“ขอบพระคุณความรักของพระ ขอบพระคุณความรักของแม่”
“ผู้ที่เชื่อในเรา ก็มีชีวิตนิรันดร… เราเป็นปังทรงชีวิตที่ลงมาจากสวรรค์ ใครที่กินปังนี้จะมีชีวิตอยู่ตลอดไป และปังที่เราจะให้นี้ คือเนื้อของเรา เพื่อให้โลกมีชีวิต” (เทียบ ยน 6:47-48,51)
พบพระวาจาตอนนี้อดคิดถึงเรื่องเล่าถึงธรรมชาติของ “นกพิลิแกลน”ไม่ได้ แม่นกพิลิแกลนเลี้ยงลูกน้อยเหมือนพ่อแม่ทั่วไป ไม่ต่างจากแม่นกชนิดใดๆในโลก เมื่อลูกน้อยหิวแม่นกก็พยายามหาอาหารมาป้อนมาเลี้ยงดูให้มีชีวิตเติบใหญ่ เหมือนกับความรักของแม่เลย ที่เมื่อแม่เห็น จะเห็นด้วยประสบการณ์ว่าถึงเวลาแล้วที่ต้องให้อาหารลูก หรือจะเห็นด้วยการเรียนรู้เมื่อลูกหิวก็หาอาหารมาป้อน
ที่ต่างจากนกอื่นๆคือ เมื่อยามคับขันจำเป็น แม่นกพิลิแกรนหาอาหารมาไม่ได้แต่ลูกนกน้อยถึงเวลาอาหารและหิวก็จะร้องหาอาหาร หากเป็นนกชนิดอื่นก็ไม่รู้จะทำอย่างไร ไม่แน่ลูกน้อยอาจจะตายลงด้วยหิวอาหาร สำหรับแม่นกพิลิแกรน เธอจะเอาจงอยปากที่แหลมคมจิกปักไปที่อกและจิกเอาเลือดและเนื้อจากอกมาป้อนให้กับลูกน้อยเพื่อไม่ให้ลูกน้อยตายไปต่อหน้าต่อตา… เราจึงนำเอาธรรมชาติของนกชนิดนี้มาเปรียบกับความรักของพระเยซูเจ้า ยิ่งตรงกับพระวาจาตอนนี้เหลือเกิน.
“ผู้ที่เชื่อในเรา ก็มีชีวิตนิรันดร… เราเป็นปังทรงชีวิตที่ลงมาจากสวรรค์ ใครที่กินปังนี้จะมีชีวิตอยู่ตลอดไป และปังที่เราจะให้นี้ คือเนื้อของเรา เพื่อให้โลกมีชีวิต” (เทียบ ยน 6:47-48,51)
วันแม่ที่กำลังจะมาถึง เราคิดถึงและภาวนาสำหรับองค์สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ แม่หลวงของพสกนิกรชาวไทยทั้งชาติ เราได้เห็นการอุทิศชีวิตของพระองค์ท่านเพื่อลูกๆชาวไทยของท่าน สมแล้วที่พระองค์ท่านทรงได้รับพระนามว่า “แม่แห่งชาติไทย” เช่นกันกับองค์พระเยซูเจ้า พระองค์ท่านเมื่อยามเห็นลูกเจ็บ บาดเจ็บ หิวโหย ก็พยายามทุกวิถีทางจนลืมแม่ความเหน็ดเหนื่อยของตนเพื่อประโยชน์สุขของลูกๆในชาติ
“พี่น้อง จงอย่าทำให้พระจิตของพระเจ้าต้องเศร้าหมอง… จงขจัดความขมขื่น ความขุ่นเคือง ความโกรธ การขู่ตะคอก การนินทาว่าร้าย และความไม่ดีไม่งามทั้งหลาย แต่จงมีใจโอบอ้อมอารี มีเมตตาต่อกัน ให้อภัยกันดังที่พระเจ้าทรงให้อภัยท่าน ในองค์พระคริสตเจ้าเถิด” (อฟ 4:30-32)
ทุกครั้งเมื่อคิดถึงคำว่า “แม่” ภาพต่างๆตั้งแต่เล็กจำความได้ การอุทิศให้ชีวิตทั้งหมดเท่าที่มีที่แม่ค่อยๆทำทีละวันทีละครั้ง ณ แต่ละวันเมื่อครั้งนั้นไม่มีใครรู้ว่าท่านอดทน อุทิศตนและทำให้ได้อย่างไรไม่รู้จัดเหน็ดเหนื่อย ท่านค่อยๆทำด้วยความเชื่อท่านไม่รู้ว่าจะไปถึงไหนจบตอนใด
ท่านเพียงแค่วางชีวิตที่อ่อนแอขาดแคลนไม่มีอะไรไว้กับพระเป็นเจ้า พระเยซูคริสตเจ้า และปล่อยเปล่งคำพูดประมาณ สองประโยคว่า “ได้เวลาสวดสายประคำแล้ว” และ “อย่าขี้เกียจไปวัดนะ” ขอบพระคุณความรักของพระ ขอบพระคุณที่พระองค์ให้เราสามารถและยังคงสามารถสัมผัสความรักของ “แม่” ได้ต่อไป.