ข้อคิดวันอาทิตย์ที่ 23 เทศกาลธรรมดา ปี A
สดด 95; รม13: 8-10…ในวันนี้ ถ้าท่านได้ยินเสียงของพระเจ้า ก็อย่าทำใจแข็งเลย…และอย่าเป็นหนี้ผู้ใด นอกจากเป็นหนี้ความรักซึ่งกันและกัน…ผู้ที่รักเพื่อนมนุษย์ ก็ปฏิบัติตามธรรมบัญญัติครบถ้วนแล้ว…
ในพระวรสาร พระเยซูเจ้าได้ทรงกล่าวกับพวกเราว่า “ที่ใดมีสองหรือสามคนชุมนุมกันในนามของเรา เราอยู่ที่นั่นในหมู่พวกเขา”…ในขณะนี้ เรากำลังมาชุมนุมพบปะกันในพระนามของพระเยซูเจ้าตามพระบัญชาของพระองค์ โดยที่เรามาปรากฏตัวอยู่เฉพาะพระพักตร์พระองค์ในพิธีบูชาขอบพระคุณนี้
ข้อคิด…เนื้อหาหลักของพระวรสารในวันนี้ เป็นเรื่องของการทำบาปหรือการทำผิดของสมาชิกคนหนึ่งของหมู่คณะซึ่งเพื่อนสมาชิกทั้งหลายจะต้องใช้ความพยายามทั้งหลายทั้งปวงในอันที่จะนำผู้ที่หลงผิดไปนั้น ให้กลับใจและให้กลับมาสู่ในหนทางที่ถูกต้อง…ครั้งแรกก็ให้ทำเป็นการส่วนตัว แล้วนั้นก็ให้เรียกเพื่อนๆบางคนมาช่วย ถ้าคนๆนั้นยังไม่ยอมกลับใจอีก ก็ให้กระทำต่อหน้าหมู่คณะทั้งหมด และถ้าเขายังไม่ยอมกลับใจอีก ก็ให้อัปเปหิเขาให้พ้นจากหมู่คณะ แน่นอนการตัดสินใจทำเช่นนี้ของพระศาสนจักรหรือของหมู่คณะ จะได้รับเกียรติจากพระเจ้า เนื่องจากว่าพระเจ้าได้ทรงเป็นแรงบันดาลใจให้พวกเขาทำเช่นนั้น
ในบทอ่านแรกจากหนังสือของท่านประกาศกเอเสเคียล ก็เช่นกัน ได้พูดถึงความรับผิดชอบของผู้นำหมู่คณะที่จะต้องใช้ความพยายามแก้ไขตักเตือนผู้ที่หลงผิด
เวลาที่เราเดินทางไปในสถานที่ต่างๆของโลก เราจะแลเห็นผืนดินที่แตกต่างกันออกไป บางแห่งก็แห้งแล้ง บางแห่งก็อุดมสมบูรณ์เต็มไปด้วยธรรมชาติสีเขียวๆ ซึ่งเราอาจจะสามารถสรุปได้ว่าเป็นผลกระทบที่เกิดขึ้นกับผืนดินนั้นๆ จากการที่ฝนไม่สู้จะตกหรือว่าฝนตกน้อยมาก…ถ้าหากว่าไม่มีฝน แม้ผืนดินจะเคยอุดมสมบูรณ์มาก่อน ก็อาจจะกลายเป็นทะเลทรายไปได้ แม้แต่ว่าในท้ายที่สุด จะมีฝนตกลงมาบ้าง ผืนดินก็ยังแห้งและแข็งอยู่ รับน้ำไม่ได้ จนน้ำไม่สามารถซึมผ่านเข้าไปได้ ซึ่งจะทำให้น้ำนั้นไหลไปที่อื่นอันอาจจะก่อให้เกิดน้ำท่วม ก็เป็นได้
ก็จะเป็นอย่างเดียวกันกับหัวใจของมนุษย์ คือเมื่อหัวใจของเราเริ่มแข็งกระด้าง ก็จะไม่รู้สึกอะไร ไม่รู้สึกหนาว ไม่รู้สึกร้อน ไม่รับรู้ถึงความต้องการหรือความเจ็บปวดของเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน…ความใจแข็งนี้จะทำให้หัวใจของเรามนุษย์พิการไปได้ง่ายๆ
