วันอาทิตย์นี้พระศาสนจักรเชิญชวนพวกเราร่วมฉลองและส่งพระเยซูเจ้าเสด็จกลับสู่สวรรค์ หลังจากที่พระเยซูเจ้าได้เสด็จมาบังเกิดเป็นมนุษย์ ดำเนินชีวิตสัมผัสและมีประสบการณ์มนุษย์ พระองค์ได้เรียนรู้ถึงความยากลำบาก ความทุกข์ทรมาน ความสุข ความชื่นชม ในที่สุดพระองค์ก็เต็มใจที่จะยอมรับความตาย ซึ่งดูเหมือนเป็นจุดสิ้นสุดแต่ก็เป็นจุดเริ่มต้นด้วย ในฐานะที่เป็นพระบุตรของพระเจ้า พระองค์ทรงชนะความตายเสด็จกลับคืนพระชนมชีพ เป็นการนำมนุษย์ทุกคนที่ต้องตายได้กลับคืนชีพพร้อมกับพระองค์ และหลังจากที่ได้ทรงใช้เวลาอยู่กับบรรดาสาวกและผู้คนที่ติดตามพระองค์ช่วงระยะเวลาสั้นๆ เพื่อช่วยให้ทุกคนเข้มแข็งและเชื่อมั่นว่าพระองค์ทรงกลับคืนพระชนม์ชีพจากความตายและมีชีวิตอยู่อย่างแท้จริง ก็มาถึงช่วงเวลาที่พระองค์จะเสด็จกลับไปหาพระบิดาเจ้าในเมืองสวรรค์ บรรดาสาวกได้แต่เฝ้ามองการเสด็จสู่สวรรค์ของพระองค์
หลังจากส่งพระเยซูเจ้ากลับสู่สวรรค์แล้ว ก็ถึงช่วงเวลาที่พวกศิษย์ทุกคนของพระเยซูเจ้าจะกลับมาสู่ชีวิตปกติ ไม่มีพระเยซูเจ้าเป็นมนุษย์มีตัวตนให้สัมผัสอยู่ด้วย แต่จะมีพระจิตเจ้าที่เสด็จลงมาประทับนำทางในชีวิตของทุกคน พระจิตเจ้าทรงทำภารกิจของพระเยซูเจ้าในชีวิตของบรรดาศิษย์ที่มีความเชื่อต่อไป การไม่มีพระเยซูเจ้าอยู่ด้วยเป็นความยากลำบากของบรรดาสาวกและผู้ที่เคยติดตามพระองค์ พวกเขาทำอะไรไม่ถูก สอนไม่เป็นและไม่รู้จะเทศน์สอนเรื่องอะไร นักบุญเปโตรกับเพื่อนสาวกก็อยู่ในสภาพแบบนี้ในช่วงแรก แต่พอเริ่มตั้งหลักได้ เรื่องที่พวกเขาสอนและเล่าให้คนอื่นฟังซึ่งเป็นเรื่องชีวิตของพระเยซูเจ้า ที่เขาเคยมีประสบการณ์ได้รู้จัก ได้ถูกทรมานถูกตรึงกางเขนและสิ้นพระชนม์ ได้ทรงกลับคืนชีพ บางคนที่ได้ฟังเรื่องราวก็เกิดความเชื่อได้รับศีลล้างบาป คนที่ได้รับศีลล้างบาปได้ถูกเรียกว่าเป็นคริสตชน คริสตชนในยุคแรกที่มีความเชื่อในพระเยซูแล้ว ก็พยายามเปลี่ยนแปลงรูปแบบการดำเนินชีวิต ได้ปฏิบัติตามคำสอนที่พระเยซูสอนให้ทุกคนรักกัน พวกเขาได้รักกันและกันรัก เป็นความรักที่มีการช่วยเหลือ มีการแบ่งปัน ใครมีสิ่งของพี่พอจะแบ่งปันกับผู้อื่นได้ก็นำมาแบ่งปันกัน ที่เป็นเช่นนี้ได้ก็เพราะเมื่อพวกเขาต่างมีความเชื่อมั่นในพระเยซูคริสตเจ้า พวกเขาจึงพร้อมและอยากปฏิบัติตามคำสั่งสอนของพระองค์ ต่างคนต่างมีความคิด ต่างคนต่างลงมือทำ ความรักต่อพระเจ้าจึงปรากฏและเป็นการทำให้ข้อคำสอนและความเชื่อเป็นเรื่องที่เห็นแจ้งและสัมผัสได้
มีการเปลี่ยนแปลงและมีสิ่งใหม่เกิดขึ้นที่ทำให้เราต้องปรับตัวปรับใจทุกวัน การเปลี่ยนผู้บริหาร การเปลี่ยนหน้าที่ ทั้งการเมือง สังคม ธุรกิจและทางศาสนา มีอยู่เสมอ สิ่งที่เราเรียนรู้และมีความคาดหวังก็คือว่าจะมีอะไรใหม่ที่ดีกว่าเดิม จะมีคนใหม่ มีแนวทางใหม่เข้ามาช่วยแก้ไขปัญหาและนำพาสิ่งที่ดีให้เกิด อีกไม่นานจะมีการเปิดประเทศ ทุกอย่างจะกลับเข้าสู่สภาพปกติ โดยมีเงื่อนไขที่แต่ละคนจะต้องดูแลรับผิดชอบตัวเองต่อไป
เรากำลังผ่านเข้าสู่เดือนมิถุนายน เข้าสู่กลางปีแล้ว สำหรับทางปฏิทินพิธีกรรม ในสัปดาห์หน้าจะเป็นวันสมโภชพระจิตเจ้า สัปดาห์ต่อไปเป็นวันสมโภชพระตรีเอกภาพ และถัดไปก็เป็นวันสมโภชพระคริสตกายา เป็นวันสำคัญทางพิธีกรรมติดต่อกันในช่วงนี้ ซึ่งในวันสมโภชพระคริสตกายาจะมีพิธีเสริมหลังจากจบพิธิมิสซาแล้วคือการแห่ศีลมหาสนิท อาสนวิหารอัสสัมชัญมีธรรมเนียมปฏิบัติต่อเนื่องกันมา เรามีมิสซา และการแห่ศีลมหาสนิท ซึ่งในปีนี้ก็จะจัดให้มีการแห่ศีลฯ เหมือนที่ผ่านมา
วันอาทิตย์เป็นวันสำคัญของพี่น้องคริสตชน ที่ทุกคนต่างให้ความสำคัญและจะจัดเวลาเพื่อมาวัด มาขอพรจากพระเจ้าโดยการร่วมพิธีบูชามิสซาและร่วมฉลองในโอกาสต่างๆ ช่วงเวลาที่ผ่านมาเหมือนกับเราทุกคนถูกกักบริเวณไม่มีอิสระ ในเวลานี้ข้อจำกัดต่างๆหมดไป การออกจากบ้านไปทำงานประกอบกิจการต่างๆทำได้เป็นปกติ รวมถึงวันอาทิตย์ด้วย ขอพี่น้องได้มีความคิดคำนึงถึงพระพรของพระเจ้า และมั่นใจว่าองค์พระจิตเจ้าทรงประทับอยู่เคียงข้างและนำทางในชีวิตเสมอ.
สวัสดี…พ่ออดิศักดิ์