ฉลองครอบครัวศักดิ์สิทธิ์ของพระเยซูเจ้าพระแม่มารีย์และนักบุญโยเซฟ ปี B
บสร3: 3-7, 14-17…บุตรที่ให้เกียรติบิดาจะมีอายุยืน…ใครเคารพนับถือบิดาก็จะประสบความสุขสันต์หรรษากับบุตรของตนเอง…บุตรที่เชื่อฟังพระเจ้าจะทำให้มารดาชื่นใจ…
การฉลองในวันนี้ทำให้เราคิดถึง“ครอบครัวศักดิ์สิทธิ์” แต่เราก็คิดถึงครอบครัวของพวกเราแต่ละคนด้วยเราก็ยังคิดถึงครอบครัวของมนุษยชาติและครอบครัวของพระศาสนจักรอีกด้วย…น่าเศร้าที่ครอบครัวของเราส่วนใหญ่มีบาดแผลจากบาปและจากการแตกแยกให้เราอธิษฐานภาวนาขอพระเจ้าโปรดรักษาบาดแผลและการแตกแยกเหล่านี้ด้วย
ข้อคิด…บทอ่านที่หนึ่งเป็นการอธิบายพระบัญญัติประการที่สี่ “จงนับถือบิดามารดาอายุจะได้ยืน” ซึ่งมีส่วนประกอบที่สำคัญอยู่3 ประการด้วยกันคือ
1. บิดามารดาต้องรักบุตรของตน…ตัวอย่างความเอาใจใส่ของแม่พระกับนักบุญโยเซฟที่มีต่อพระกุมารเยซูเช่นความปลอดภัยในชีวิต(ไปและกลับจากประเทศอีจิปต์) และการจัดหาสิ่งแวดล้อมที่ดีฯลฯ…กระทั่งพระเยซูเจ้าทรงเจริญขึ้นทั้งในพระปรีชาญาณพระชนมายุและพระหรรษทานเฉพาะพระพักตร์ของพระเจ้าและต่อหน้ามนุษย์
2. บุตรต้องนบนอบบิดามารดาของตน…ตัวอย่างที่นาซาเร็ธที่พระเยซูเจ้าทรงนบนอบเชื่อฟังแม่พระและนักบุญยอแซฟ…ชีวิตประมาณ30 ปีที่เงียบๆ ไม่เปิดเผยของพระเยซูเจ้าแต่ก็เจริญวัยขึ้นเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น…อิทธิพลของครอบครัวมีผลกระทบต่อชีวิตของสมาชิกในครอบครัวอย่างมากและตลอดชีวิต
3. บุตรต้องรับประกันว่าบิดามารดาที่แก่เฒ่าชราลงจะสามารถมีชีวิตที่สดวกสบายและอย่างมีศักดิ์ศรีในบั้นปลายชีวิตของท่าน…ให้เราดูสภาพที่เป็นจริงของครอบครัวในสมัยนี้บ่อยๆผู้สูงอายุมักจะถูกปล่อยปละละเลย…แม่คนเดียวสามารถเลี้ยงลูกได้หลายๆคนแต่พวกลูกๆไม่สามารถเลี้ยงดูแม่คนเดียวได้!…ให้ดูแบบอย่างของครอบครัวศักดิ์สิทธิ์…ขณะที่พระเยซูเจ้ากำลังจะสิ้นพระชนม์ที่ไม้กางเขนพระองค์ก็ยังเป็นห่วงพระมารดาของพระองค์และได้ทรงบอกให้นักบุญยอห์นศิษย์รักของพระองค์ให้ช่วยดูแลพระนางด้วย…หน้าที่ประการแรกๆและที่สำคัญที่สุดของคนในบ้านคือความรักการรู้จักให้อภัยกันความเอื้ออาทรและความมีเมตตาต่อผู้ที่อาศัยอยู่ด้วยกันในบ้านนั้นเอง…
พระเยซูเจ้าเองก็คงชื่นชมในความเอาใจใส่และความห่วงใยของแม่พระและนักบุญโยเซฟที่มีต่อพระองค์ดังนั้นพระองค์จึงพร้อมและยินดีที่จะนอบน้อมเชื่อฟังท่านทั้งสองตลอดเวลาที่อยู่กับท่าน
ทั้งแม่พระและนักบุญโยเซฟต่างก็รู้ดีว่าไม่ช้าไม่เร็วพระเยซูเจ้าจะต้องจากท่านทั้งสองไปเพื่อจะทำตามน้ำพระทัยขององค์พระบิดาเจ้า…การเรียนรู้เช่นนี้ของแม่พระและนักบุญโยเซฟต้องเป็นบทเรียนสำหรับผู้ที่เป็นพ่อเป็นแม่ด้วยคือทุกๆวันพวกลูกๆจะเป็นของพ่อแม่ยิ่งวันยิ่งน้อยลงแต่พวกเขาจะเป็นตัวของตัวเองมากขึ้น
การเกิดมาเป็นเพียงการเริ่มต้นของการจากไปดังนั้นผู้ที่เป็นพ่อเป็นแม่จะต้องไม่แสดงตัวเป็นเจ้าของของลูกจนเกินพอดีเพราะจะทำให้ลูกๆไม่รู้จักโตและอาจจะไม่เป็นผู้ใหญ่ที่ดีในสังคมโลกและในสังคมพระศาสนจักร
ลูกๆหลานๆ
ลูกๆหลานๆของท่าน ก็ไม่ใช่ลูกหลานของท่านจริงๆ พวกเขาเกิดมาผ่านทางท่านแต่ไม่ใช่จากท่าน และแม้พวกเขาอยู่กับท่าน ถึงกระนั้นพวกเขาก็มิใช่เป็นของของท่านท่านสามารถให้ความรักแก่พวกเขาได้ แต่ท่านให้ความคิดแก่พวกเขาไม่ได้ เพราะพวกเขามีความคิดที่เป็นของตนเอง ท่านสามารถให้บ้านให้ที่อยู่อาศัยแก่ร่างกายของพวกเขาแต่ท่านให้ที่พำนักแก่วิญญาณของพวกเขาไม่ได้ เพราะวิญญาณของพวกเขามีที่พำนักในโลกหน้า ซึ่งตัวท่านเองก็ไปเยี่ยมไม่ได้ หรือไปไม่ได้แม้กระทั่งในความฝัน ท่านอาจจะพยายามให้เป็นเหมือนพวกเขา แต่ไม่ควรพยายามทำให้พวกเขาเหมือนท่าน เพราะว่าชีวิตไม่สามารถหวนกลับไปหาอดีต
สวัสดี…พ่อวีรศักดิ์