ข้อคิดวันสมโภชนักบุญทั้งหลายปีC
มธ5: 1-12ก…ท่านทั้งหลายย่อมเป็นสุขเมื่อถูกดูหมิ่นข่มเหงและใส่ร้ายต่างๆนานาเพราะเราจงชื่นชมยินดีเถิดเพราะบำเหน็จรางวัลของท่านในสวรรค์นั้นยิ่งใหญ่นัก…
ในวันนี้ซึ่งเป็นวันสมโภชนักบุญทั้งหลายให้เรามุ่งความสนใจของเราไปที่ผู้คนเหล่านั้นซึ่งได้เป็นนักบุญในวิถีทางที่ธรรมดาๆและซ่อนเร้นและไม่เคยได้รับการแต่งตั้งให้เป็นนักบุญอย่างเป็นทางการจากพระศาสนจักร…ให้เราหยุดไตร่ตรองสักชั่วครู่หนึ่งพลางรำลึกถึงบุคคลที่เรารู้จักอยู่ใกล้ตัวเราและเชื่อว่าเป็นบุคคลที่ศักดิ์สิทธิ์จริงๆ…ขอให้ท่านได้เป็นเพื่อนผู้ร่วมเดินทางชีวิตไปสู่สวรรค์และเป็นผู้เสนอวิงวอนเพื่อเราเฉพาะพระพักตร์พระเจ้าในพระอาณาจักรของพระองค์
ข้อคิด…“มหาบุญลาภ”ที่พระเยซูเจ้าทรงนำเสนอในพระวรสารวันนี้นั้นเป็นคุณภาพชีวิตที่พระองค์ทรงต้องการแลเห็นในบรรดาศิษย์ของพระองค์…และเป็นคุณภาพชีวิตที่ได้ถ่ายทอดออกมาเป็นแบบอย่างในชีวิตของนักบุญทั้งหลายที่เราทำการสมโภชในวันนี้อีกด้วย
“มหาบุญลาภ”เป็นเครื่องหมายของการเป็นศิษย์ที่แท้จริงขององค์พระเยซูคริสตเจ้า
“มหาบุญลาภ”เป็นมาตรฐานที่สามารถใช้วัดความศักดิ์สิทธิ์ได้
สิ่งที่“มหาบุญลาภ” บอกให้เราได้รับรู้นั้นเป็นสิ่งที่งดงามมากๆและเป็นสิ่งที่มีคุณค่าอย่างยิ่งเช่นสันติภาพคุณงามความดีความชื่นชมยินดีความรักความอ่อนโยนความเมตตาสงสารความชอบธรรมดังนี้เป็นต้น…ดังนั้นผู้ที่ใช้ชีวิตให้สอดคล้องกับ“มหาบุญลาภ”ก็คือบุคคลที่ได้เจริญชีวิตในพระอาณาจักรแห่งเมืองสวรรค์แล้ว
…มีคริสตชนจำนวนไม่น้อยที่มีความคิดอย่างผิดๆว่านักบุญคือคนที่ไม่เคยทำบาปเลยหรือทำบาปไม่เป็น…เป็นคนที่เพียบพร้อมไปด้วยคุณธรรมต่างๆหรือพูดง่ายๆว่าเกิดมาก็เป็นนักบุญเป็นคนศักดิ์สิทธิ์เป็นคนดีแล้ว
จริงๆแล้วบรรดานักบุญทั้งหลายนั้นก็มีอวัยวะหรือส่วนประกอบต่างๆทั้งทางร่างกายและทางจิตใจเหมือนกับมนุษย์คนอื่นๆมีทั้งข้อบกพร่องข้อตำหนิเหมือนๆกันอาจจะมากบ้างน้อยบ้างแตกต่างกันออกไปเพียงแต่ว่าข้อตำหนิและข้อบกพร่องต่างๆเหล่านี้ในตัวของนักบุญจะค่อยๆได้รับการปรับเปลี่ยนแก้ไขให้เป็นอะไรบางอย่างที่ดีขึ้นหรือกลายเป็นคุณธรรมความดี…นักบุญต่างๆเหล่านั้นในเวลาที่ท่านมีชีวิตอยู่ก็ไม่ได้มีชีวิตที่ง่ายๆกว่าพวกเราเลยหลายๆท่านมีชีวิตที่ต้องต่อสู้ดิ้นรนมากกว่าพวกเรามากนักในแทบทุกเรื่อง…นักบุญเหล่านี้ที่ทำการต่อสู้กับการประจญรู้จักพลังอำนาจของการประจญมากกว่าคนบาปซึ่งยอมแพ้ต่อการผจญอย่างง่ายๆตั้งแต่ยกแรกท่านเหล่านั้นได้กลายเป็นนักบุญด้วยการเลือกทำในสิ่งดีและถูกต้องด้วยจิตใจที่แน่วแน่มั่นคง
นักบุญทุกๆท่านต้องทำการกลับใจทุกๆขณะตลอดทั้งชีวิตของพวกเขาเราสามารถแลเห็นพฤติกรรมเช่นนี้ในนักบุญหลายๆท่านด้วยกันเช่นนักบุญเปาโลนักบุญออกัสตินแห่งฮิปโปนักบุญฟรังซิสอัสซีซีและนักบุญอิกญาซีโอแห่งโลโยลาดังนี้เป็นต้นนักบุญแต่ละท่านดังที่กล่าวมานี้พอมาถึงในขณะหนึ่งในชีวิตของท่านได้ยินเสียงเรียกของพระคริสต์ให้ติดตามพระองค์ไปท่านเหล่านี้ก็ได้นอบน้อมต่อพระวาจาหรือเสียงเรียกของพระองค์ทันทีโดยไม่มีการลังเล…“จงเป็นทุกข์กลับใจและเชื่อในพระวรสาร”
