วันพระเจ้าอย่าลืมฉลองเป็นวันศักดิ์สิทธิ์ แยกและยกให้เป็นสิทธิเฉพาะของพระองค์
“ผู้ที่ถือโสดย่อมสาละวนในการงานขององค์พระผู้เป็นเจ้า หาวิธีทำให้พระองค์พอพระทัย ผู้ที่แต่งงานมีครอบครัวสลวนกับการงาน หาวิธีให้ครอบครัวมีสุข” (เทียบ 1คร 7:32-33)
ทุกวันนี้ นับแต่ลืมตาจวบจนปิดเปลือกตาบนหัวหมอนนุ่มสบาย เราดำเนินชีวิต ทำหน้าที่คริสตชน ลูกของพระมากน้อยเพียงใด สวดภาวนาสักกี่ครั้งกี่เวลา ขณะที่โลกสมัยใหม่เป็นเรื่องนิยมไปแล้วที่จะพิมพ์ขึ้นในโลกออนไลน์ ที่เขาเรียกแบบนิยมกันว่า “อัพเดท” “อัพเฟส” หรือว่า “เช็คไลน์” และอื่นๆ ในวันเดียวกันนั้น เราได้ภาวนาได้ “อัพเดท” ชีวิตระหว่างเรากับพระ บ่อยและยาวนานเพียงใด???? ยังเป็นคำถามที่รอ…รอผู้ตอบ
องค์พระผู้เป็นเจ้าตรัส… “…เราจะบันดาลให้ประกาศกคนหนึ่งเหมือนท่านเกิดขึ้นจกบรรดาพี่น้องของเขา เราจะใส่ถ้อยคำของเราไว้ในปากของเขา และเขาจะพูดอย่างที่เราสั่ง ใครไม่ยอมฟังถ่อยคำของเราที่ประกาศกจะพูดในนามของเรา เราจะลงโทษเขา แต่ถ้าประกาศกใดบังอาจพูดในนามของเราโดยที่เราไม่ได้สั่ง หรือพูดในนามของเทพเจ้าอื่น ประกาศกผู้นั้นจะถูกประหารชีวิต” (ฉธบ 18:18-19)
เรื่องนี้อาจจะคุ้นกันแล้ว แล้วยังมาพูดซ้ำๆอีก หรืออาจจะเสียดแทงใจดำข้างในใครต่อใคร ทำไมต้องนำมาพูด ที่เป็นเช่นนี้เพราะพระสงฆ์นับเป็นประกาศก พ่อเองนับเป็นผู้พูดแทนในเรื่องที่พระต้องการพูดสอน หากปล่อยไม่พูดแล้ว…พระองค์จะลงโทษประกาศกของพระองค์ ทุกคนต่างประหลาดใจ (ในเหตุการณ์ที่พระองค์เทศน์สอน ประกาศ และกระทำ) จึงถามกันว่า “นี่มันเรื่องอะไร เป็นคำสั่งสอนแบบใหม่ที่มีอำนาจ เขาสั่งแม้กระทั่งปีศาจ และมันก็เชื่อฟัง (มก 1:27)
เราแต่ละคน…ทุกคน โดยศีลล้างบาปที่เราได้รับ เราได้รับมอบหมายชีวิตของประกาศกไว้ในชีวิตคริสตชนของเราด้วย จึงจำเป็นที่เราจะต้องประกาศพระวาจา-น้ำพระทัยของพระด้วย ออกไปประกาศให้ทุกคน จงอย่าลืม-ทอดทิ้งพระ แต่จงหมั่นสวดขยันภาวนา ขยันอัพเดทชีวิตเรากับพระเสมอ
ประกาศให้ผู้อื่นด้วยชีวิตของเราเอง โดยหมั่นสวด สนใจวางจิตของตนบนความสงบ และสลวนแบ่งความรักปันชีวิต…มาเถิด วันนี้เรามาเริ่มภาวนากับพระองค์ มาเริ่มทำให้ชีวิตของเราเป็นสิทธิพิเศษและยกให้เฉพาะพระองค์…วันพระเจ้าอย่าลืมฉลองเป็นวันศักดิ์สิทธิ์.