วันจันทร์ที่ผ่านมาเป็นวันสมโภชพระนางมารีย์เสด็จเข้าสู่สวรรค์ทั้งกายและวิญญาณ และยังเป็นวันฉลองอาสนวิหารอัสสัมชัญประจำปีของพวกเรา เย็นวันนั้นได้มีพิธีบูชามิสซาสมโภชฯ พร้อมมีความตั้งใจจัดให้มีการแห่รูปพระแม่มารีย์รอบวัดซึ่งถือเป็นส่วนหนึ่งของการฉลองและเป็นประเพณีที่ปฏิบัติสืบเนื่องกันมายาวนาน แต่เย็นวันนั้นเราไม่สามารถร่วมการแห่แม่พระได้เนื่องจากมีฝนตกลงมาช่วงปลายพิธีมิสซาและตกต่อเนื่อง พี่น้องหลายคนมีความตั้งใจมาร่วมฉลองแม่พระฯ ทั้งอยากได้ร่วมเดินสวดภาวนาในการแห่แม่พระด้วย ซึ่งการแห่แบบนี้ขาดหายไประยะหนึ่ง คงจะได้จัดให้มีการแห่แม่พระในโอกาสต่อไป
มิสซาในวันอาทิตย์นี้ จะเป็นมิสซาสมโภชแม่พระตามปฏิทินคาทอลิกได้กำหนดให้วันนี้เป็นวันสมโภชพระนางมารีย์รับเกียรติเข้าสู่สวรรค์ทั้งกายและวิญญาณ องค์อุปถัมภ์ของประเทศไทย แม้ว่าจะมีพี่น้องสัตบุรุษบางท่านที่ได้มาร่วมมิสซาในวันจันทร์ที่ผ่านมา แต่วันนี้ถือเป็นโอกาสที่พี่น้องทุกคนจะได้ร่วมโมทนาคุณพระเจ้า แสดงความเชื่อศรัทธาและสมโภชพระแม่มารีย์พร้อมกันอีกครั้งหนึ่ง พวกเรามีโอกาสฉลองแม่พระในเหตุการณ์สำคัญๆที่เกิดขึ้นในชีวิตของพระนางตั้งแต่เกิดจนกระทั่งวาระสุดท้ายสิ้นสุดชีวิต การเสด็จเข้าสู่สวรรค์ของแม่พระทั้งกายและวิญญาณจึงเป็นเหมือนบทสรุปรวมชีวิตทั้งหมดของแม่พระเข้าไว้ด้วยกัน เมื่อเราพิจารณาถึงความสำคัญของการฉลองในวันนี้ พิจารณาดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นตลอดทั้งชีวิตของแม่พระ ทำให้เราเข้าใจว่าชีวิตของแม่พระคือความสมบูรณ์ในแผนการณ์ของพระเจ้า ที่ทรงช่วยให้มนุษย์ทุกคนได้รับการไถ่ให้รอดพ้นได้เป็นความจริง
พวกเรารู้จักแม่พระจากเรื่องราวที่บันทึกไว้ในพระวรสาร เมื่อทูตสวรรค์ของพระเจ้าปรากฏมาหาหญิงพรหมจารีผู้หนึ่ง ที่ชื่อว่ามารี เธอเป็นสตรีชาวยิวอาศัยอยู่ที่เมืองนาซาเร็ธ ในเวลานั้นเธอได้หมั้นกับชายที่ชื่อว่ายอแซฟ ทูตสวรรค์แจ้งให้เธอทราบว่าเธอเป็นผู้ที่พระเจ้าทรงโปรดปราน และพระเจ้าทรงประสงค์ให้เธอได้ตั้งครรภ์เพื่อให้กำเนิดบุตรชาย จะมีชื่อว่าเยซู บุตรคนนี้เป็นบุตรของพระเจ้า มารีเองได้ยืนยันว่าเธอตั้งใจที่จะรักษาพรหมจรรย์ แต่ทูตสวรรค์ได้บอกกับเธอว่า