แทนบทสนทนาจากเจ้าอาวาส
โป๊ปฟรังซิส: “เยาวชนอย่าติดคอมพิวเตอร์จนกลายเป็นทาสของมัน”
Posted by editor@popereport.com on 23:33
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงสอน เยาวชนอย่าติดคอมพิวเตอร์จนกลายเป็นทาสของมัน หากเยาวชนใช้คอมพิวเตอร์เสพสื่อลามก เราก็เสียศักดิ์ศรีความเป็นคนของเราไป ทรงยอมรับ เลิกดูโทรทัศน์ตั้งแต่ทศวรรษที่ 90 แล้ว ทรงหวังเห็นเยาวชนบอสเนียสร้าง “สะพานในจิตใจ” มากกว่าสร้าง “กำแพงในจิตใจ” เพื่อจะได้ร่วมมือกันสร้างสันติให้กับประเทศ
ช่วงเย็นวันเสาร์ที่ 6 มิถุนายนที่ผ่านมา สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส ทรงพบปะและให้โอวาทแก่บรรดาเยาวชนคาทอลิก ภายในศูนย์เยาวชน จอห์น ปอล ที่ 2 กรุงซาราเยโว ประเทศบอสเนียแอนด์เฮอร์เซโกวีน่า พิธีการนี้ เป็นพิธีสุดท้ายในการเสด็จเยือนบอสเนียของพระสันตะปาปาด้วย
พิธีเริ่มด้วยการแบ่งปันประสบการณ์ความเชื่อของบรรดาเยาวชน หลังจากพวกเขาแบ่งปันเสร็จ พระสันตะปาปาทรงขอโทษทุกคนที่ต้องแจ้งว่า เวลาของพระองค์ในบอสเนีย เหลือไม่มากแล้ว พระองค์จึงไม่สามารถเทศน์สอนพวกเขาได้แบบเต็มๆ กระนั้น พระสันตะปาปาทรงเชิญชวนพวกเขาให้ถามคำถาม แล้วพระองค์จะตอบแบบสดๆ กลับไป
คำถามแรก เยาวชนถามพระสันตะปาปาว่า “จริงหรือไม่ที่พระสันตะปาปาไม่ได้ดูโทรทัศน์มานานหลายปีแล้ว ทำไมพระองค์ถึงไม่ดูโทรทัศน์ล่ะ”
พระสันตะปาปา ตรัสตอบว่า “ใช่ พ่อไม่ได้ดูโทรทัศน์มาตั้งแต่ช่วงกลางๆ ทศวรรษที่ 90 แล้ว ก่อนหน้านั้น มีคืนหนึ่งพ่อดูโทรทัศน์แล้วรู้สึกไม่ดี พ่อจึงตัดสินใจว่าจะไม่ดูโทรทัศน์อีกต่อไป เมื่อใดที่พ่อต้องการจะดูภาพยนตร์ดีๆ สักเรื่อง พ่อจะไปที่ศูนย์โสตทัศนศึกษาของสังฆมณฑลและไปดูภาพยนตร์ที่นั่น แต่เป็นเรื่องที่พ่ออยากดูเท่านั้นนะ พ่อรู้ดีว่า พ่อเกิดมาในยุคหิน (ทุกคนหัวเราะชอบใจ) พ่อเป็นคนโบราณและพ่อก็รู้ดีว่ายุคสมัยมันเปลี่ยนไปขนาดไหน … พ่อมีสิ่งที่อยากชี้แนะ 2 ประการ หนึ่ง มันเป็นความรับผิดชอบของสถานีโทรทัศน์ต่างๆ ในการผลิตรายการที่มีประโยชน์ มีคุณค่ากับสังคม รายการต้องช่วยเราให้ก้าวไปข้างหน้า ไม่ใช่ทำให้เราตกเป็นเหยื่อของมัน สอง เราต้องเลือกรายการที่เราดูอย่างรอบคอบ นี่เป็นความรับผิดชอบของคนดูอย่างเรา ถ้าเราเห็นว่า รายการที่ดูนั้น ไม่ทำให้เกิดคุณค่าหรือลดคุณค่าของเรา