บทเทศน์ของพระสันตะปาปาฟรังซิส : แทนบทสนทนาเจ้าอาวาสในวันนี้
โป๊ปฟรังซิส : ลูกหลานที่ไม่ดูแลพ่อแม่และผู้สูงอายุ ถือเป็นบาปหนัก
หนังสืออพยพในบทอ่านวันนี้ ได้กล่าวถึงบัญญัติ 10 ประการที่พระยาห์เวห์ได้มอบให้แก่ชาวยิวผ่านทางโมเสส จึงขอนำเสนอบัญญัติข้อที่ 4 ซึ่งคัดลอกมาจากบทเทศน์ของพระสันตะปาปาฟรังซิส จากโป๊ปรีพอร์ต(Pope Report) นำลงไว้ ณ ที่นี้ เนื่องจากปี 2015 นี้ ในเดือนตุลาคมจะมีการประชุมสมัชชาพระสังฆราชคาทอลิก เรื่องครอบครัว บทเทศน์ของพระองค์ท่านในวันนี้จึงเหมาะสมสำหรับเป็นข้อคิดข้อรำพึงในวันอาทิตย์นี้
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงชี้ พวกลูกหลานที่ไม่ดูแลพ่อแม่ ไม่ดูแลปู่ย่าตายาย การทอดทิ้งผู้สูงอายุแบบนี้ถือเป็นบาปหนัก ทรงเตือน หากเราไม่เคารพและไม่ดูแลผู้สูงอายุ แก่ตัวไป เราก็จะถูกปฏิบัติแบบนั้นเช่นกัน ทรงย้ำ ที่ใดที่ไม่ให้เกียรติผู้สูงอายุ ที่นั่นก็ไม่มีอนาคตให้กับเยาวชนลูกหลานของตน
ช่วงสายวันพุธที่ 4 มีนาคม สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงออกมาเทศน์สอนและพบสัตบุรุษกว่า 50,000 คนในการเข้าเฝ้าทั่วไป ณ ลานหน้ามหาวิหารนักบุญเปโตร วาติกัน พระสันตะปาปายังคงเทศน์เรื่องเกี่ยวกับครอบครัวเหมือนเช่นเดิม เพราะเดือนตุลาคมนี้ จะมีการประชุมสมัชชาพระสังฆราชคาทอลิก เรื่องครอบครัว พระองค์จึงอยากเน้นเรื่องบทบาทของสมาชิกครอบครัวให้ทุกคนได้ตระหนัก โดยวันนี้ พระองค์ทรงเน้นเรื่องของ “ปู่ย่าตายาย และผู้สูงอายุในครอบครัว”
พระสันตะปาปา ตรัสว่า “โลกเราทุกวันนี้ มนุษย์มีชีวิตและมีอายุที่ยืนยาวขึ้น แต่สิ่งหนึ่งที่พ่ออยากกล่าวถึงก็คือ หลายคนขาดความเคารพและตระหนักถึงคุณค่าของผู้สูงอายุและศักดิ์ศรีในตัวพวกท่านเหล่านั้น พ่อขอนำพระดำรัสที่สมเด็จพระสันตะปาปา เบเนดิกต์ ที่ 16 เคยกล่าวไว้ มาเตือนใจทุกคน พระองค์ตรัสว่า ‘คุณภาพของสังคมซึ่งหมายถึงอารยธรรมต่างๆ จะถูกตัดสินด้วยวิธีการที่สังคมนั้นดูแลผู้สูงอายุและด้วยสถานที่ที่พวกเขาจัดหาให้ผู้สูงอายุได้อาศัยในสังคม’ พ่อไตร่ตรองแล้ว พระดำรัสนี้คือความจริงทุกประการ การให้ความสำคัญเอาใจใส่ต่อผู้สูงอายุคือสิ่งที่สร้างความแตกต่างให้ภายในอารยธรรมนั้นๆ
“พ่อขอเล่าประสบการณ์ตอนที่พ่อเป็นพระอัครสังฆราชอยู่ที่บัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา ทุกครั้งที่พ่อไปเยี่ยมบ้านคนชรา พ่อมักจะหยุดพูดคุยกับผู้สูงอายุที่นั่นและสอบถามว่า ลูกๆ ของพวกท่านทำอะไรกันอยู่ ลูกๆ มาเยี่ยมบ้างหรือเปล่า คำตอบที่พ่อได้รับคือ ‘ลูกของฉันสบายดี เขามาเยี่ยมเป็นประจำ’ พ่อจึงถามต่อไปว่า ครั้งสุดท้ายที่ลูกของท่านมาเยี่ยมนั้น เมื่อไหร่กัน ผู้สูงอายุท่านนั้นตอบพ่อว่า ‘ช่วงคริสต์มาส’ แต่ตอนที่พ่อคุยกับผู้สูงอายุท่านนี้ มันเดือนสิงหาคมแล้วนะ เท่ากับว่า 8 เดือนที่ผ่านมา ลูกของท่านไม่มาเยี่ยมเลย! การทำแบบนี้ ถือเป็นบาปหนักเลยนะ!
“นี่คือบาปหนัก (Mortal Sin) ที่ไม่สนใจผู้สูงอายุ พวกท่านเหล่านั้นไม่ใช่มนุษย์ต่างดาว สักวันหนึ่ง ไม่ช้าก็เร็ว พวกเราก็จะเป็นเหมือนพวกเขา พวกเราจะเป็นแบบพวกเขาแบบเลี่ยงไม่ได้แน่นอน แม้ในตอนนี้ เรายังไม่อยากจะคิดก็ตาม ถ้าเราไม่เรียนรู้ที่ดูแลและเคารพศักดิ์ศรีของผู้สูงอายุ พวกเราก็จะถูกปฏิบัติแบบที่พวกท่านเหล่านั้นถูกกระทำเช่นกัน
“ด้วยเหตุนี้ พ่ออยากเรียงร้องไปยังทุกคน ช่วยกันเอาใจใส่ผู้สูงอายุที่กำลังเจ็บป่วยหรือถูกทอดทิ้งให้อยู่คนเดียว พวกเขาต้องการการเอาใจใส่และการดูแลจากเรา อย่ามองพวกท่านเป็นภาระเด็ดขาด พระคัมภีร์ก็กล่าวไว้ว่า ผู้สูงอายุคือคลังปัญญาของสังคม
“พระศาสนจักรจะเดินเคียงข้างผู้สูงอายุด้วยความสำนึกในพระคุณและความรักที่ท่านเหล่านั้นมีให้ พระศาสนจักรจะทำให้ผู้สูงอายุรู้สึกว่าตนเองได้รับการยอมรับและเป็นส่วนหนึ่งของสังคม พระศาสนจักรไม่สามารถยอมรับความเสื่อมทรามทางศีลธรรม อาทิ การทอดทิ้งผู้สูงอายุและปล่อยให้พวกเขากลายเป็นส่วนเกินของสังคม ที่ใดที่ไม่ให้เกียรติผู้สูงอายุ ที่นั่นก็ไม่มีอนาคตให้กับเยาวชนลูกหลานของตน” พระสันตะปาปา ตรัสปิดท้าย