ชีวิตที่เปี่ยมสุข
“ข้าแต่พระเจ้า บัดนี้ พระองค์ทรงปล่อยผู้รับใช้ของพระองค์ไปเป็นสุข ตามพระดำรัสของพระองค์ เพราะนัยน์ตาของข้าพเจ้าได้เห็นองค์พระผู้ช่วยให้รอดพ้น ผู้ที่พระองค์ทรงจัดเตรียมไว้สำหรับนานาประชาชาติ เป็นแสงสว่างเปิดเผยให้คนต่างชาติรู้จักพระองค์ และเป็นสิริรุ่งโรจน์สำหรับอิสราเอลประชากรของพระองค์” (ลก 2:29-32)
ใครเดิน…คนนั้นก็เหน็ดเหนื่อย เป็นคำบรรยายเห็นภาพ หลายคนต้องออกแรงและเหน็ดเหนื่อย ทำไปทำไม เหนื่อยอ่อนไปเพื่ออะไร เพื่อใคร เราลองทบทวนดูบ้างไหม… จนมีหลายคนถามว่าคุ้มไหมกับหยาดเหงื่อที่เราลงแรง
หากเราทบทวนแล้วเห็นชัดเจนถึงเป้าหมายว่าเรายอมออกแรงเสียพลังงาน ให้ร่างกายจำต้องเหน็ดเหนื่อยเมื่อล้า หากเราเห็นชัดว่าเพื่อมอบชีวิตมอบความรักให้กับใครสักคนหนึ่ง ครอบครัวหนึ่ง ประเทศหนึ่ง หรือมากกว่านั้น เมื่อเราเข้าใจ ชีวิตเราหัวใจเราจะเปี่ยมสุข
“เพราะพระเจ้าจะไม่ทรงลืมความเมตตาของท่านต่อบิดา พระองค์จะทรงนับว่าความเมตตานั้นเป็นการใช้โทษบาปของท่าน เมื่อท่านตกทุกข์ได้ยาก พระเจ้าจะทรงระลึกถึงท่าน บาปของท่านก็จะสลายไปดุจน้ำแข็งละลายเมื่อถูกแสงแดด (บสร 3:14-16)
การสมโภชวันพระคริสตสมภพ วันคริสต์มาสจึงเป็นช่วงเวลาที่เปี่ยมสุข ที่เราจะลืมนึกถึงตนเอง หรือนึกถึงให้น้อยลง และเพื่อเราจะมีพลัง ความสามารถ เวลาเพื่อที่จะออกแรงและเหน็ดเหนื่อยเพื่อจะได้สะสมความรัก ความดีงาม และส่งออกไปเป็นของขวัญสำหรับคู่ชีวิต คู่รัก เพื่อนมิตร ครอบครัว ประเทศชาติ และสำหรับทุกๆคน
เพียงเท่านี้ชีวิตเราก็เปี่ยมสุข คุ้มค่า และเราจะสามารถบอกกับพระได้เช่นกันว่า “ข้าแต่พระเจ้า บัดนี้พระองค์ทรงปล่อยผู้รับใช้ของพระองค์ไปเป็นสุข ตามพระดำรัสของพระองค์ เพราะนัยน์ตาของข้าพเจ้าได้เห็นองค์พระผู้ช่วยให้รอดพ้น”