อาสนวิหารอัสสัมชัญหลังปัจจุบันนี้ได้รับการบูรณะครั้งใหญ่เมื่อหลายปีก่อน ดำเนินการซ่อมแซมส่วนที่ชำรุดแตกหักและปรับเปลี่ยนองค์ประกอบภายใน เพื่อความสวยงามและเป็นสถานที่ประทับของพระเจ้า ที่พี่น้องคริสตชนได้ประกอบคารวกิจ มีพิธีเสกในวันที่ 13 ธันวาคม หลังจากนั้นทางอัครสังฆมณฑลกรุงเทพฯ กำหนดจัดให้เป็นวันฉลองการถวายอาสนวิหาร บางปีก็จัดพิธีฉลองตรงกับวันที่ 13 แต่ในปีนี้เพื่อความเหมาะสมจึงกำหนดจัดขึ้นในวันเสาร์ที่ 17 ธันวาคม
อาสนะ หมายถึง ที่นั่งหรือเก้าอี้ เป็นที่นั่งของพระสังฆราชที่ปกครองสังฆมณฑล ทุกสังฆมณฑลจะมีวัดที่เรียกว่าอาสนวิหาร เป็นประวัดประจำของพระสังฆราช ซึ่งมีความหมายถึงขอบเขตของวัดและอาณาเขตของสังฆมณฑล ภายในวัดจะมีอาสนะ ที่เป็นที่นั่งเฉพาะของพระสังฆราช อาสนวิหารยังหมายถึงอำนาจของพระศาสนจักร 3 ประการ ที่พระสังฆราชได้รับมอบหมาย คืออำนาจการสั่งสอนการทำให้ศักดิ์สิทธิ์และการปกครองประชากรของพระเจ้า อาสนวิหารจึงมีความหมายและเป็นสัญลักษณ์ถึงความเป็นหนึ่งเดียวของคริสตชนในสังฆมณฑลนั้นๆ สำหรับพวกเราที่เป็นสัตบุรุษของอาสนวิหารอัสสัมชัญ เราจะมีงานฉลองในรอบปี 2 ครั้ง คือวันฉลองวัดประจำปี สมโภชแม่พระรับเกียรติยกขึ้นสวรรค์ทั้งกายและวิญญาณ วันฉลองตรงกับวันที่ 15 สิงหาคมของทุกปีและอีกวันหนึ่งก็คือวันฉลองการถวายอาสนวิหาร วันที่ 13 ธันวาคม
ทุกปีจะมีวันฉลองการถวายพระวิหารที่สำคัญของพระศาสนจักรคาทอลิก ที่สำคัญมีอยู่ 4 แห่งคือมหาวิหารนักบุญเปโตร มหาวิหารนักบุญเปาโล มหาวิหารนักบุญยอห์น ลาเตรัน และมหาวิหารวิหารแม่พระทั้ง 4 แห่งอยู่ที่กรุงโรม ประเทศอิตาลี ในแต่ละสังฆมณฑลก็สามารถกำหนดวันฉลองอาสนวิหารของตนเอง เพื่อบรรดาสัตบุรุษจะได้ร่วมฉลองความเป็นหนึ่งเดียวกันในความเชื่อความเป็นหนึ่งเดียวกันของพระศาสนจักร
เทศกาลเตรียมรับเสด็จพระคริสตเจ้าปีนี้มาถึงครึ่งทางแล้ว สัปดาห์นี้ เป็นสัปดาห์ที่ 3 ที่เรียกว่าสัปดาห์แห่งความชื่นชมยินดี และอาภรณ์ที่พระสงฆ์สวมในพิธีกรรมก็เป็นสีบานเย็น สีที่เป็นเครื่องหมายบอกว่าเป็นช่วงเวลาของความชื่นชมยินดี เป็นเวลาได้ผ่อนคลายจากการที่ได้เตรียมตัวอย่างเคร่งครัดมาตั้งแต่เริ่มต้นเทศกาลเตรียมรับเสด็จ ฯ การเตรียมตัวในเทศกาลนี้เป็นไปอย่างเคร่งครัด มีการจำศีลอดอาหารตลอด 40 วันก่อนวันสมโภชคริสตมาส ต่อมาก็ลดเหลือ 4 สัปดาห์ ช่วงเวลานี้เป็นช่วงที่ทำให้รู้สึกผ่อนคลายและมีความยินดีจากวันฉลองที่ใกล้มาถึงแล้ว สำหรับผู้ได้เตรียมตัวอย่างดีอย่างเคร่งครัดก็คงมีความรู้สึกยินดี
