ข้อคิดจากโป๊ปฟรังซิส
สัปดาห์ละครั้ง อาทิตย์ที่ 2 ต.ค. 2016
สมเด็จพระสันตะปาปา ฟรังซิส พระสังฆราชแห่งกรุงโรม ทรงเตือนสติ เราใช้ชีวิตแบบง่ายเกินไป บางครั้ง เราชอบบ่นให้มันดูเว่อร์เกินจริง ทั้งที่ความเป็นจริง ยังมีคนอีกมากที่ทนทุกข์มากกว่าเราอีก ทรงชี้ เราบ่นได้ ตัดพ้อพระเจ้าได้ แต่ต้องพูดเรื่องจริง เพราะนี่คือการภาวนาที่ออกมาจากใจ ทรงย้ำ เวลาพบความมืดมนฝ่ายจิต จงเตรียมพร้อมและสวดภาวนาเสมอ
บทอ่านประจำมิสซานี้ “โยบ” สาปแช่งวันเกิดของตนอย่างไม่หยุดหย่อน เพราะเขาไม่เข้าใจความหมายของการทนทุกข์ทรมานที่ตนเองต้องประสบ
พระสันตะปาปาทรงเทศน์แบ่งปันบทอ่านนี้ว่า “ในบทอ่านวันนี้ เราได้ยิน โยบ สาปแช่งวันที่ตัวเองเกิด คิดดูซิ โยบต้องถูกทดลอง (จากพระเจ้า) โยบต้องสูญเสียทุกอย่าง สูญเสียครอบครัวและทุกสิ่งที่เขาเคยมี สูญเสียสุขภาพแข็งแรงและติดโรคร้ายน่ารังเกียจเวทนา ช่วงเวลาดังกล่าว โยบหมดความอดทนกับทุกสิ่ง เขาจึงพูดแบบนั้นออกมาว่า ทุกอย่างจงพินาศ! แต่กระนั้น เขาก็ยังเคยชินกับการพูดความจริงทุกครั้ง และนี่ก็คือความจริงที่เขาพูดไปในช่วงเวลาดังกล่าว
“ว่าแต่ การพูดแบบนี้ถือเป็นการดูหมิ่นพระเจ้าหรือไม่ คำถามของพ่อคือชายผู้โดดเดี่ยวคนนี้กำลังลบหลู่พระเจ้าหรือเปล่า แล้วตอนที่พระเยซูทรงบ่นล่ะ ถือเป็นการดูหมิ่นพระเจ้าหรือไม่ ตอนที่พระองค์ทรงกล่าวว่า ‘พระบิดา เหตุไฉนจึงทอดทิ้งข้าพเจ้า’ นี่เป็นเรื่องที่อธิบายได้ยากนะ”
“บ่อยครั้ง พ่อได้ฟังคนที่กำลังประสบความยากลำบากและสถานการณ์ที่น่าเจ็บปวด พวกเขาสูญเสียอย่างใหญ่หลวงหรือรู้สึกถึงความอ้างว้างและถูกทอดทิ้ง พวกเขามาบ่นและถามว่า ‘ทำไม ทำไม’ พวกเขาตั้งแง่กับพระเจ้า พ่อตอบพวกเขาไปว่า ‘ภาวนาต่อไปเหมือนอย่างที่บ่นนี่แหละ เพราะการบ่นแบบนี้คือการภาวนา’ มันคือคำภาวนาเหมือนตอนที่พระเยซูตรัสกับพระบิดาว่า ‘พระบิดา เหตุไฉนจึงทอดทิ้งข้าพเจ้า’
“สิ่งที่ โยบ กำลังทำนั้นคือการภาวนา เพราะการภาวนาหมายถึงการพูดความจริงต่อหน้าพระเจ้า นี่คือทางเดียวที่โยบจะสามารถภาวนาได้ พวกเราควรจะภาวนาตามสภาพความเป็นจริง การภาวนาที่แท้จริงต้องออกมาจากจิตใจ มาจากช่วงเวลาที่เรากำลังดำเนินชีวิตอยู่ มันคือคำภาวนาในช่วงเวลาแห่งความมืดมน และเป็นช่วงเวลาที่สิ้นหวังที่เราไม่สามารถมองเห็นขอบฟ้าได้เลย”
“ทุกวันนี้ มีหลายคนที่ตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกับโยบ มีคนดีมากมายที่เป็นเหมือนโยบ แต่พวกเขาไม่เข้าใจสิ่งที่เกิดขึ้นกับตัวเอง พี่น้องชายหญิงหลายคนมีชีวิตแบบไม่มีความหวัง ลองคิดถึงโศกนาฏกรรมดูซิ เช่น พี่น้องคริสตชนหลายคนที่ถูกบีบบังคับให้จากบ้านเกิด และหนีออกมาแบบไม่มีอะไรติดตัว พวกเขาคงคิดเหมือนโยบ ‘พระเจ้า ลูกเชื่อในพระองค์ ทำไม? ทำไมการมีความเชื่อในพระเจ้าแล้วต้องเจอแบบนี้?’
(ต่อสัปดาห์หน้า)