สวัสดีครับ
สัปดาห์ละครั้ง 29 มี.ค. 2015
“วันอาทิตย์ใบลาน”เป็นคำคุ้นเคยที่เราได้ยินกันจนชินหูและรู้ว่าหมายถึงอะไรไม่ต้องอธิบายกันมากมายนักคำนี้เป็นคำพื้นบ้านที่ใช้กันทั่วไปในหมู่คาทอลิกทุกคนรับรู้ได้โดยอัตโนมัติว่าวันอาทิตย์นี้เป็นวันอาทิตย์พิเศษจะมีการเริ่มพิธีมิสซาด้วยการเสกและแห่“ใบลาน”ซึ่งปัจจุบันเป็นใบมะพร้าวหรือใบจากเสียมากกว่าการแห่ก็จะมีวจนพิธีกรรมมีบทอ่านจากพระคัมภีร์เชื้อเชิญให้ระลึกถึงการเสด็จเข้ากรุงเยรูซาเล็มอย่างสง่าของพระเยซูเจ้าเสื้อผ้าอาภรณ์วันนี้จะเป็นสีแดงปัจจุบัน“ใบลาน”จริงๆหาไม่ได้แล้วจึงต้องใช้ใบมะพร้าวหรือใบจากแทนดังที่ได้บอกต้นลานเป็นไม้ประเภทต้นปาล์มสมัยก่อนมีให้เห็นได้ทั่วไปในประเทศไทยปัจจุบันมีเหมือนกันแต่เขานำไปปลูกเป็นไม้ประดับตามบ้านตามรีสอร์ทเสียมากว่า
ที่มาก็เพราะเมื่อพระเยซูเสด็จเข้ากรุงเยรูซาเล็มอย่างสง่าดังที่เราได้ยินไปในพระคัมภีร์วันนี้นั้นประชาชนลูกศิษย์ของพระองค์ต่างโห่ร้องต้อนรับวิธีการก็คือนำเอาใบปาล์มหรือกิ่งมะกอกโบกแสดงความยินดีพิธีแห่ใบลานจึงเป็นการจำลองการเสด็จเข้ากรุงเยรูซาเร็มของพระเยซูเจ้านั่นเอง
ยังมีการเปรียบเทียบอีกว่าการแห่ต้อนรับแบบนี้เป็นลักษณะเดียวกับการต้อนรับพระมหากษัตริย์ขุนศึกผู้กลับมาสู่บ้านเมืองของตนหลังจากออกไปสู้รบเอาชนะศัตรูได้… บรรดาประชาชนย่อมยินดีให้กำลังใจฯลฯ
สำหรับเราการฉลองในวันนี้บ่งบอกถึงช่วงเวลาสำคัญที่สุดแห่งการ“ไถ่บาป”กอบกู้มนุษยชาติของพระเยซูเจ้ามาถึงแล้วเพราะในช่วงเวลาก่อนจะถึงวันนี้พระเยซูเจ้าก็ทรงเสด็จเข้าออกกรุงเยรูซาเล็มอยู่เสมอแต่เป็นการเข้าออกแบบธรรมดาเหมือนประชาชนทั่วๆไปแต่ในครั้งนี้การเสด็จเข้ากรุงเยรูซาเล็มของพระองค์ทรงกระทำอย่างเปิดเผยเป็นพิธีรีตรองประหนึ่งพระมหากษัตริย์เสด็จกลับจากศึกสงครามมีประชาชนโห่ร้องต้อนรับประกาศว่าพระองค์คือ“โอรสกษัตริย์ดาวิด”
แน่นอนเหตุการณ์เช่นนี้บรรดาฟาริสีและคัมภีราจารย์ศัตรูของพระองค์ที่จ้องจะกำจัดพระองค์นั้นย่อมเป็นเดือดเป็นแค้นยิ่งขึ้นพวกเขาจึงต้องหาทุกวิธีการที่จะต้องจัดการกับพระองค์ให้ได้ซึ่งเราก็ทราบกันดีว่าเกิดอะไรขึ้นกับพระองค์ต่อจากนี้ไป…
ช่วงสัปดาห์ศักดิ์สิทธิ์จึงเป็นช่วงเวลาสำคัญที่เราจะต้องติดตามใกล้ชิดจากพิธีกรรมต่างๆที่จะเกิดขึ้นเริ่มด้วยวันพฤหัสฯศักดิ์สิทธิ์จุดสำคัญอยู่ที่“อาหารค่ำครั้งสุดท้าย”การล้างเท้าบรรดาอัครสาวกการตั้งศีลมหาสนิทฯลฯวันศุกร์ศักดิ์สิทธิ์วันที่พระองค์ทรงรับทรมานแบกกางเขนและสิ้นพระชนม์บนกางเขนพระศพถูกฝังไว้ในพระคูหาและค่ำวันเสาร์ถึงวันอาทิตย์ถือเป็นเครื่องหมายสำคัญที่พระองค์ทรงชนะความตายด้วยการเสด็จกลับเป็นขึ้นมาจากความตายหรือที่เราเรียกว่าวันอาทิตย์ปัสกานั่นเองซึ่งเป็นเหตุแห่งความชื่นชมยินดีที่ยิ่งใหญ่… จะได้ยินเพลงโห่ร้องยินดีด้วยบท“อัลเลลูยา”ดังก้องไปทั่วโลกก็ว่าได้… สวัสดีครับ.