บาป และนำความรอดพ้นมาสู่มวลมนุษย์ทุกคน มรคาศักดิ์สิทธิ์ ไม่เพียงนำพาเราให้ร่วมรับรู้ถึงความรู้สึกนึกคิดของพระเยซูเจ้าในฐานะที่พระองค์เป็นมนุษย์เหมือนกับเรา พระองค์มีความทุกข์กายใจ ความเจ็บปวดจากการถูกทรมานต่างๆ แต่การร่วมมรคาศักดิ์สิทธิ์ เป็นการนำพาเราให้ตระหนักถึงพระเมตตาของพระเจ้าที่ทรงรักมนุษย์ทุกคน พระองค์ทรงสร้างทุกคน ให้ชีวิต และยังยอมรับความตาย ซึ่งเป็นโทษของบาปที่มนุษย์เป็นคนกระทำ พระองค์ทรงสิ้นพระชนม์เพื่อจะนำพามนุษย์ให้กลับมีชีวิตใหม่พร้อมกับพระองค์ พี่น้องสามารถเดินรูปฯเป็นการส่วนตัวจากหนังสือหรือจากสื่อออนไลน์ที่มีอยู่ เป็นการไตร่ตรองเรื่องราวความทุกข์ของพระเยซูเจ้า พร้อมกับเรื่องราวในชีวิตของตนเอง ความบกพร่องผิดพลาด บาปต่างๆและความพลาดพลั้งในชีวิต เพื่อเป็นเวลาที่จะสำนึกผิดและกลับใจ พระเจ้าช่วยเหลือทุกอย่าง เรียกร้องให้กลับใจและเปลี่ยนแปลงตนเอง
เทศกาลมหาพรตยังนำพาเราให้คิดถึงเหตุการณ์ที่พระเจ้าทรงนำชาวยิว ประชากรของพระองค์ เดินทางออกจากประเทศอียิปต์ ใช้เวลา 40 ปีในทะเลทราย เพื่อชำระและเตรียมพร้อมพวกเขาก่อนเข้าสู่แผ่นดินแห่งพระสัญญา มหาพรตจึงไม่ใช่การรอคอยวันสมโภชปัสกาโดยอยู่เฉยๆ แต่ทุกวัน เชิญชวนให้เราปฏิบัติตน ก้าวเดินในความเชื่อ ตระหนักถึงการช่วยเหลือของพระเจ้า ในทุกเหตุการณ์ของชีวิตประจำวัน พร้อมกับเตรียมใจด้วยความดี พยายามเอาชนะความอ่อนแอ ทำกิจการเพื่อพลีกรรม จนกว่าจะถึงวันสมโภชปัสกาที่จะมาถึง.
สวัสดี…พ่ออดิศักดิ์