เราเคยมีธรรมเนียมปฏิบัติที่งดงามและมีคุณค่า แต่ธรรมเนียมนั้นแทบจะไม่มีอยู่แล้ว นั่นคือการเขียนบัตรอวยพร ส.ค.ส ปีใหม่ การส่งความสุขความปรารถนาดีด้วยคำอวยพรไปยังผู้ใหญ่ที่เคารพนับถือ ส่งให้เพื่อนๆ เดือนธันวาคมจะเป็นช่วงเวลาที่หาซื้อการ์ด บางครั้งก็ประดิษฐ์ขึ้นมา มีการวางแผนว่าจะส่งคำอวยพรไปถึงใคร และเมื่อต้องเขียนคำอวยพรก็เป็นเวลาที่จะคิดคำนึงถึงบุคคลนั้นที่จะเขียนคำอวยพร ขอพรจากพระเจ้าเพื่อท่านเหล่านั้น เป็นความสุขใจของผู้ที่ได้ส่งมอบ เป็นความสุขที่ส่งคำอวยพรให้กันและกัน ขณะเดียวกัน ผู้ที่ได้รับบัตรอวยพรก็จะอ่านด้วยความรู้สึกเป็นสุข ที่ได้รับคำอวยพร การส่งมอบความสุขด้วย ส.ค.ส ด้วยบัตรอวยพรไม่มีอีกแล้ว รูปแบบที่มีอยู่ก็เป็นการส่งมอบความสุขด้วยแอปพลิเคชันในโทรศัพท์ ซึ่งก็อาจจะขาดความลึกซึ้ง หากคิดจะส่งคำอวยพรถึงใคร ก็เพียงเลือกสิ่งที่เขียนไว้แล้วกดส่งไปยังผู้ที่เราปรารถนาจะส่งให้ การที่ไม่ได้เขียนคำอวยพรทำให้ขาดช่วงเวลาที่คิดคำนึงถึงบุคคลนั้นๆ เครื่องมือและเทคโนโลยีที่ทันสมัยช่วยให้ชีวิตง่ายขึ้นก็จริง แต่อยากให้คิดถึงคุณค่าที่สิ่งที่ได้ทำด้วย
คริสตมาสยังเป็นเทศกาลของการให้และรับ เป็นช่วงเวลาของการมอบของขวัญ โดยปกติเราจะคิดถึงบุคคลสำคัญและจัดหาของขวัญส่งมอบไปพร้อมกับคำอวยพร ส่วนใหญ่แล้วก็ไม่คาดหวังว่าจะได้รับอะไรตอบแทน มีบ้างที่อาจจะคิดถึงการได้รับของขวัญเป็นการตอบแทน การให้มีความสุขมากกว่า ให้โดยไม่คาดหวังว่าจะได้รับอะไรตอบแทน ความสุขจากการได้ทำให้คนอื่นมีความสุข จึงมีผู้คนจำนวนมากที่ได้เตรียมของขวัญให้กับคนที่ยากลำบาก มีการเตรียมของขวัญเพื่อมอบให้กับคนที่ขาดโอกาสและรอคอย ความสุขของพวกเขาเหล่านั้นคือการได้รับ ถ้าพี่น้องจะได้คิดถึงใครก็ตามที่กำลังรอคอยของขวัญที่เป็นวัตถุข้าวของ เครื่องใช้ที่จำเป็นในชีวิต ของขวัญที่เป็นคําพูด การให้กําลังใจ ของขวัญที่เป็นการให้อภัย ของขวัญที่เป็นการให้โอกาส มีของขวัญมากมายที่พี่น้องส่งมอบให้ทุกคนรอบข้าง เราอยู่ในเทศกาลส่งมอบของขวัญให้กันและกัน…
สวัสดี…พ่ออดิศักดิ์