เหตุการณ์นี้จะเป็นไปโดยพลังอำนาจของพระจิตเจ้า และมารีก็ได้ตอบตกลงรับเป็นมารดา ด้วยคำพูดที่บอกทูตสวรรค์ว่า ขอให้ทุกอย่างเป็นไปตามพระประสงค์ของพระเจ้า เมื่อได้คิดทบทวนเข้าไปถึงรายละเอียดของเรื่องราวนี้ ทำให้รู้จักชึวิตของมารี เธอเป็นเพียงหญิงสาวที่มีความกล้าหาญเด็ดเดี่ยว ที่ตอบรับน้ำพระทัยของพระเจ้า
สภาพทางสังคมของชาวยิวเวลานั้นถูกกดขี่จากการเป็นเมืองขึ้นของจักรวรรดิโรมัน ขณะที่ทางสังคมกำลังมีปัญหาและบรรดาชาวยิวทั่วไปดูเหมือนจะไม่มีทางออก พระเจ้าทรงเลือกหญิงคนหนึ่ง และให้เธอได้รับบทบาททำหน้าที่เป็นมารดา ให้พระบุตรของพระเจ้าได้มาบังเกิดเป็นมนุษย์ ช่วงนั้นเองที่แม่พระได้ร่วมมือกับพระเจ้าอย่างเงียบๆ ดูแลบุตรในครรภ์จนกระทั่งให้กำเนิด การคลอดบุตรก็มีความยุ่งยาก ปกติคนทั่วไปเมื่อถึงกำหนดคลอดก็จะมีการเตรียมตัว เตรียมสภาพความสะดวกสบายหลายอย่าง มีญาติพี่น้องคนใกล้ชิดคอยช่วยเหลือ แต่แม่พระต้องเดินทางไปเบธเลเฮม ทำตามคำสั่งของจักรพรรดิโรมัน ที่ให้มีการสำรวจประชากรเป็นช่วงเวลานั้น ทุกคนต่างมีภาระหน้าที่ของตนที่ต้องรีบปฏิบัติให้เรียบร้อย ในขณะที่แม่พระก็ถึงกำหนดเวลาคลอดบุตร ที่พักก็ไม่มี เธอจึงต้องไปพักในคอกสัตว์และให้กำเนิดบุตรที่นั่น
เรื่องราวของแม่พระปรากฏอีกครั้งหนึ่งในพระวรสาร ช่วงวาระสุดท้ายของพระเยซู ลูกชายที่ถูกทรมานและถูกตัดสินลงโทษประหารชีวิต ช่วงเวลาที่เศร้าโศกของแม่ที่เฝ้าเดินตามลูก ที่เดินแบกกางเขนออกนอกเมืองและได้เห็นการตรึงกางเขน ได้ยืนอยู่ที่เชิงกางเขน เฝ้าดูความตายของลูกชาย ได้อยู่ในเหตุการณ์ที่นำร่างของพระเยซูลงจากไม้กางเขน เฝ้ามองดูการนำศพไปเก็บไว้ในคูหาฝังศพ ได้อยู่ร่วมเหตุการณ์ที่ทุกคนประหลาดใจเมื่อหลุมที่ฝังพระศพว่างเปล่า นั่นก็หมายความว่าพระเยซูกลับคืนชีพ คงได้มีโอกาสพบกับพระเยซูเจ้า เมื่อพระองค์ได้มาพบบรรดาศิษย์
ชีวิตของแม่พระผูกพันใกล้ชิดกับพระเยซูเจ้า เป็นผู้ที่ร่วมมือทำให้แผนการณ์ของพระเจ้าเป็นความจริง แม่พระทรงเป็นมนุษย์คนแรกที่พระเจ้าทรงไถ่ให้รอดพ้น ชีวิตของพระนางเริ่มต้นบนโลกนี้ด้วยธรรมชาติมนุษย์ ได้ดำเนินไปอย่างครบครันและพระเจ้าทรงให้พระนางได้รับเกียรติเข้าสู่สวรรค์ทั้งกายและวิญญาณ.
สวัสดี…พ่ออดิศักดิ์