บทอ่านจากบทเทศน์ โดยนักบุญออกัสติน พระสังฆราช
พระเป็นเจ้าทรงเมตตาสงสารเรา
เราจะเป็นคนมีความสุข ถ้าเราทำตามสิ่งที่เราได้ยินและขับร้องมา การฟังเป็นการหว่านในตัวเรา ส่วนการทำตามที่ได้ยินมา ก็คือเมล็ดที่หว่านลงกำลังเกิดผล เมื่อกล่าวถึงเรื่องนี้แล้ว พี่น้องที่รัก ข้าพเจ้าอยากเตือนท่านทั้งหลายว่า อย่าเข้าพระวิหารโดยไม่ได้รับประโยชน์ พอใจแต่เพียงฟังสิ่งศักดิ์สิทธิ์อัศจรรย์ แต่ไม่ปฏิบัติตาม ท่านอัครสาวกกล่าวไว้ว่า “เรารอดได้ด้วยพระหรรษทานของพระองค์ ขออย่าให้ใครอวดตัวว่าตัวรอดเพราะกิจการของตัวเอง เพราะโดยพระหรรษทานของพระองค์ที่เราได้รับความรอด” ไม่ใช่ชีวิตดีงามของเราเดินนำหน้า ครั้นแล้วพระเจ้าจึงทรงแสดงความรัก ทรงรู้สึกพอพระทัยจากเบื้องบนและตรัสว่า “ให้เราลงไปช่วยคนเหล่านี้ และค้ำจุนพวกเขาโดยเร็ว เพราะพวกเขากำลังดำเนินชีวิตอย่างดี” หาเป็นเช่นนี้ไม่ ชีวิตของเราไม่เป็นที่พอพระทัยพระองค์ รวมทั้งกิจการต่าง ๆ ซึ่งเราทำตามลำพัง ก็ไม่เป็นที่พอพระทัยพระองค์ แต่สิ่งที่พระองค์ทรงกระทำในเรา เป็นที่พอพระทัยพระองค์ ฉะนั้น พระองค์จะทรงลงโทษกิจการที่เราทำ แต่พระองค์จะทรงช่วยให้รอดสิ่งที่พระองค์ทรงกระทำในเรา
เราไม่ใช่คนดี แต่พระเป็นเจ้าทรงเมตตาสงสารเรา และทรงให้พระบุตรของพระองค์มาตาย มิใช่สำหรับคนดี แต่สำหรับคนชั่ว มิใช่สำหรับคนชอบธรรม แต่สำหรับคนอธรรม ถูกแล้ว “พระคริสตเจ้าได้ทรงสิ้นพระชนม์สำหรับคนอธรรม” จงสังเกตข้อความต่อไปนี้ เป็นการยากที่จะมีใครตายสำหรับคนชอบธรรม แม้ว่าบางทีอาจมีคนกล้าเผชิญความตายสำหรับคนดี” บางที่อาจพบมีคนกล้าตายสำหรับคนดี แต่สำหรับคนอธรรม คนชั่ว คนบาป ใครจะยินดีตายสำหรับคนพวกนี้ นอกจากพระคริสตเจ้าเท่านั้น พระองค์ทรงชอบธรรม ถึงกับทรงทำให้คนอธรรมกลับเป็นคนชอบธรรม
ฉะนั้น พี่น้องที่รัก เราไม่เคยมีกิจการดี เพราะกิจการทั้งหลายของเราชั่ว แม้กิจการทั้งสิ้นของมนุษย์เป็นเช่นนี้ พระเป็นเจ้าโดยพระมหากรุณาของพระองค์ ไม่ได้ทรงทอดทิ้งมนุษย์ พระองค์ได้ทรงส่งพระบุตรลงมาไถ่บาปของเรา มิใช่ด้วยเงินทอง แต่ด้วยค่าโลหิตของพระองค์ที่หลั่งลงสำหรับเรา พระคริสตเจ้า ลูกแกะบริสุทธิ์ได้ทรงกลับเป็นเครื่องบูชา ถูกนำไปยังโรงฆ่าสำหรับฝูงชุมพาที่เปื้อนด้วยบาป แม้จะกล่าวว่า เราแปดเปื้อนด้วยบาป แต่ก็ยังไม่ถึงกับเน่าเฟะอย่างสิ้นเชิง นี่คือพระหรรษทานที่เราได้รับ! เราจงเจริญชีวิตให้เหมาะสมกับพระหรรษทานนี้ และอย่าประมาทพระหรรษทาน นายแพทย์ที่เสด็จมาหาเราเป็นผู้ทรงฤทธิ์ สามารถรักษาเราให้หายจากบาปทั้งสิ้น ถ้าเรายังเลือกที่จะเป็นคนป่วยอีกก็จะเป็นการทำร้ายมิใช่ตัวเราเท่านั้น แต่ยังแสดงความเนรคุณต่อนายแพทย์ด้วย
