“ตัดทางให้ตรง (ด้วยชีวิตของเรา) ใจมุ่งคงหาพระ”
“ข้าพเจ้าเป็นเสียงของผู้ที่ร้องตะโกนในถิ่นทุรกันดารว่า จงทำทางขององค์พระผู้เป็นเจ้าให้ตรงเถิด” (ยน 1:23)
“จงทำทางขององค์พระผู้เป็นเจ้าให้ตรงเถิด”…หากยึดตามตัวอักษร ต้องมีอะไร ต้องทำอย่างไรบ้าง แสดงว่าทางไม่ตรงมันโค้งมันคดเคี้ยว จำเป็นต้อง จัด ดัด หรือตัดให้ตรง อีกประการหนึ่งที่สำคัญมากๆ สำคัญไม่แพ้ใครนั่นคือ คนงานที่จะทำทางคดเคี้ยวเลี้ยวงอจำเป็นต้องลุกขึ้น ออกแรง ก้าวออกจากที่ที่ตนนอนนั่ง หันมาใช้มือใช้เครื่องมือ และลงมือทำให้ทางตรงที่เคยมีแล้วหายไป หรือไม่เคยมีนั้นให้เกิดขึ้นจริง
“จงทำทางขององค์พระผู้เป็นเจ้าให้ตรงเถิด” …หากยึดตามตัวอักษร เป็นจริงได้หรือ มีโอกาสส่งศีลมหาสนิทประจำเดือนให้กับพี่น้องท่านหนึ่งที่จมอยู่กับโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรง ขาลีบเล็กทั้งสองข้างมาสิบกว่าปีแล้ว เธอจะสามารถลุกขึ้น ออกแรงไปตัดถนน ไปทำทางให้ตรงตามพระวรสารเรียกร้องได้หรือ? พระวาจาไม่ได้คิดถึงเธอ เธอถูกพระเจ้าละทิ้ง คนบาปคนพิการคนจนนั้นพระเจ้าจะทอดทิ้งพวกเขากระนั้นหรือ? หรือพระวาจาจะไม่เป็นจริง หลอกลวงเราอย่างนั้นหรือ?
“พระจิตขององค์พระผู้เป็นเจ้าทรงอยู่เหนือข้าพเจ้า เพราะองค์พระผู้เป็นเจ้าทรงเจิมข้าพเจ้าไว้ให้ประกาศข่าวดีแก่คนยากจน ทรงส่งข้าพเจ้าไปปลอบโยนคนที่มีใจชอกช้ำ…” (อสย 61:1)
“จงทำทางขององค์พระผู้เป็นเจ้าให้ตรงเถิด” …แท้จริงพระเป็นเจ้าปรารถนาให้ชีวิตของเราใกล้กับพระองค์ ต้องการให้หัวใจของเราชิดสนิทกับหัวใจของพระองค์ หลายครั้งด้วยความอ่อนแอตามประสามนุษย์ ตามแต่ความต้องการฝ่ายเนื้อหนัง ก็ทำให้ทั้งชีวิตและหัวใจของเราออกห่างจากความรักของพระองค์ ในเมื่อระหว่างเรากับพระเจ้ามันห่างกัน มันมีเส้นทางที่คดเคี้ยวแยกออกจากกัน พระองค์จึงปรารถนาให้เราตัดให้เราทำทางนี้ให้ตรงคงไปสู่หัวใจ ความรัก และชีวิตของพระเจ้า
“จงทำทางขององค์พระผู้เป็นเจ้าให้ตรงเถิด” …ชีวิตที่จมในความทุกข์ของพี่น้องท่านนี่ หรือชีวิตของเราก็เป็นชีวิตที่พระเจ้าพอพระทัย และเป็นคำภาวนาที่ดีที่สุด พระเจ้าทรงชื่นชมเราทุกคนที่วางชีวิตวางใจไว้ในพระองค์ ด้วยชีวิตที่ยังคงเชื่อมั่นวางใจในพระองค์ ไม่ย่อท้อต่อความเจ็บปวด ปัญหาอุปสรรคใดใด ทำให้ชีวิตและหัวใจของเราใกล้ชิดสนิทกับพระ และนี่แหละเรากำลังทำทางขององค์พระผู้เป็นเจ้าให้ตรง…ด้วยชีวิตของเราเอง.
“ข้าพเจ้าเป็นเสียงของผู้ที่ร้องตะโกนในถิ่นทุรกันดารว่า จงทำทางขององค์พระผู้เป็นเจ้าให้ตรงเถิด” (ยน 1:23)