คนใจแข็งจะไม่รู้สึกอะไรเลย จะไม่มีการตอบสนอง ทั้งจะรักไม่เป็นอีกด้วย คนใจแข็งจะไม่มีประสบการณ์ของความเศร้าโศกเสียใจ รวมทั้งจะไม่มีประสบการณ์ของความชื่นชมยินดีด้วย ความใจแข็งเป็นหัวใจที่ปิดตาย ดังนั้นมันก็จะไม่สามารถรับอะไรได้เลย…ความใจแข็งเป็นหัวใจที่แห้งแล้งกันดาร ความใจแข็งเป็นหัวใจที่พิการอันเป็นปัญหามากที่สุดอย่างหนึ่งของเรามนุษย์ และจากทรรศนะทางด้านชีวิตจิต ความใจแข็งเป็นสิ่งที่เลวร้ายมากที่สุดอย่างหนึ่งซึ่งอาจจะเกิดขึ้นกับคนใดคนหนึ่งก็ได้ แม้ว่าเราจะมีเหตุผลที่จะใจแข็งกับใครบางคน แต่ต้องไม่ลืมว่ามันจะทำร้ายตัวเราเองมากกว่าที่จะไปทำร้ายคนอื่น
ในทางตรงข้าม คนใจสุภาพอ่อนโยนกลับเป็นพระพรของพระเจ้า…ความมีใจอ่อนโยนจะทำให้เรารับความรู้สึกและอ่อนไหวได้ง่าย จะทำให้เราสามารถร่วมทุกข์ร่วมสุข ร่วมโศกเศร้า ร่วมยินดีกับเพื่อนพี่น้องของเราได้ ความมีใจอ่อนโยนจะสามารถตอบสนองกับทุกๆเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในชีวิตของเรา มันจะช่วยทำให้ชีวิตของเรามนุษย์ดูสดชื่น สวยสดงดงาม
พระเยซูเจ้าได้ทรงเสด็จลงมายังโลกเรามนุษย์นี้ ไม่เพียงแต่เพื่อชำระสะสางหัวใจมนุษย์ให้สะอาดบริสุทธิ์ขึ้นเท่านั้น แต่พระองค์ยังทรงทำให้หัวใจมนุษย์ สุภาพอ่อนโยนลงด้วย เพื่อที่จะเปิดหัวใจนั้นและหว่านเมล็ดพันธุ์แห่งพระวาจาของพระเจ้าลงในหัวใจนั้นด้วย และเพื่อที่จะเปลี่ยนหัวใจนั้น จากที่เป็นเหมือนผืนดินที่แห้งแล้งไม่บังเกิดผล ให้กลับกลายเป็นผืนดินที่อุดมสมบูรณ์ บังเกิดผลเป็นร้อยเท่าพันทวี
…ในวันนี้ ถ้าท่านได้ยินเสียงของพระเจ้า ก็อย่าทำใจแข็งเลย…
เป็นพระวาจาของพระเจ้าที่พระศาสนจักรนำเสนอมาให้กับเราคริสตชนทุกๆคนในพิธีบูชาขอบพระคุณในวันนี้ พระเจ้ากำลังเรียกเราให้ออกจากการดำเนินชีวิตที่ออกนอกลู่นอกทาง ให้กลับมาหาพระองค์ มามีความสัมพันธ์ที่ใกล้ชิดสนิทยิ่งขึ้นกับพระองค์และกับเพื่อนพี่น้องของเราเสียใหม่
การที่เราเป็นคนใจแข็งกับเพื่อนพี่น้องของเรา ก็เป็นสิ่งที่เลวร้ายพอตัวอยู่แล้ว แต่ว่าการที่เราเป็นคนใจแข็งกับพระเจ้า ยิ่งจะนำความหายนะอย่างใหญ่หลวงมาสู่ตัวเรา ซึ่งก็หมายความว่าพระเจ้าจะไม่สามารถเสด็จเข้ามาในหัวใจของเราได้เลย
แต่ว่าเมื่อเราใส่ใจที่จะสดับฟังเสียงของพระเจ้า ทุกสิ่งก็จะเปลี่ยนแปลงไป หัวใจของเราก็จะถูกทำให้สุภาพอ่อนโยนลงด้วยพระหรรษทานแห่งเม็ดฝนของพระเจ้า และถูกทำให้อบอุ่นขึ้นด้วยพระอาทิตย์แห่งความรักของพระองค์ ดั่งนี้ หัวใจของมนุษย์ก็จะสามารถถูกแปรเปลี่ยนจากการเป็นทะเลทรายหรือถิ่นทุรกันดาร ให้เป็นสวนที่เขียวขจีและอุดมสมบูรณ์
สวัสดี…พ่อวีรศักดิ์