ข้อคิดวันอาทิตย์ที่ยี่สิบห้า เทศกาลธรรมดา ปี C
ลก 16: 1-13…ไม่มีผู้ใดเป็นข้าสองเจ้าบ่าวสองนายได้ เขาจะชังนายคนหนึ่งและจะรักนายอีกคนหนึ่ง เขาจะจงรักภักดีต่อนายคนหนึ่งและจะดูหมิ่นนายอีกคนหนึ่ง…ท่านทั้งหลายจะปรนนิบัติรับใช้พระเจ้าและเงินทองพร้อมกันไม่ได้
สิ่งที่ผู้คนในโลกนิยมนับถือและอยากได้มากที่สุดอย่างหนึ่ง ก็น่าจะเป็นเงินทอง…พระเยซูเจ้าได้ทรงบอกกับพวกเราว่า ”ท่านทั้งหลายจะปรนนิบัติรับใช้พระเจ้าและเงินทองพร้อมกันไม่ได้”…เราต่างพร้อมใจกันมาในโบสถ์นี้ ก็เพื่อที่จะกราบไหว้นมัสการพระเจ้า มิใช่ด้วยคำพูดของเราเท่านั้น แต่ว่าด้วยหัวใจของเราด้วย
ข้อคิด…การใช้เงินทองของเราบนโลกใบนี้ เป็นการทดสอบอย่างดีของการเป็นเจ้านายของพระเยซูคริสตเจ้าสำหรับพวกเราที่เป็นคริสตชน คือเราจะเลือกเอาพระคริสตเจ้า หรือเราจะเลือกเอาเงินทอง…
ถ้าหากเราคิดว่าเงินทองคือเป้าหมายสำหรับชีวิตของเรา มันก็จะล่อให้เราติดกับดักของมันอย่างรวดเร็ว และจะตัดเราออกจากพระเจ้าและจากเพื่อนมนุษย์ที่ขัดสน
ให้เราใช้ทรัพยากรของเราอย่างชาญฉลาด เพราะว่าทรัพยากรต่างๆเหล่านี้เป็นของพระเจ้า มิใช่เป็นของเรา
มนุษย์เราสามารถใช้เงินทอง ไปในทางที่ดีและไม่ดี ให้เราได้ใช้เงินทองที่เรามีอยู่สำหรับสิ่งดีๆ
เงินทองมีพลังอำนาจมหาศาล ดังนั้นเราจึงต้องใช้เงินทองเหล่านั้นอย่างระมัดระวังและอย่างมีสติ
เราต้องใช้เงินทองและทรัพยากรต่างๆเพื่อเป็นการส่งเสริมความเชื่อและความนอบน้อมเชื่อฟังของเราต่อพระเจ้า
กุญแจที่จะทำให้เราสามารถใช้เงินทองอย่างชาญฉลาดก็คือเราสามารถใช้เงินทองเหล่านั้นเพื่อพระประสงค์ของพระเจ้าได้มากน้อยแค่ไหน มิใช่อยู่ที่เราจะสามารถสะสมเงินทองไว้สำหรับตัวเองได้มากน้อยแค่ไหน
ความรักต่อพระเจ้าสามารถล้วงเข้าไปในกระเป๋าสตางค์ของเราได้หรือเปล่า?
เงินทองของเราสามารถทำให้เราเป็นอิสระในการช่วยเหลือผู้ขัดสนได้หรือเปล่า?
ถ้าหากว่าเราสามารถทำได้เช่นนี้แล้วไซร้ ก็เท่ากับว่าเราได้สะสมทรัพย์สมบัติที่คงอยู่ชั่วนิรันดร์ในเมืองสวรรค์
ถ้าเป้าหมายที่จะมีเงินทองเยอะๆขัดขวางมิให้เราได้รู้จักให้อย่างใจกว้าง มิให้เราได้รู้จักรักเพื่อนพี่น้อง หรือเพื่อรับใช้พระเจ้าแล้วไซร้ ก็จงขายหรือขจัดสิ่งที่จะทำให้เราเป็นคนดังที่ว่าไว้นั้น
บ่อยๆความครบครันของบุคคล อยู่ที่การใช้เงินทอง ดังนั้นให้เราได้เป็นคนซื่อสัตย์ในเรื่องเล็กๆน้อยๆด้วย และให้ถือว่าทรัพย์สมบัติแห่งเมืองสวรรค์นั้นมีคุณค่ามากกว่าทรัพย์สมบัติของโลกนี้เป็นไหนๆ
เงินทองมีพลังที่จะเข้ามาแทนที่พระเจ้าในชีวิตของเราได้ และมันสามารถเข้ามาเป็นเจ้านายของเรา
เราสามารถบอกได้อย่างไรว่า ถ้าหากว่าเราเป็นทาสของเงินทอง…
Øเราคิดถึงเรื่องเงินทองและเป็นห่วงกังวลถึงมันบ่อยๆไหม?
Øเรายอมแพ้กับสิ่งที่ควรจะต้องทำ(ดี)หรืออยากจะทำ(ดี)เพื่อที่จะได้เงินทองมามากๆ?
Øเราใช้เวลาของเราส่วนใหญ่ในการเอาใจใส่ดูแลแต่ทรัพย์สมบัติของเรา?
Øเรารู้สึกยากลำบากใช่ไหมที่จะทำบุญทำทาน?
Øเรามีหนี้สินหรือเปล่า?
เงินทองเป็นเจ้านายที่เคร่งครัดและหลอกลวง มันสัญญาว่าจะให้อำนาจและการบังคับบัญชา แต่ว่าบ่อยๆครั้งมันก็ให้ไม่ได้ ทรัพย์สมบัติส่วนใหญ่สามารถได้มาและสูญหายไปภายในเวลาชั่วข้ามคืน
ดังนั้นจึงเป็นการดีกว่าที่จะยอมให้พระเจ้ามาเป็นเจ้านายของเรา ดีกว่าให้เงินทองมาเป็นเจ้านาย เพราะว่าคนรับใช้ของพระองค์จะมีความสุขใจและความมั่นคงในชีวิต ณ บัดนี้และตลอดไป
สวัสดี…พ่อวีรศักดิ์