ข้อคิดวันสมโภชพระวรกายและพระโลหิตพระคริสตเจ้า ปี A
ยน 6: 51-59…เราเป็นปังทรงชีวิต ที่ลงมาจากสวรรค์ ใครที่กินปังนี้ จะมีชีวิตอยู่ตลอดไป และปังที่เราจะให้นี้ คือเนื้อของเรา เพื่อให้โลกมีชีวิต…ผู้ที่กินเนื้อของเราและดื่มโลหิตของเรา ก็ดำรงอยู่ในเราและเราก็ดำรงอยู่ในเขา
เวลาที่เราพูดถึงเอกภาพของพวกเราในองค์พระคริสตเจ้านั้น นักบุญเปาโลบอกกับพวกเราว่าเหมือนกับหลากหลายเมล็ดข้าวซึ่งถูกนำมารวมกันเข้าไว้เพื่อทำเป็นขนมปังก้อนเดียว…ช่างเป็นภาพที่สวยงาม…พิธีบูชาขอบพระคุณเป็นการทำการสมโภชและเป็นการเสริมพลังให้กับเอกภาพของพวกเราในพระคริสตเจ้าในพระศาสนจักรของพระองค์
ข้อคิด…ในฐานะที่เราเป็นมนุษย์ เราคงจะไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้ด้วยข้าวปลาอาหารแต่เพียงอย่างเดียว เพราะเรายังต้องทนทุกข์ยากลำบากจากความหิวกระหายอีกหลายๆอย่าง ให้เราลองหันกลับมาหาพระวรสาร เพื่อที่จะดูหลากหลายชนิดของ “ปังหรืออาหาร” ที่พระเยซูเจ้าได้ทรงนำเสนอให้กับประชาชนว่ามีอะไรบ้างที่จะช่วยดับความหิวกระหายของพวกเขา
สำหรับประชาชนที่กำลังติดตามพระเยซูเจ้าในถิ่นทุรกันดารและกำลังจะหิวตายอยู่แล้ว เพราะไม่ได้ทานอาหารมาหลายวันแล้ว พระองค์ก็ได้ทรงจัดหาอาหารหรือขนมปัง ซึ่งเป็นอาหารประจำวันสำหรับคนโดยทั่วๆไปให้พวกเขาสำหรับจะดับความหิวกระหายสำหรับปากท้องของพวกเขา
สำหรับคนที่ป่วยเป็นโรคเรื้อน พระองค์ก็ได้ทรงให้อาหารแห่งการช่วยรักษาให้หาย
สำหรับหญิงที่ถูกโดดเดียวที่ขอบบ่อน้ำยาก็อบ พระองค์ก็ได้ทรงจัดหาอาหารแห่งความเอื้ออาทรและความเห็นอกเห็นใจของพระองค์ให้นาง
สำหรับคนบาป พระองค์ก็ได้ทรงให้อาหารแห่งการยกบาปให้กับเขา
สำหรับคนที่ถูกสังคมทอดทิ้ง พระองค์ก็ทรงแบ่งปันอาหารกับพวกเขาซึ่งความเป็นมิตรและความเห็นอกเห็นใจ
สำหรับแม่หม้ายแห่งเมืองนาอินซึ่งกำลังจะปลงศพบุตรชายคนเดียวของนาง และสำหรับมารธาและมารีย์ ซึ่งเพิ่งได้ปลงศพพี่ชายของเธอ พระองค์ก็ได้ทรงหยิบยื่นอาหารแห่งความเอื้ออาทรให้ พลางให้ความหวังว่าแม้ในห้วงเวลาแห่งความตาย ก็มิได้เกินความสามารถของพระเจ้าที่จะช่วยเหลือพวกเขาด้วยการประทานชีวิตใหม่ให้
สำหรับซัคเคียส คนเก็บภาษีที่ร่ำรวยมั่งคั่งซึ่งได้ขโมยอาหารและขนมปังของพวกคนจนไป พระองค์ก็ได้ทรงให้อาหารแห่งการเชื้อเชิญเขาให้ร่วมโต๊ะเสวยกับพระองค์และให้เขาได้เริ่มต้นชีวิตใหม่ที่ดีกว่าเก่า โดยให้แบ่งปันทรัพย์สมบัติของตนให้กับผู้อื่น
