ข้อคิดฉลองพระเยซูเจ้าทรงรับพิธีล้าง ปี B
มก1: 7-11…พระเยซูเจ้าทรงรับพิธีล้างจากยอห์นในแม่น้ำจอร์แดน…พระจิตเจ้าเสด็จลงมาเหนือพระองค์ดุจนกพิราบและมีเสียงมาจากฟากฟ้าว่า“ท่านเป็นบุตรที่รักของเราเป็นที่โปรดปรานของเรา”
เรามักจะชอบฉลองวันเกิดของเราแต่ว่าไม่เคยคิดที่จะฉลองวันรับศีลล้างบาปของเราที่จริงวันที่เราได้รับศีลล้างบาปก็เป็นวันเกิดของความเป็นคริสตชนของเรา…ในพิธีมิสซาบูชาขอบพระคุณของเราวันนี้เราฉลองการรับพิธีล้างของพระเยซูเจ้าก็เป็นการฉลองการรับศีลล้างบาปของเราแต่ละคนด้วยดังนั้นขอให้เราได้รื้อฟื้นพระหรรษทานแห่งศีลล้างบาปที่อยู่ในตัวเราแต่ละคนด้วย
ข้อคิด…บนฝั่งแม่น้ำจอร์แดนท่านยอห์นแบปติสต์ประกาศเรื่องการกลับใจสำหรับจะต้อนรับอาณาจักรของพระเจ้าซึ่งกำลังจะมาถึงและพร้อมๆกับคนอื่นๆพระเยซูเจ้าได้เสด็จลงไปในน้ำเพื่อรับพิธีล้างจากท่านยอห์น
สำหรับพวกยิวพิธีล้างเป็นพิธีขอโทษพระเจ้าและเป็นพิธีใช้โทษบาปดังนั้นผู้ที่เข้าไปรับพิธีล้างจึงต้องทำการสารภาพบาปของตัวเองแต่ว่าพิธีล้างที่พระเยซูเจ้าเข้าไปรับนั้นแทนที่จะเป็นพิธีขอโทษกลับเป็นการแสดงองค์ของพระบิดาและพระจิตซึ่งเป็นผู้ให้ความหมายที่แท้จริงของการรับพิธีล้างของพระเยซูเจ้า
พระเยซูเจ้าได้รับการประกาศว่าเป็น“พระบุตรสุดที่รัก” และพระจิตได้เสด็จลงมายังพระองค์ทั้งได้มอบหมายพระภารกิจ3 ประการให้กับพระองค์คือพระภารกิจของประกาศก(= การประกาศข่าวดีของการช่วยให้รอดพ้น) พระภารกิจของสงฆ์(= การเป็นยัญบูชาแต่เพียงอย่างเดียวที่สบพระทัยพระบิดาเจ้า) และพระภารกิจของกษัตริย์(= การเป็นพระแมสซีอาห์ในฐานที่เป็นผู้ช่วยให้รอดพ้น)
ผู้นิพนธ์พระวรสารต้องการที่จะแสดงให้เห็นว่าพิธีล้างของพระเยซูเจ้าคือศีลล้างบาปของประชากรใหม่ของพระเจ้า(= ของพระศาสนจักร)
ในหนังสืออพยพกล่าวถึงประชากรของพระเจ้าซึ่งบัดนี้ได้เป็นอิสระและพลางเดินทางอพยพออกจากประเทศอียิปต์เพื่อไปรับใช้พระเจ้าและถวายบูชาแด่พระองค์(อพย4:22) พวกเขาเดินทางผ่านกำแพงน้ำสองข้างของทะเลแดงและเดินไปบนแนวทางที่แห้งข้ามแม่น้ำจอร์แดนอันเป็นรูปแบบของศีลล้างบาปของประชากรใหม่ของพระเยซูคริสตเจ้า
ทุกวันนี้พระศาสนจักรได้มีจิตสำนึกว่าชีวิตคริสตชนที่แท้จริงคือการเจริญชีวิตศีลล้างบาปของตนนั่นก็คือเราต้องเจริญชีวิตให้สอดคล้องกับรูปแบบของพระเยซูคริสตเจ้าพระองค์ผู้ได้สิ้นพระชนม์และกลับคืนพระชนมชีพ
การรับพิธีล้างของพระเยซูเจ้าเตือนใจเราให้คิดถึงศีลล้างบาปที่เราแต่ละคนได้รับ…ในพระศาสนจักรคริสตชนแต่ละคนอาจจะมีตำแหน่งหน้าที่แตกต่างกันออกไปแต่ว่าเมื่อเรายืนอยู่หน้าบัลลังก์ของพระเจ้าในวันพิพากษาหน้าที่และตำแหน่งทั้งหลายทั้งปวงก็คงจะไม่มีความสำคัญเท่าใดมากนักเพราะศักดิ์ศรีของเราคริสตชนแต่ละคนจะอยู่ที่ว่าเราแต่ละคนได้เจริญชีวิตให้สอดคล้องกับพันธะแห่งศีลล้างบาปที่เราได้รับมากน้อยแค่ไหน