ฉะนั้น เราจงเดินตามหนทางที่พระคริสตเจ้าได้ทรงแสดงแก่เรา ก่อนอื่นหมด คือหนทางแห่งความสุภาพ ซึ่งทำให้พระองค์กลับเป็นมนุษย์เพื่อเรา พระองค์ได้ทรงแสดงหนทางนี้แก่เราด้วยคำสั่งสอนของพระองค์ และพระองค์เองได้ทรงพระดำเนินตามทางนี้ด้วยการรับทรมานเพื่อเรา เพื่อจะสิ้นพระชนม์สำหรับเรา พระองค์ไม่สามารถทำได้เพราะพระองค์ทรงเป็นพระเป็นเจ้า “พระวจนาตถ์จึงได้ทรงรับเอากายและมาประทับอยู่ท่ามกลางเรา” พระองค์ผู้ทรงเป็นอมตะได้ทรงรับเอาความรู้ตาย เพื่อพระองค์จะสามารถสิ้นพระชนม์สำหรับเราและด้วยการสิ้นพระชนม์ พระองค์ได้ทรงทำลายความตายของชาวเรา
สิ่งที่พระเจ้าได้ทรงกระทำนี้ เป็นพระมหากรุณาธิคุณที่ได้ประทานแก่เรา พระองค์ผู้ยิ่งใหญ่ถูกทำให้ต่ำต้อยลง เมื่อถูกทำให้ต่ำต้อยแล้ว ก็ได้ถูกฆ่า หลังจากได้ถูกฆ่าแล้วพระองค์ได้ทรงกลับคืนพระชนม์ชีพและได้รับการยกย่องสูงสุด พระองค์ไม่ได้ทรงทอดทิ้งให้เราตายในนรก แต่โปรดให้ผู้ที่พระองค์ได้ทรงยกย่องแล้วมีความเชื่อ และสรรเสริญพระองค์อย่างผู้ชอบธรรม พระองค์ทรงยกย่องเขาในพระองค์เอง เมื่อผู้ตายกลับคืนชีพ ถูกแล้วพระองค์ได้ประทานหนทางแห่งความสุภาพให้แก่เรา ถ้าเราเดินตามหนทางนี้ จะเป็นหนทางแสดงความเชื่อของเราในพระเป็นเจ้า และเราจะขับร้องโดยมีเหตุผลว่า “ข้าพเจ้าทั้งหลายจะขับร้องสรรเสริญพระองค์ พระเจ้าข้า ข้าพเจ้าทั้งหลายจะขับร้องสรรเสริญพระองค์ และจะร้องเรียกพระนามของพระองค์”
อาทิตย์นี้พระเยซูเจ้าเตือนใจเรามากหน่อยนะครับ แต่ก็ตรงกับชีวิตของเราไม่ใช่น้อยเลย มีเนื้อหาที่มีในจดหมายของนักบุญยากอบที่ว่า “จงปฏิบัติตามพระวาจา มิใช่ฟังแต่อย่างเดียว” อีกตอนหนึ่งที่บอกว่า ความเชื่อที่บริสุทธิ์และไร้มลทินคือ การเยี่ยมเด็กกำพร้า หญิงหม้ายที่กำลังทุกข์ร้อน และการรักษาตนให้พ้นจากมลทินของโลก แปลง่ายๆว่า โลกเราทุกวันนี้กำลังสอนเราตามประสาของโลก สอนให้เราคิดตามเนื้อหนังของเรา สอนให้เราใช้สิ่งของของโลกนี้ในทางที่ไม่ถูกต้อง แม้เจอฟังข่าวโควิดทุกวี่วัน แต่อย่าลืมฟังและปฏิบัติตามพระวาจา
