ข้อคิดวันอาทิตย์ที่29 เทศกาลธรรมดาปีC
ลก18: 1-8…แล้วพระเจ้าจะไม่ประทานความยุติธรรมแก่ผู้เลือกสรรที่ร้องหาพระองค์ทั้งวันทั้งคืนดอกหรือ?…แต่เมื่อบุตรแห่งมนุษย์เสด็จมาจะทรงพบความเชื่อในโลกนี้หรือ?
การอธิษฐานภาวนาและความเชื่อเป็นสองปัจจัยที่เกี่ยวข้องกันอย่างมากๆ…เป็นเพราะว่าเรามีความเชื่อเราจึงอธิษฐานภาวนาและในเวลาเดียวกันคำอธิษฐานภาวนาจะช่วยสนับสนุนความเชื่อของเรา…เราต้องอธิษฐานภาวนามิใช่เฉพาะเวลาที่เรามีปัญหาหรือมีความทุกข์ยากลำบากเท่านั้นแต่เราต้องอธิษฐานภาวนาตลอดเวลา…ให้เราหันไปหาพระเจ้าพระผู้ซึ่งเราไว้วางใจเป็นพิเศษ
ข้อคิด…จากบทอ่านแรก(อพย17: 8-13) ซึ่งเล่าให้เราฟังถึงการสู้รบครั้งแรกที่ชาวอิสราแอลได้ทำการสู้รบหลังจากที่ได้ออกจากประเทศอีจิปต์และพวกเขาก็ได้รับชัยชนะซึ่งมิใช่จากความสามารถเก่งกาจของพวกเขาแต่โดยเฉพาะอย่างยิ่งได้มาจากฤทธานุภาพของพระเจ้าที่โมเสสผู้นำของพวกเขาได้เป็นคนกลางทูลวิงวอนขอพระเจ้าให้ทรงช่วยเหลือพวกเขา
ส่วนพระวรสาร(ลก18: 1-8) ก็ได้เล่าเรื่องอุปมาผู้พิพากษาที่ไร้มโนธรรมและจากเรื่องอุปมานี้เองที่พระเยซูเจ้าทรงเตือนบรรดาศิษย์ของพระองค์ให้อธิษฐานภาวนาอย่างต่อเนื่องและอย่าหมดกำลังใจเสียก่อน…หญิงม่ายซึ่งเป็นตัวแทนของผู้ไม่มีอำนาจขอผู้ยากไร้ได้เข้ามาหาผู้พิพากษาแม้นางจะมีสิทธิที่จะกระทำเช่นนั้นแต่ผู้พิพากษาก็ไม่ได้ให้ความสนใจต่อหญิงที่น่าสงสารแบบนั้นและนางก็มิได้สนใจว่าผู้พิพากษาจะมีท่าทีต่อนางเช่นใดก็ได้แต่รบเร้าผู้พิพากษาอยู่อย่างนั้นแหละจนผู้พิพากษาอดรนทนไม่ไหวต้องยอมฟังความของหญิงม่ายนั้นเพียงเพราะอยากให้นางไปไห้พ้นๆ
จากเรื่องอุปมานี้พระเยซูเจ้าต้องการที่จะสื่อให้กับศิษย์ของพระองค์ที่กำลังเผชิญกับความทุกข์ยากลำบากและการเบียดเบียนอยู่ให้ได้รู้ว่าถ้าหากผู้พิพากษาที่ไร้มโนธรรมคนนั้นยังทนลูกการรบเร้าของหญิงม่ายคนนั้นไม่ได้…สำหรับพระเจ้าแล้วไซร้ พระองค์จะไม่ทรงบันดาลความยุติธรรมให้กับสัตบุรุษของพระองค์ซึ่งกำลังร้องวิงวอนขออย่างไม่หยุดหย่อนให้พระองค์ช่วยดอกหรือ…ปัญหาก็คงเป็นเพราะว่าสัตบุรุษผู้นั้นจะสามารถยืนหยัดและมั่นใจในคำอธิษฐานภาวนาของตนมากน้อยแค่ไหน? หรือบางทีอาจจะละทิ้งการอธิษฐานภาวนานั้นไปอย่างไม่มีความอดทนอีกต่อไปเพราะพระเจ้าไม่ยอมฟังเขาสักที?…นี่ก็คงจะเป็นปัญหาสำหรับเราคริสตชนอีกหลายๆคน
เวลาที่เราสวดภาวนาเรามักจะได้รับการบอกกล่าวให้พนมมือ…แต่ในระหว่างพิธีมิสซาบูชาขอบพระคุณบางครั้งเราจะแลเห็นพระสงฆ์กางมือออกสวดภาวนา…ทั้งสองอากัปกิริยาในการสวดภาวนาก็ให้ความหมายที่แตกต่างกันแต่ว่าดีด้วยกันทั้งคู่