จงเปลี่ยนมันซะ ทำให้เหมือนกับคนในยุคโบราณที่เมื่อหนังสือที่อ่านนั้น ดีอยู่แล้ว ก็อ่านต่อ แต่ถ้าหนังสือไม่ดี จงเปลี่ยนเล่มซะ มีสิ่งที่สามที่พ่อขอเพิ่มคือ ถ้านิยายที่อ่านเป็นนิยายที่ไม่ดี มันจะฆ่าจิตวิญญาณของเราได้ เช่นเดียวกัน ถ้าพวกลูกเป็นเยาวชน ลูกดำเนินชีวิตอยู่กับจอคอมพิวเตอร์จนกลายเป็นทาสของมัน พวกลูกก็สูญเสียอิสรภาพนะ ถ้าลูกดูเนื้อหาลามกต่างๆ ลูกก็สูญเสียศักดิ์ศรีด้วยเช่นกัน การดูโทรทัศน์และใช้คอมพิวเตอร์ ก็ถือว่าดี แต่ต้องใช้เพื่อสิ่งดีงามเท่านั้นนะ”
คำถามที่สอง เยาวชนถามพระสันตะปาปาว่า “พระองค์รู้สึกถึงความชื่นชมยินดีและความรักที่เยาวชนบอสเนียมีต่อพระองค์หรือไม่”
พระสันตะปาปา ตรัสตอบว่า “ด้วยความสัตย์จริง พ่อสัมผัสถึงความรักและความชื่นชมยินดีเสมอๆ เวลาที่พ่อพบกับเยาวชน แต่สำหรับพวกลูกเยาวชนบอสเนีย สิ่งที่ทำให้เราลูกแตกต่างจากคนอื่นคือพวกลูกเป็นเจเนเรชั่นแรกหลังจากสิ้นสุดสงคราม พวกลูกคือดอกไม้ที่ผลิบานและต้องการจะก้าวไปข้างหน้า พวกลูกไม่ต้องการกลับไปอยู่กับการทำลายล้างในอดีต พ่อได้เห็นความกระตือรือร้นในตัวลูกๆ พ่อได้เห็นพวกลูกไม่ต้องการสงครามอีกต่อไป ไม่ต้องการสร้างศัตรู แต่ลูกต้องการเดินไปข้างหน้าด้วยกัน นี่คือสิ่งที่ยอดเยี่ยมมากๆ มันจะไม่มี ‘พวกเขา’ หรือ ‘ฉัน’ มันจะมีแต่คำว่า ‘พวกเรา’ ไม่ว่าจะเป็นมุสลิม ออโธด็อกซ์ หรือคริสต์ ก็จะมีแต่คำว่า ‘พวกเรา’ ที่จะสร้างสันติให้เกิดขึ้นได้ ดังนั้น อย่าสร้างกำแพง แต่จงสร้างสะพาน! นี่คือความชื่นชมยินดีที่พ่อเห็นในตัวลูก”
คำถามที่สาม เยาวชนถามพระสันตะปาปาว่า “สารแห่งสันติภาพที่พระสันตะปาปาจะมอบให้เยาวชนบอสเนียแอนด์เฮอร์เซโกวีน่า คือสิ่งใด”
พระสันตะปาปา ตรัสตอบว่า “สันติสุขจงดำรงอยู่กับท่าน จงไปและไปสร้างสันติภาพ จงทำงานร่วมกันเพื่อสันติภาพ ขอให้ประเทศแห่งนี้เป็นประเทศแห่งสันติ นี่คืองานที่พ่อขอมอบให้พวกลูกคือไปสร้างสันติพร้อมๆ กัน สันติภาพจะเกิดระหว่างมุสลิม ยิว ออโธด็อกซ์ คาทอลิก และทุกศาสนา ขอให้ไม่มีสิ่งใดที่แยกเราออกจากกันได้ แต่ขอให้เราเป็นพี่น้องกันและเป็นหนึ่งเดียวกันตลอดไป”
หลังจากพระสันตะปาปาทรงให้โอวาทเยาวชนเสร็จ พระองค์ได้เสด็จไปยังสนามบินนานาชาติกรุงซาราเยโว เพื่อประทับเครื่องบินพระที่นั่งกลับกรุงโรมต่อไป…..