(มัทธิว บทที่ 2 ข้อ 14-18)
ยอเซฟจึงลุกขึ้นพาพระกุมารและพระมารดาออกเดินทางไปประเทศอียิปต์ในคืนนั้น และได้อยู่ที่นั่น จนกระทั่งกษัตริย์เฮโรดสิ้นพระชนม์ ทั้งนี้เพื่อให้พระดำรัสขององค์พระผู้เป็นเจ้าที่ตรัสทางประกาศกเป็นความจริงว่า “เราได้เรียกบุตรของเรามาจากประเทศอียิปต์” เมื่อกษัตริย์เฮโรดทรงเห็นว่าตนถูกบรรดาโหราจารย์ หลอกลวง ก็กริ้วยิ่งนักจึงทรงให้คนไปประหารเด็กชายทุกคนที่มีอายุตั้งแต่สองขวบลงมาในเมืองเบธเลเฮม และบริเวณใกล้เคียง ดังนั้น พระดำรัสที่ตรัสไว้โดยประกาศกเยเรมีย์ ก็เป็นความจริงว่า “มีผู้ได้ยินเสียงในหมู่บ้านรามาห์ เป็นเสียงร้องไห้และคร่ำครวญอย่างขมขื่น นางราเคลร้องไห้อาลัยถึงบรรดาบุตร นางไม่ยอมรับคำปลอบโยนใดๆ เพราะบุตรเหล่านั้นไม่อยู่แล้ว” (มัทธิว บทที่ 2 ข้อ 14-18)
ยอเซฟจึงลุกขึ้นพาพระกุมารและพระมารดาออกเดินทางไปประเทศอียิปต์ในคืนนั้น และได้อยู่ที่นั่น จนกระทั่งกษัตริย์เฮโรดสิ้นพระชนม์ ทั้งนี้เพื่อให้พระดำรัสขององค์พระผู้เป็นเจ้าที่ตรัสทางประกาศกเป็นความจริงว่า “เราได้เรียกบุตรของเรามาจากประเทศอียิปต์” เมื่อกษัตริย์เฮโรดทรงเห็นว่าตนถูกบรรดาโหราจารย์ หลอกลวง ก็กริ้วยิ่งนักจึงทรงให้คนไปประหารเด็กชายทุกคนที่มีอายุตั้งแต่สองขวบลงมาในเมืองเบธเลเฮม และบริเวณใกล้เคียง ดังนั้น พระดำรัสที่ตรัสไว้โดยประกาศกเยเรมีย์ ก็เป็นความจริงว่า “มีผู้ได้ยินเสียงในหมู่บ้านรามาห์ เป็นเสียงร้องไห้และคร่ำครวญอย่างขมขื่น นางราเคลร้องไห้อาลัยถึงบรรดาบุตร นางไม่ยอมรับคำปลอบโยนใดๆ เพราะบุตรเหล่านั้นไม่อยู่แล้ว”
(Matthew 2:14-18)
So he got up, took the child and his mother during the night and left for Egypt, where he stayed until the death of Herod. And so was fulfilled what the Lord had said through the prophet: “Out of Egypt I called my son.”
When Herod realized that he had been outwitted by the Magi, he was furious, and he gave orders to kill all the boys in Bethlehem and its vicinity who were two years old and under, in accordance with the time he had learned from the Magi. Then what was said through the prophet Jeremiah was fulfilled:
“A voice is heard in Ramah, weeping and great mourning, Rachel weeping for her children and refusing to be comforted, because they are no more.”