“พระเยซูเจ้าเสด็จสู่สวรรค์… พระองค์ทรงห่วงอะไร”
“ท่านทั้งหลายจงออกไปทั่วโลก ประกาศข่าวดีให้มนุษย์ทั้งปวง ผู้ที่เชื่อและรับศีลล้างบาปก็จะรอดพ้น … เขาจะปกมือเหนือคนเจ็บ คนเจ็บเหล่านั้นก็จะหายจากโรคภัย” (มก 16:15-16,18)
นี่เป็นคำสั่งของพระเยซูเจ้า ชัดเจน นับว่าชัดเจนกับถ้อยคำของพระเยซูเจ้า พระองค์ตรัสบอกถึงความตั้งใจของพระองค์ที่จะให้ทุกคนจนสุดปลายแผ่นดินโลกได้รับการประกาศพระวาจา พบกับพระเมตตารักของพระบิดาที่พระองค์นำมาให้ ถ้อยคำของพระองค์สั้นๆเพียงสองประโยคล้วนบอกชัดเจนให้เราที่ติดตามพระองค์อยู่นิ่งเฉยไม่ได้แล้ว บอกชัดเจนว่า เราต้องลุกขึ้นออกแรงก้าวเท้า และที่สำคัญต้องเปิดปากพูด และพูดประกาศถ้อยคำของพระมอบวาจาและกิจการเมตตารักให้กับเพื่อนพี่น้องของเรา
“ท่านทั้งหลายจงออกไปทั่วโลก ประกาศข่าวดีให้มนุษย์ทั้งปวง ผู้ที่เชื่อและรับศีลล้างบาปก็จะรอดพ้น … เขาจะปกมือเหนือคนเจ็บ คนเจ็บเหล่านั้นก็จะหายจากโรคภัย” (มก 16:15-16,18)
พระองค์ทรงห่วงใย ชัดเจนเมื่อพระองค์ให้เราออกไปประกาศและมอบจิตเมตตาด้วยการกระทำ แสดงว่ายังมีพี่น้องอีกมากมายในโลกที่ยังจมอยู่ในความทุกข์ ในความมืดมนท้อแท้ ตัวอย่างชัดเจนที่กำลังระทมทุกข์หนักมาก เพื่อนพี่น้องที่ประเทศเนปาลกับภัยพิบัติแผ่นดินไหวอย่างรุนแรงที่กำลังเผชิญกันอยู่ ชัดเจนว่า พระองค์ทรงห่วงใยพี่น้องเหล่านี้ที่กำลังระทมทุกข์ ชัดเจนพระองค์ปรารถนาให้เราลุกขึ้นก้าวเท้ายื่นมือยื่นหัวใจรักและทำสิ่งใดสักอย่างเป็นอย่างน้อยเพื่อช่วยเหลือเยียวยาบรรเทาพี่น้องที่จมอยู่ในความทุกข์
“ท่านทั้งหลายจงออกไปทั่วโลก ประกาศข่าวดีให้มนุษย์ทั้งปวง ผู้ที่เชื่อและรับศีลล้างบาปก็จะรอดพ้น … เขาจะปกมือเหนือคนเจ็บ คนเจ็บเหล่านั้นก็จะหายจากโรคภัย” (มก 16:15-16,18)
พระองค์ทรงห่วงอะไร แนวทางชัดเจนมีอยู่แล้ว เป้าหมายชัดเจนไม่หนีไปไหนและเจ็บปวดเป็นทุกข์อย่างไม่ต้องสงสัย แต่พระองค์ทรงห่วงอะไรอีกหรือเปล่า “ในโลกนี้มีคนมากมายที่อยู่ในความบาป… ใครจะไปบอกคนเหล่านั้นให้รู้ถึงความรอด…” พระองค์ทรงห่วงว่าใคร ใครกันนะที่จะวางใจในพระองค์และออกเดินทางตามที่พระองค์ทรงเรียกร้องและสั่ง หลายครั้งเรามีน้ำใจดี แต่ยังไม่เพียงพอ เรายังทำให้พระองค์ทรงห่วงกังวล เราไม่ได้วางใจในพระองค์ เราไม่ได้เชื่อมั่นในหนทางของพระองค์ และเราคิดเรามโนและตัดสินใจลงมือทำกิจการที่เราคิดว่าเป็นกิจเมตตารักของพระ แต่แท้จริงแล้วกลับทำตามใจตนเองไม่ใช่ตามน้ำพระทัย สรุปสุดท้ายกิจการนั้นกลับกลายเป็นไม่ใช่ “การประกาศพระวาจา การประกาศข่าวดี การประกาศพระเมตตารักของพระบิดา”