เวลาที่เราพนมมือสวดซึ่งหมายความว่าเราจะหยุดพฤติกรรมส่วนตัวอื่นๆของเราทั้งหมดไว้พลางให้เวลากับการอธิษฐานภาวนาต่อพระเจ้าแต่เพียงอย่างเดียวการพนมมือสวดนี้มีผู้บอกว่าเหมาะสำหรับการอธิษฐานส่วนตัวส่วนการภาวนาแบบกางมือออกนั้นเหมาะสำหรับการอธิษฐานภาวนาอย่างเป็นสาธารณะอันเป็นการยอมรับว่าเฉพาะพระพักตร์พระเจ้าเราเป็นคนยากจนน่าสงสารการกางมือออกนั้นเป็นการแสดงให้เห็นว่ามือเราว่างเปล่าไม่มีอะไรเลยเหมือนกับคนขอทานอย่างไรอย่างนั้นคล้ายๆกับคนที่กำลังทูลพระเจ้าว่า“พระเจ้าข้าเฉพาะพระพักตร์พระองค์ลูกเป็นคนยากจนน่าสงสารเหมือนคนขอทานลูกอยากให้พระองค์ช่วยเติมเต็มให้กับความว่างเปล่าของลูก”
ท่าทางที่กางมือสวดนั้นน่าจะเป็นท่าทีที่มีพลังดังเช่นในกรณีของท่านโมเสสในบทอ่านแรกของวันๆนี้ที่เราได้ยินได้ฟังว่า“เมื่อใดที่โมเสสยกมือขึ้นชาวอิสราแอลก็ได้เปรียบ” ซึ่งทำให้เราได้แลเห็นถึงพลังอำนาจของการอธิษฐานภาวนาว่าตราบเท่าที่ชนชาวยิวมีความเชื่อศรัทธาในพระเจ้าพวกเขาก็จะเดินหน้าต่อไปในชีวิตแต่ถ้าพวกเขาลืมที่จะจ้องมองดูพระเจ้าพวกเขาก็จะถูกบีบให้ต้องถอยร่นไป
พระเยซูเจ้าทรงเร่งรัดและเรียกร้องให้เราได้อธิษฐานภาวนาอย่างไม่หยุดหย่อนและอย่าได้หมดกำลังใจ…จะสวดกางมือหรือจะสวดพนมมือก็คงไม่มีความสำคัญเท่าใดนักเพียงแต่ขอให้เราอย่างได้เลิกสวดภาวนาเพราะถ้าหากว่าเราหยุดหรือเลิกอธิษฐานภาวนาเราก็จะหมดกำลังใจและจะยอมแพ้ในการสู้ชีวิต
การอธิษฐานภาวนาหมายถึงการมอบตัวตนเองและโชคชะตาของเราไว้ในพระหัตถ์ของพระเจ้า
การอธิษฐานภาวนาหมายถึงความไว้ใจในพลังฤทธิ์อำนาจของพระเจ้ามิใช่ในกำลังของตัวเอง
การอธิษฐานภาวนาจะได้รับคำตอบมิใช่เมื่อเวลาที่เราได้รับสิ่งที่เราต้องการแต่เมื่อเวลาเรารู้สึกว่าพระเจ้าทรงอยู่ใกล้เรา…เช่นเดียวกันสำหรับคนที่ไม่สบายหรือคนป่วยเพราะเมื่อเขาอธิษฐานภาวนาเขาจะได้รับการรักษาให้หายหรือไม่ไม่สำคัญแต่จะทำให้เขารู้สึกว่าพระเจ้าทรงอยู่กับเขากำลังให้กำลังใจและปลอบโยนเขาอยู่
การอธิษฐานภาวนาไม่ใช่ว่าจะทำให้เราสามารถเปลี่ยนแปลงโลกหรือสังคมที่เราอยู่แต่ที่สำคัญจะทำให้เราสามารถเผชิญหน้ากับโลกที่กำลังเปลี่ยนแปลงอย่างกล้าหาญอย่างมีกำลังใจเพราะเราจะรู้สึกถึงการประทับอยู่ของพระเจ้าในตัวเรา
เราต้องไม่ลืมว่าความเชื่อและการอธิษฐานภาวนามีความสัมพันธ์กันอย่างใกล้ชิดจะขาดอย่างใดอย่างหนึ่งไม่ได้…เพราะว่าเรามีความเชื่อเราจึงอธิษฐานภาวนา
สวัสดี…พ่อวีรศักดิ์