ข้อคิดวันสมโภชพระนางมารีย์พระชนนีพระเจ้า (วันที่ 1 มกราคม 2560)
ลก 2: 16-21…พวกคนเลี้ยงแกะรีบไปยังเมืองเบธเลเฮมและพบพระนางมารีย์ โยเซฟและพระกุมารซึ่งบรรทมอยู่ในรางหญ้า…
สำหรับปีใหม่ทุกๆปี ก็เช่นเคย เราก็มักจะมองไปข้างหน้าด้วยความหวังว่าเราจะมีอะไรใหม่ๆและอะไรที่ดีๆกับคนอื่นเขาบ้าง…การถวายเกียรติแด่พระนางมารีย์และการเฉลิมฉลองการเป็น “พระชนนีพระเจ้า” ของพระนาง ณ เวลาขึ้นปีใหม่นั้น ก็เป็นการรำลึกถึงและเป็นการถวายเกียรติแด่พระเจ้าด้วย พร้อมทั้งเป็นโอกาสให้เราได้อธิษฐานภาวนาขอสิ่งดีต่างๆจากครอบครัวศักดิ์สิทธิ์ในโอกาสขึ้นปีใหม่นี้
ข้อคิด…ความเป็นแม่เป็นสิทธิพิเศษที่เจ็บปวดของสตรี…เช่นเดียวกันหญิงสาวมารีย์แห่งนาซาเร็ธก็ได้มีสิทธิพิเศษที่ไม่เหมือนของใครประการนี้ คือได้เป็นพระมารดาของพระบุตรพระเจ้า…ความเจ็บปวดและความสุขของการเป็นแม่ของพระนางสามารถเป็นที่เข้าใจได้จากผู้เป็นแม่ทุกๆคน พระนางมารีย์เป็นมนุษย์คนเดียวเท่านั้นที่ได้อยู่เวลาที่พระเยซูเจ้าทรงสมภพ ทั้งได้เป็นประจักษ์พยานเวลาที่พระองค์สิ้นพระชนม์ด้วย พระนางได้ทรงเห็นพระองค์เวลาที่พระองค์ยังทรงเป็นทารกและได้เฝ้ามองดูพระองค์สิ้นพระชนม์ในฐานะที่เป็นพระผู้ไถ่
จนกระทั่งถึงเวลาที่ทูตสวรรค์ได้มาเยี่ยมเยือนพระนางอย่างไม่คาดไม่ฝัน ชีวิตของพระนางมารีย์ก็เป็นไปด้วยดีทุกอย่าง คือพระนางเพิ่งได้ทำการหมั้นกับช่างไม้คนหนึ่ง ชื่อโยเซฟ ซึ่งเป็นการเริ่มต้นของชีวิตแต่งงาน แต่ว่าชีวิตของพระนางกำลังจะได้รับการเปลี่ยนแปลงอย่างสิ้นเชิง
โดยปรกติแล้ว ทูตสวรรค์มักจะไม่ทำการนัดหมายของการมาเยี่ยมเยือนของท่าน พระนางได้รับการแสดงความชื่นชมยินดีสำหรับรางวัลอันยิ่งใหญ่ที่พระนางไม่เคยได้เข้าแข่งขันเลย พระนางมารีย์ได้พบว่าคำทักทายของทูตสวรรค์ทำให้พระนางสับสนมากและการปรากฎตัวของทูตสวรรค์ก็เป็นอะไรที่ทำให้ตระหนกตกใจ สิ่งที่พระนางจะได้ยินจากเทวทูตสวรรค์ในอันดับต่อไป เป็นข่าวดีที่สตรีทุกคนในอิสราแอลอยากจะได้ยินได้ฟัง คือทารกที่จะเกิดจากพระนาง จะเป็นพระแมสสิยาห์ พระผู้ไถ่ที่พระเจ้าได้ทรงสัญญาไว้แต่โบราณกาลพระนางมารีย์มิได้มีความสงสัยในคำพูดของทูตสวรรค์ แต่ก็อยากจะถามทูตสวรรค์ว่าการตั้งครรภ์นั้นจะเป็นไปได้อย่างไร…ทูตสวรรค์คาเบรียลได้บอกพระนางว่าพระกุมารที่จะบังเกิดมานั้น ทรงเป็นพระบุตรพระเจ้า การตอบรับของพระนางก็เป็นอะไรที่พระเจ้าทรงรอคอยที่จะได้ยิน…“ข้าพเจ้าเป็นผู้รับใช้ของพระเจ้า ขอให้เป็นไปกับข้าพเจ้าตามวาจาของท่าน”(ลก 1: 38)ซึ่งเป็นบทเพลงขับร้องที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความชื่นชมยินดีของพระนางที่สรรเสริญพระเจ้า (Magnificat) อันแสดงให้เราได้แลเห็นว่าพระนางได้รู้จักพระเจ้าอย่างดียิ่งสักเพียงใด เพราะความคิดอ่านของพระนางเปี่ยมไปด้วยพระวาจาของพระเจ้าจากพระธรรมเก่า
ภายในไม่กี่สัปดาห์หลังการสมภพของพระเยซูเจ้า พระองค์ก็ถูกนำไปยังพระวิหารที่กรุงเยรูซาเล็มเพื่อที่จะถวายแด่พระเจ้า…ที่พระวิหาร นักบุญโยเซฟและพระนางมารีย์ได้พบกับบุคคลสองท่านที่ศรัทธาต่อพระเจ้า คือท่านผู้เฒ่าซีเมโอนและอันนาซึ่งได้รับรู้ว่าพระกุมารนี้คือพระแมสสิยาห์ และท่านผู้เฒ่าซีเมโอนได้ขับร้องสรรเสริญพระเจ้า พลางได้เอ่ยวาจากับพระนางมารีย์ว่า “ส่วนท่าน ดาบจะแทงทะลุจิตใจของท่าน” (ลก 2: 35) ซึ่งถ้อยคำดังกล่าวนี้คงจะได้ผ่านเข้ามาในจิตใจแห่งชีวิตของพระนางเป็นระยะๆ และส่วนใหญ่แห่งสิทธิพิเศษอันเจ็บปวดของพระนางนี้ ก็คงจะมิใช่อะไรอื่นนอกจากการที่จะได้เห็นพระบุตรของพระนางถูกปฏิเสธและถูกเอาไปตรึงกางเขนจากประชาชนของพระองค์เองซึ่งพระองค์ได้ทรงเสด็จมาเพื่อช่วยพวกเขาให้รอดพ้น
เราคงจะสามารถจินตนาการได้ไม่ยากว่าแม้พระนางจะทรงทราบดีว่าเหตุการณ์ทั้งหลายทั้งปวงที่พระนางต้องสู้ทนอย่างเจ็บปวดในฐานะที่เป็นพระชนนีขององค์พระเยซูเจ้านั้น พระนางก็ยังคงให้คำตอบอย่างเดียวกันแด่พระเจ้าโดยผ่านทางทูตสวรรค์ว่า “ขอให้เป็นไปกับข้าพเจ้าตามวาจาของท่าน” ซึ่งเราก็น่าที่จะถามตัวเราเองว่า
“เราพร้อมที่จะให้พระเจ้าใช้สอยเรา
เช่นเดียวกับพระแม่หรือเปล่า?”