นักบุญทั้งหลายได้ทำการกลับใจอย่างเอาจริงเอาจังจากความมืดสู่แสงสว่าง จากความเห็นแก่ตัวไปสู่ความมีใจโอบอ้อมอารีช่วยเหลือผู้อื่นและจากความบาปไปสู่ความมีคุณธรรม…แน่นอนการกลับใจนี้มิใช่จะสามารถเกิดขึ้นได้ในชั่วเวลาข้ามคืนตรงข้ามการกลับใจนี้เป็นผลของการต่อสู้ดิ้นรนที่ยาวนานและเจ็บปวดนี่เป็นเหตุผลว่าทำไมบรรดานักบุญแม้ที่ต่ำต้อยและองค์เล็กที่สุดก็เป็นการท้าทายอย่างดีสำหรับพวกเราแต่ละคนเราคงไม่สามารถคิดถึงพวกท่านได้โดยไม่มีประสบการณ์ของการเรียกให้ทำการกลับใจจริงๆเป็นการเรียกที่ทำให้เราต้องคิดใหม่ทำใหม่ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการดำเนินชีวิตการปรับเปลี่ยนเป้าหมายของชีวิตการเผชิญหน้ากับความบาปและพยศชั่วที่ติดแน่นอยู่ในตัวเราแต่ละคนและการยอมเปิดใจให้กับความรักความเมตตาและพระญาณสอดส่องของพระเจ้า…บรรดานักบุญได้แสดงให้เราทุกๆคนได้แลเห็นว่าเราก็สามารถเป็นนักบุญเหมือนอย่างท่านได้เหมือนกันถ้าหากว่าเราพร้อมที่จะยอมมอบตัวเราเองทั้งครบให้กับความรักที่พระเจ้าและพระเยซูเจ้าได้มีต่อเราแต่ละคนดังเช่นนักบุญเปาโล
บรรดานักบุญสามารถเป็นแบบอย่างให้กับเราแต่ละคนได้เพราะพวกท่านก็ได้เคยเป็นคนบาปเหมือนกับเราพลาดไปแล้วก็ไม่เคยเสียกำลังใจที่จะลุกขึ้นมาทำการต่อสู้ใหม่โดยหวังในพระเมตตาของพระเจ้าที่จะทรงให้อภัยแก่ท่านและด้วยความช่วยเหลือของพระหรรษทานของพระเจ้าพวกท่านในที่สุดก็สามารถเอาชนะความบาปและข้อบกพร่องต่างๆที่มีอยู่ในตัวท่านได้
ในวันสมโภชนักบุญทั้งหลายนี้เรายกย่องบุคคลที่ได้ใช้ความพยายามที่จะเจริญชีวิตที่พระเจ้าประทานให้อย่างเต็มที่โดยไม่ย่อท้อและถอดใจอย่างง่ายๆ…แน่นอนพวกท่านไม่ใช่บุคคลที่ยอมแพ้ชีวิตอย่างง่ายๆ
การสมโภชในวันนี้เป็นการเฉลิมฉลองศักยภาพและความพยายามของบุคคลหลายๆประเภทในการทำให้พระหรรษทานของพระเจ้าได้ทำสำเร็จด้วยการร่วมมือกันอย่างเต็มที่ของทั้งสองฝ่ายคือฝ่ายเรามนุษย์และฝ่ายพระเจ้าเพื่อพระอาณาจักรของพระเจ้าจะได้เข้าถึงทุกๆคนและเพื่อยกชีวิตของเพื่อนมนุษย์ร่วมโลกด้วยกันให้ดีขึ้นให้สูงส่งยิ่งขึ้นให้เป็นสังคมหมู่คณะที่น่าอยู่มากยิ่งขึ้น
ในนักบุญแต่ละท่านนั้นเราได้แลเห็นรูปแบบธรรมล้ำลึกแห่งการจาริกเดินทางชีวิตของแต่ละท่านเห็นตำหนิข้อบกพร่องและความผิดพลาดต่างๆเห็นความต้องการพระหรรษทานที่คอยให้ความช่วยเหลือและได้แลเห็นความรักที่ไม่มีเงื่อนไขของพระเจ้าที่มีต่อเรามนุษย์แต่ละคนซึ่งจะต้องได้รับการตอบสนองอย่างไม่มีเงื่อนไขเช่นกันมนุษย์เราจึงจะสามารถเข้าร่วมอยู่ในหมู่นักบุญแห่งอาณาจักรสวรรค์ซึ่งเราทำการสมโภชพวกท่านในวันนี้
สวัสดี…พ่อวีรศักดิ์