สำหรับโจร ซึ่งกำลังจะตายเพราะถูกตรึงกางเขนพร้อมๆกับพระองค์ พระองค์ก็ได้ทรงหยิบยื่นอาหารแห่งการคืนดีกับพระเจ้าให้กับเขาอันเป็นการนำสันติสุขมาสู่จิตใจของเขา
แต่ก็เป็นที่น่าประหลาดใจอยู่ไม่น้อยที่ยังมีอีกหลายๆคนที่ไม่ยอมรับข้อเสนอแห่งอาหารหรือขนมปังของพระเยซูเจ้าที่ถูกหยิบยื่นให้ เช่นในกรณีของ
สำหรับชายหนุ่มที่ร่ำรวย ที่พระองค์เสนออาหารให้เขา โดยให้เขามาเป็นศิษย์ของพระองค์ แต่พระองค์ก็ได้รับการปฏิเสธ เพราะไม่สามารถตัดสละจากทรัพย์สมบัติที่ตัวเองมี
สำหรับพวกคัมภีรจารย์และชาวฟาริสี ที่พระองค์ได้ทรงหยิบยื่นอาหารแห่งการกลับใจให้กับพวกเขาหลายๆครั้งด้วยกัน แต่ก็ถูกปฏิเสธกลับมาทุกครั้งไป
สำหรับชาวกรุงเยรูซาเล็ม ที่พระองค์ได้ทรงนำเสนออาหารแห่งสันติภาพให้กับพวกเขาด้วยน้ำตา แต่ก็ได้รับการปฏิเสธจนในที่สุดบ้านเมืองก็ได้ถูกทำลายเสียจนยับเยิน
สำหรับผู้ว่าฯปีลาโตก็เช่นกัน พระองค์ได้ทรงนำเสนออาหารแห่งความจริงให้ แต่ปีลาโตก็ไม่อยากได้ เพราะจะทำให้ตำแหน่งหน้าที่การงานของตนเสี่ยงต่อการถูกปลดจากตำแหน่ง
พระเยซูเจ้าได้ทรงแบ่งปันพระองค์เองให้กับคนอื่นๆอีกมากมายและด้วยวิธีการที่แตกต่างกันออกไป ก่อนที่พระองค์จะทรงมอบพระองค์เองให้กับพวกศิษย์ ให้เป็นอาหารและเครื่องดื่มในขณะที่รับประทานอาหารค่ำมื้อสุดท้ายกับพวกเขา
พระเยซูเจ้าได้ทรงเลี้ยงดูเราด้วยหลากหลายวิธีด้วยกัน และโดยเฉพาะอย่างยิ่งในพิธีบูชาขอบพระคุณ/ศีลมหาสนิท การประทับอยู่ขององค์พระคริสต์ในศีลมหาสนิทจะกลายเป็นปัญหาก็ต่อเมื่อเราจะไม่ยอมรับการประทับอยู่ของพระองค์ สำหรับคนที่มีความมั่นใจต่อการสถิตอยู่ของพระเจ้าในสิ่งทั้งหลายที่พระองค์ได้ทรงสร้างขึ้นมา ก็จะไม่มีความยากลำบากที่จะเชื่อว่าพระองค์ก็ทรงประทับอยู่ในศีลมหาสนิทด้วยวิธีการอันพิเศษสุดด้วย
พระเจ้าผู้เดียวเท่านั้นที่สามารถสร้างความพึงพอใจให้กับความปรารถนาและความหิวกระหายของหัวใจของเรามนุษย์ได้อย่างเต็มอิ่ม เพราะว่าพระองค์เท่านั้นที่สามารถประทานปังที่ให้ชีวิตนิรันดร์ได้ นี่เป็น “ปัง” ที่เราได้รับในพิธีบูชาขอบพระคุณ/ศีลมหาสนิท ถ้าหากว่าเรามิได้รับ “ปัง” ใน “ศีลมหาสนิท” เราก็คงจะไม่มีพละกำลังพอที่จะติดตามองค์พระเยซูคริสตเจ้าในหนทางแห่งชีวิตของเราแต่ละคน จนสามารถเข้าสู่พระอาณาจักรของพระเจ้า
สวัสดี…พ่อวีรศักดิ์