สวัสดีครับ
สัปดาห์ละครั้ง อาทิตย์ที่ 9 พฤศจิกายน 2557
เดือนพฤศจิกายนเริ่มต้นด้วยการฉลองนักบุญทั้งหลาย(วันที่1) และวันระลึกถึงผู้ล่วงลับ(วันที่2)… ในปีนี้มีการปรับเปลี่ยนเลื่อนการฉลองกันเป็นพิเศษเพราะตามปกติในประเทศไทยของเราจะเลื่อนการฉลองนักบุญทั้งหลายไปอยู่ในวันอาทิตย์ปีนี้พอเลื่อนไปในวันอาทิตย์ที่2 พฤศจิกายนไปตรงกับวันระลึกถึงผู้ตายวันระลึกถึงผู้ตายจึงถูกเลื่อนไปเป็นวันจันทร์ที่3 พฤศจิกายน…
เอาเป็นว่าเราได้ฉลองนักบุญทั้งหลายได้ภาวนาอุทิศให้ผู้ล่วงลับกันไปแล้ว… หรือใครยังไม่ได้ทำก็ทำซะไม่สายเกินไปหรอก
อยากจะกล่าวถึงนักบุญทั้งหลายและผู้ล่วงลับ(วิญญาณในไฟชำระ)ย้อนหลังสักเล็กน้อยโดยก่อนใดหมดขอเล่าประสบการณ์หนึ่งที่พบมาให้ฟังคือมีอยู่ครั้งหนึ่งนานพอสมควรมีลูกศิษย์คนหนึ่งมาพบหลังจากที่ไม่ได้เจอกันกว่า10 ปี… ด้วยความเป็นห่วงว่าลูกศิษย์ของเรายังโอเคอยู่หรือเปล่าจึงถามเขาไปว่า“เดี๋ยวนี้ไปวัดไปวาบ้างหรือเปล่า”เขาตอบแบบเขินๆว่า“ไปครับไปปีละ3 ครั้งคือวันคริสต์มาสวันพระตายและวันฉลองนักบุญทั้งหลาย”จากคำตอบของเขาทำให้สงสัยว่าทำไมต้องเป็นวันฉลองนักบุญทั้งหลายด้วยสองวันแรกพอเข้าใจได้จึงถามเขาคำตอบคือเขาบอกว่า“ที่ผมตั้งใจไม่ขาดวัดในวันฉลองนักบุญทั้งหลายเพราะผมคิดว่าคนบาปอย่างผมต้องอาศัยนักบุญทุกองค์ช่วยนะครับลำพังองค์สององค์คงเอาไม่อยู่…”
จากคำตอบของเขาทำให้อุ่นใจนิดๆว่าอย่างน้อยลูกศิษย์เราก็ยังไม่ทิ้งวัดแม้เขาจะคิดอย่างไรก็ตามเขาก็ยังมีความเชื่อว่าบรรดานักบุญจะขอพระเป็นเจ้าเพื่อเขาอยู่… หวังว่าวันหนึ่งจะดีขึ้น… เฮ้อ!
ความจริงเดือนพฤศจิกายนเราน่าจะต้องคิดถึง“สหพันธ์นักบุญ”อันเป็นหนึ่งในข้อความเชื่อของเราคือเราเชื่อว่าพระศาสนจักรนั้นประกอบด้วย3 ส่วนคือบรรดานักบุญอันหมายถึงมนุษย์ที่เจริญชีวิตตามอย่างจิตตารมณ์ของพระเยซูเจ้าและได้ตายไปแล้วได้รับรางวัลเป็นหนึ่งเดียวกับพระเป็นเจ้าตลอดนิรันดรหรือเราเรียกว่า“ขึ้นสวรรค์” ส่วนที่2 คือบรรดา“วิญญาณในไฟชำระ”คือบรรดามนุษย์ที่ตายไปแล้วแต่ยังมีข้อบกพร่องอยู่บ้างยังไม่สามารถขึ้นสวรรค์เป็นหนึ่งเดียวกับพระเป็นเจ้าได้ต้องใช้โทษของตนเองก่อนและเขาไม่สามารถทำบุญหรือทำบาปใดๆด้วยตัวเองอีกแล้วส่วนที่3 คือเรามนุษย์ที่อยู่ในโลกนี้ยังสามารถที่จะทำบุญทำบาปทำผิดทำถูกได้ด้วยตัวเอง
ทั้ง3 ส่วนนี้ต่างพึ่งพาอาศัยกันเรามนุษย์ขอนักบุญเสนอวิงวอนพระเจ้าเพื่อเราเราเองก็มีหน้าที่ที่จะเสนอวิงวอนภาวนาขอพระเมตตาจากพระเจ้าเพื่อวิญญาณในไฟชำระและเมื่อวิญญาณในไฟชำระพ้นโทษขึ้นสวรรค์แล้วเขาก็คือนักบุญที่จะเสนอวิงวอนพระเจ้าเพื่อเราต่อไปนั่นเองและนี่เองที่เป็นคำแนะนำให้เราภาวนาเพื่อวิญญาณผู้ล่วงลับคราวนี้มีคำถามอีกว่าแล้วรู้อย่างไรว่าผู้ที่เราภาวนาอุทิศให้นั้นพ้นโทษหรือยังถ้าพ้นโทษแล้วคำภาวนาของเราจะเสียเปล่าหรือไม่.. คำตอบก็คือไม่ต้องกังวลคำภาวนาของเราจะไม่สูญเปล่าหรอกแต่จะมีผลเสมอสำหรับผู้ที่ยังขาดคำภาวนา… สวัสดีครับ.