มีผู้หญิงที่ร่ำรวยกำลังต้องการจ้างพนักงานขับรถสำหรับโฆษณา หลังจากการคัดเลือกผู้สมัครแล้ว มีอยู่ 4 คนได้รับการเลือกเข้ามาให้ครอบครัวนี้เลือก ที่สมัครทั้ง 4 คน ไปที่ระเบียงบ้านและเธอชี้ไปที่กำแพงด้านข้างๆถนนเข้าบ้าน แล้วถามคนทั้งสี่ว่า คุณคิดว่าคุณสามารถขับรถเข้าไปชิดกำแพงหินนั้นได้ใกล้ขนาดไหน โดยที่ไม่ทำให้รถถูกกำแพงหินและเกิดรอยบนรถ คนแรกตอบว่า ผมสามารถขับเข้าไปใกล้ได้ 1 ฟุต โดยไม่ให้รถถูกกำแพงคนที่สองตอบว่า 6 นิ้ว คนที่ 3 ตอบว่า 3 นิ้ว คนสุดท้ายตอบว่า ผมไม่รู้ว่าผมสามารถขับเข้าไปชิดกำแพงได้ใกล้แค่ไหน แต่ผมจะพยายามอย่างที่สุดที่จะขับรถให้ห่างจากกำแพงนั้นเพื่อไม่ให้รถเป็นรอยได้
คนขับรถเก่งไม่ใช่ผู้ที่สามารถนำรถเข้าไปใกล้อันตรายมากที่สุดนะครับ แต่หมายถึงคนที่นำรถออกห่างจากอันตรายได้มากที่สุดต่างหาก อย่าทำตัวเราให้อยู่ใกล้อันตรายทางวิญญาณ อย่านำจิตใจของเราเข้าไปใกล้กับอันตรายฝ่ายวิญญาณด้วย
มีคำสอนที่สำคัญถึง 3 ข้อที่พระเยซูเจ้ามอบแก่เราในพระวรสารอาทิตย์นี้ แต่ละข้อก็สอนเราอย่าง ผู้ทรงอำนาจจริงๆ คำสอน 3 ข้อ มีดังนี้ครับ
- ประชาชนเหล่านี้ให้เกียรติเราแต่ปาก แต่ใจของเขาอยู่ห่างไกลจากเรา เข้าใจง่ายๆ คือ เขานมัสการเราอย่างไร้ความหมาย ถ้าเราพิจารณาสถานการณ์ของเรา ครอบครัวของเรา หากเวลาที่เราสวดภาวนา ร่วมมิสซาออนไลน์แล้วรู้สึกเฉยๆ หรือ หากมีใครสักคนตั้งใจที่จะสวด ร่วมมิสซาแบบขอไปทีโดยที่ไม่คิดจะนมัสการพระเลย ไม่สวดภาวนาอะไรเลย แบบนี้แหละที่พระเยซูเจ้าเตือนว่า ใจเขาอยู่ห่างไกลจากเรา
- ท่านทั้งหลายละเลยพระบัญญัติของพระเจ้า กลับไปถือขนบธรรมเนียมของมนุษย์ บางครั้งหรือหลายครั้งหรือทุกครั้งด้วยซ้ำที่เรานำเทคโนโลยีเข้ามาในขณะร่วมมิสซา ภาวนา หรือเวลาที่เราใช้ชีวิตกับครอบครัว เล่นเกมส์ ไลน์ ติ๊กต๊อกและเฟสบุ๊ค ซึ่งเราเห็นตัวอย่างในหนัง ดูทันสมัย หรือใครๆ เขาก็ทำกัน แต่สิ่งเหล่านี้บางครั้งก็รบกวน แสดงออกถึงความไม่เกรงใจพระ ไม่เกรงใจมนุษย์เลยก็มีเหมือนกัน
- สิ่งที่ออกมาจากภายในมนุษย์นั่นแหละ ทำให้เขาเป็นมลทิน พระองค์อธิบายไว้ยาวเลยครับ บาปทั้งนั้นเลย เช่น ความคิดชั่วร้าย การล่วงประเวณี ความโลภ อิจฉา ใส่ร้าย จองหอง ฯลฯ ทุกอย่างจึงออกมาจากใจของเราครับ…