พระจิตเจ้าไม่มีกำแพงกั้น
เรื่องราวในหนังสือกันดารวิถีวันนี้ ในบทที่ 11 ข้อ 26 ถึง 29 เป็นเรื่องราวคู่ขนานไปกับพระวรสารนักบุญมาระโก บทที่ 9 ข้อ 38 ถึง 41 เป็นเรื่องของการทำงานของพระจิตในบุคคลที่มิได้รับการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการ
ในกันดารวิถี มีผู้อาวุโส 70 คน ที่ถูกกำหนดให้ได้รับการแบ่งปันจิตของพระเจ้าจากโมเสส แต่เมื่อถึงเวลาแห่งพิธีการ มีผู้อาวุโสขาดไป 2 คน จึงเหลือ 68 ที่อยู่ในพิธีการ แต่อีก 2 คนไม่ได้อยู่ในพิธี
ส่วนในพระวรสารเป็นที่รับรู้กันว่าอัครสาวก 12 คน เป็นผู้ได้รับเลือกจากพระเยซูเจ้า ดังนั้นทั้ง 12 คน ได้รับพระพรของพระจิตในการทำงาน แต่พอเอาเข้าจริงๆมีคนนอก ที่ไม่ได้อยู่ในกลุ่มอัครสาวกกลับสามารถทำอัศจรรย์ในการขับไล่ปีศาจเฉกเช่นอัครสาวก
ทั้งชายหนุ่มที่วิ่งไปฟ้องโมเสส และยอห์นที่ไปฟ้องพระเยซูเจ้าเรื่องคนนอก ที่ทำอะไรๆ เหมือนพวกเขา หรือ ทำอะไรได้พิเศษกว่าพวกเขา คือ นักโวยวาย ที่เห็นผู้อื่นทำอะไรได้เหมือนๆผู้รับการแต่งตั้ง หรือ ทำอะไรๆได้ดีกว่าพวกผู้รับการแต่งตั้ง โดยคิดไปว่าพวกผู้รับการแต่งตั้งเท่านั้นที่มีพระพรพิเศษ และมีสิทธิ์ทำงาน
พวกนั้นเป็นมนุษย์ที่มีความคิดแคบๆ ในโลกและสังคมของเรามีคนประเภทนี้ที่มีอยู่ดาดดื่น ที่คิดว่าคนที่จะทำงานให้พระได้จะต้องเป็นคนที่ได้รับการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการ และร้ายไปกว่านั้นพวกมนุษย์ความคิดแคบๆเหล่านั้นยังคิดต่อไปว่า พระจิตจะทำงานในบุคคลที่ได้รับการแต่งตั้งอย่างเป็นทางการเท่านั้น บุคคลเหล่านี้กำลังกำหนดกรอบให้พระจิตเจ้า โดยลืมไปว่า พระจิตเจ้ามิได้ทรงถูกปิดกั้นด้วยกรอบหรือกำแพง แต่พระองค์ทรงมีอิสระและทรงสามารถทำงานได้ในทุกๆชีวิตที่พระองค์ทรงต้องการใช้เป็นเครื่องมือของพระองค์ ดังคำกล่าวของยอห์นเองในพระวรสารของท่านบทที่ 3 ข้อ 9
“ลมย่อมพัดไปในที่ที่ลมต้องการ
ท่านได้ยินเสียงลมพัด
แต่ไม่รู้ว่าลมพัดมาจากไหน และจะพัดไปไหน
ทุกคนที่เกิดจากพระจิตเจ้าก็เป็นเช่นนี้”
พระเยซูเจ้ายังทรงอธิบายต่อไปว่า “…ผู้ใดไม่ต่อต้านเรา ก็เป็นฝ่ายเรา” คำว่าไม่ต่อต้านพระเยซูเจ้า ไม่ได้หมายความเพียงแค่คนที่อยู่ข้างเดียวกับพระองค์และไม่ทำตัวเป็นปฏิปักษ์กับพระองค์ แต่ยังหมายความถึงใครก็ตามที่ คิด พูด และปฏิบัติในแนวทางเดียวกับพระเยซูเจ้า ไม่ว่าพวกเขาจะเป็นบุคคลที่อยู่ในกลุ่มเดียวกับพระเยซูเจ้า หรือแม้แต่บุคคลที่อยู่นอกกลุ่มของพระองค์ก็ตาม บุคคลเหล่านี้แหละคือบุคคลที่พระเยซูเจ้าทรงหมายถึง ไม่ต่อต้านพระองค์ (ยังดีกว่าผู้ที่อยู่ข้างเดียวกับพระเยซูเจ้า แต่ทำตัวเป็นหนอนบ่อนใส้ ดังเช่นในกลุ่มอัครสาวก 12 คน ก็มี 1 คน) และเราจะเห็นบุคคลเหล่านี้มีอยู่ในทุกๆศาสนาในทุกๆความเชื่อ เพราะจิตของพระเจ้าทรงอยู่กับพวกเขา แม้พวกเขาจะยังไม่ได้รับศีลล้างบาป แต่ พวกเขาก็อยู่ในแนวทางของพระเยซูคริสตเจ้า แม้ว่าจะยังไม่อยู่ในพระคริสตเจ้า เช่นเดียวกับผู้ที่มีความเชื่อที่ได้รับศีลล้างบาปอย่างพวกเราก็ตาม สาเหตุสำคัญก็คือ เพราะพวกเขาเหล่านั้นถูกสร้างขึ้นมาในพระฉายาลักษณ์ของพระเป็นเจ้า เช่นเดียวกับพวกเรา และนี่คือความจำเป็นของงานประกาศข่าวดี ที่จะต้องนำบุคคลเหล่านั้นเข้ามาสู่ความเป็นจริงและสู่พระเมตตาของพระเป็นเจ้า