สวัสดีครับพี่น้องที่รัก พบกันอีกครั้งในสัปดาห์ที่ 14 ของเทศกาลธรรมดา ปี A สัปดาห์ของวันหยุดยาวๆ 4 วันของคนไทยชาวพุทธ ในสัปดาห์ของวันอาสาฬหบูชาและวันเข้าพรรษา ซึ่งสำหรับพี่น้องชาวพุทธหลายท่านคงใช้เวลาเสาร์อาทิตย์นี้ไปวัด ไปทำบุญ พักผ่อน หรือมีเวลามากขึ้นสำหรับครอบครัว แต่สำหรับเราพี่น้องคริสตชน เรามีนัดกับพระเจ้าในการไปโบสถ์ประจำสัปดาห์ เพื่อไปฟังพระวาจา รับศีลมหาสนิท ขอพร สรรเสริญ และขอบคุณพระเจ้าในพระพรต่างๆ ที่พระองค์ทรงประทานให้
พระวรสารในอาทิตย์นี้ พระเยซูเจ้าทรงเชิญชวนเราให้มาหาพระองค์ เพื่อให้พระองค์ทรงช่วยแบ่งเบาภาระ หรือไม่ก็บรรเทาใจเราจากภาระและพันธะต่าง ๆ มากมายในชีวิต ดังคำพูดที่พระองค์ทรงตรัสว่า “ท่านทั้งหลายที่เหน็ดเหนื่อยและแบกภาระหนัก จงมาพบเราเถิด เราจะให้ท่านได้พักผ่อน แอกของเราอ่อนนุ่ม และภาระที่เราให้ท่านแบกก็เบา” (มธ 11:28-29) ทุกวันนี้ เราอาจมีแอกหรือภาระที่เรากำลังแบกด้วยกันหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของค่าครองชีพ หน้าที่การงานที่ต้องรับผิดชอบ สุขภาพ และความวุ่นวายต่างๆที่อาจเข้ามารบกวนจิตใจของเรา จนบางครั้ง เรากลุ้มอกกลุ้มใจมาก และไม่รู้ว่าจะหันหน้าไปพึ่งใครดี พระเยซูเจ้าทรงเข้าใจสภาพจิตใจและปัญหาทุกอย่างของเรากำลังเผชิญ จึงมอบ “ข่าวดี” ให้แก่เรา โดยเรียกให้เราไปหาพระองค์ และพูดกับพระองค์ในภาระที่เรากำลังเผชิญอยู่ หลายคนอาจคิดว่า ทำไมต้องบอกกับพระเป็นเจ้าด้วย พระก็น่าจะรู้อยู่แล้วว่า “เรากำลังมีปัญหาอะไร?” แต่เป็นสิ่งที่แปลกนะครับว่า การพูดกับพระและไม่พูดกับพระให้ผลทางจิตใจที่แตกต่างกันมากทีเดียว เพราะถ้าเราพูดกับพระในปัญหาที่เรากำลังเผชิญอยู่ เราจะได้รับความบรรเทาใจ และพละกำลังต่างๆ มากมาย ทำให้ภาระต่างๆในชีวิตของเราก็ไม่หนักจนเกินไป และสามารถก้าวเดินต่อไปได้
นักบุญอันตน เจ้าอธิการ ซึ่งเป็นคนละท่านกับนักบุญอันตน แห่งปาดัว วันหนึ่งท่านได้นำลูกศิษย์นักพรตของท่าน เข้าไปในป่าและบอกให้ทุกคนให้พักผ่อนกันตามสบาย จากที่เคยแต่สวดในอาราม ทำงาน มีชีวิตศรัทธากับพระ และทุกอย่างล้วนแต่จริงจังอยู่ตลอดเวลา “ท่านจึงบอกให้ทุกคนให้ทำอะไรก็ได้ในสิ่งที่ตนเองอยากทำ” ใครอยากจะร้องตะโกน วิ่งเล่น ร้องเพลง เย้าแหย่กันก็ได้เชิญตามสบาย ส่วนตัวท่านเองก็นอนหลับพักผ่อนอยู่ใต้ต้นไม้ นายพรานคนหนึ่งผ่านมาพบเข้า เห็นบรรดานักพรตเหล่านี้หัวเราะ ร้องเพลง เย้าแหย่ วิ่งเล่นกัน ก็รับไม่ได้ ทนไม่ได้จึงเข้าไปต่อว่าท่านนักบุญอันตน ท่านกลับหัวเราะและบอกกับนายพรานว่า “พ่อขอให้คุณโก่งคันศรแล้วก็ยิงลูกศรออกไปในป่าลึกดอกหนึ่ง” นายพรานคนนั้นก็ทำตาม เสร็จแล้วท่านก็บอกว่า “คราวนี้ยิงไปอีกดอกหนึ่ง” นายพรานก็ทำตามอีก แล้วท่านก็บอกว่า “ให้ท่านยิงต่อไปเรื่อยๆ อย่าหยุดเลย” ที่สุดนายพรานคนนั้น ก็หันมาบอกท่านว่า “ถ้าขืนยิงธนูแบบนี้ต่อไปหยุด คันธนูจะต้องหักแน่ๆ” ท่านนักบุญอันตนจึงกล่าวว่า “พวกเราก็เช่นกัน เราต้องมีเวลาพักผ่อนในชีวิตบ้าง เพราะพระองค์ทรงให้เวลาแก่เรามนุษย์ เพื่อจะได้รับการบรรเทาใจ และเพิ่มกำลังใจในการดำเนินชีวิต”
ดังนั้นพี่น้องครับ ขอให้เรารู้จักพักผ่อนในชีวิตบ้าง อย่าสละวน วุ่นวายกับชีวิต และหน้าที่การงานต่างๆ ของเรามากเกินไป จนร่างกายไม่ได้พักผ่อน และอย่าลืมที่จะหันไปหาพระเยซูเจ้าเสมอ เมื่อเรามีปัญหาและความยากลำบาก เพราะองค์ทรงประทับอยู่กับเราและพร้อมที่จะบรรเทาใจเสมอ เพื่อให้กำลังใจเรา และทำให้ก้าวเดินต่อไปโดยรู้ว่า “เราไม่ได้ดำเนินชีวิตในโลกแบบตามลำพัง” แต่เรามีพระองค์เป็นศูนย์กลางชีวิตและมีความหวังที่จะมุ่งไปอยู่กับพระองค์ในสวรรค์ ดังที่ท่านนักบุญเอากุสตินที่กล่าวว่า “จิตใจข้าพเจ้าจะไม่พบการพักผ่อน จนกว่าจะได้พักพิงอยู่ในพระเจ้า”
…คุณพ่อปลัด…