พิธีโปรดศีลล้างบาปเป็นพิธีที่สง่างามและสร้างความประทับใจให้กับผู้รับโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เป็นผู้ใหญ่และผู้ร่วมเป็นสักขีพยานในพิธีในพิธีโปรดศีลล้างบาปนี้ผู้รับจะได้รับชื่อแบบคริสตชนหรือที่เราเรียกว่าศาสนนามและได้รับการต้อนรับเข้าสู่ครอบครัวของประชากรพระเจ้าเราจะได้ฟังบทภาวนาที่มีความไพเราะและมีความหมายอย่างยิ่งในเนื้อหาผู้รับศีลล้างบาปจะได้รับเครื่องหมายแห่งกางเขนศักดิ์สิทธิ์อันเป็นเครื่องหมายแห่งความรักของพระคริสต์ที่มีต่อเขามีการเทน้ำบนศีรษะของผู้รับศีลล้างบาปเนื่องจากน้ำซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของการทำให้สะอาดผู้รับศีลล้างบาปจะได้รับการทำให้สะอาดหมดจดจากบาปด้วยน้ำแห่งศีลล้างบาปแต่ที่สำคัญก็คือศีลล้างบาปเป็นสัญลักษณ์ของชีวิตเพราะในศีลล้างบาปเราจะได้มีส่วนในชีวิตอมตะของพระเจ้า
ในพิธีโปรดศีลล้างบาปผู้รับจะได้รับการเจิมด้วยน้ำมันศักดิ์สิทธิ์เหมือนกับที่นักกีฬานวดตัวและกล้ามเนื้อด้วยน้ำมันก่อนที่จะออกไปแข่งขันต่อสู้ผู้รับศีลล้างบาปที่ได้รับการเจิมด้วยน้ำมันศักดิ์สิทธิ์แล้วก็พร้อมที่จะออกไปต่อสู้กับความชั่วร้ายในโลกในฐานะที่เป็นตัวแทนขององค์พระคริสต์ในโลก
พิธีมอบเสื้อขาวให้กับผู้รับศีลล้างบาปเป็นสัญลักษณ์แห่งศักดิ์ศรีของความเป็นคริสตชนส่วนเทียนที่จุดส่องแสงสว่างหมายถึงแสงสว่างอันล้ำค่าของความเชื่อเพราะพระเจ้าได้ทรงเรียกเขาให้ออกจากความมืดให้เข้าสู่ความสว่างอันน่าพิศวงแห่งพระบุตรของพระองค์
สิ่งที่ได้เกิดขึ้นกับพระเยซูเจ้าในการรับพิธีล้างจากท่านยอห์นแบปติสต์ก็ได้เกิดขึ้นกับผู้รับศีลล้างบาปเช่นเดียวกัน…ต่อไปนี้พระเจ้าจะทรงเรียกชื่อเขาทีละคนพระองค์จะทรงตรัสกับพวกเขาทีละคนว่า“ผู้นี้เป็นบุตรสุดที่รักของเราเป็นที่โปรดปานของเรา” และพระจิตเจ้าจะเสด็จลงมายังเขาเพื่อช่วยเขาให้เจริญชีวิตเยี่ยงคริสตชนคือเป็นชนของพระคริสต์และให้เขามีส่วนร่วมในพันธกิจของพระเยซูเจ้า
การรับศีลล้างบาปคือการทำให้เหมือนพระคริสตเจ้าและสิ่งนี้มิใช่ว่าจะเกิดขึ้นกับผู้รับแบบอัตโนมัติและภายในวันสองวันการเป็นคริสตชนจะเจริญเติบโตจนถึงขั้นสมบูรณ์นั้นเป็นงานที่คริสตชนแต่ละคนจะต้องพัฒนาตลอดทั้งชีวิต
เรามักจะฉลองวันเกิดกันอย่างฟุ่มเฟือยเราคริสตชนควรจะมาเริ่มต้นฉลองวันที่เราได้รับศีลล้างบาปเพราะเป็นวันที่เราได้เกิดใหม่เป็นบุตรของพระเจ้าทุกๆครั้งเวลาที่เราเข้าวัดและจุ่มน้ำเสกทำสำคัญกางเขนก็ควรจะต้องทำให้เราคิดถึงการรับศีลล้างบาปของเราพลางทำความตั้งใจว่าจะเจริญชีวิตให้สอดคล้องกับพันธะแห่งศีลล้างบาปนี้คือเจริญชีวิตเป็นศิษย์ของพระเยซูคริสตเจ้าอย่างแท้จริง
สวัสดี…พ่อวีรศักดิ์