SIMILIS SIMILE COGNOSCITUR
วันสมโภชนักบุญทั้งหลายในประเทศไทย ถูกย้ายมาเป็นวันอาทิตย์ที่ 4 พฤศจิกายน เพื่อคริสตชนจะได้ไม่พลาดโอกาส “สมโภช” หรือ ฉลองวันสำคัญนี้
มีคำอยู่ 2-3 คำ ที่เราต้องรู้ เกี่ยวกับพิธีกรรมในพระศาสนจักรของเรา โดย ณ ที่นี้ขอนำเสนอให้เป็นการ รับรู้ในเบื้องต้น โดยยังไม่ต้องอธิบายกันอย่างลึกซึ้งให้ปวดหัว สำหรับฆราวาสธรรมดาอย่างเราๆ คือ คำว่า “ระลึกถึง” “ฉลอง” และ “สมโภช”
“สมโภช” ถือเป็นวันฉลองพิเศษสำคัญสุด วันที่เป็นวันสมโภช จะเริ่มต้นมีการฉลองกันตั้งแต่ตอนเย็นของวันก่อนวันสมโภช วันสมโภชถือเป็นวันฉลอง “ชั้นหนึ่ง” ส่วนคำ “วันฉลอง” ก็ถือเป็นวันฉลอง ระดับสอง หรือ “ชั้นที่สอง” มีความสำคัญรองลงมาและวัน “ระลึกถึง” ก็ถือเป็นวันฉลอง ระดับสาม หรือ “ชั้นที่สาม” ก็เอาแค่นี้พอเพื่อทำความเข้าใจ “ในเบื้องต้น”
สมโภชนักบุญทั้งหลาย เป็นวันสมโภชบุคคลที่ได้สิ้นชีวิตตายจากโลกนี้ไปแล้ว และขณะนี้ “กำลังยืนอยู่เฉพาะพระบัลลังก์ และเฉพาะพระพักตร์ลูกแกะ ทุกคนสวมเสื้อขาว ถือใบปาล์ม” (วิวรณ์ 7 ข้อ 9) หรือที่ ยอห์น เขียนไว้ในจดหมายของท่าน “เมื่อพระองค์ทรงปรากฏ เราจะเป็นเหมือนพระองค์ เพราะเราจะได้เห็นพระองค์อย่างที่พระองค์ทรงเป็น” (ยอห์น 3 ข้อ 2)
ประโยคที่ขีดเส้นใต้ไว้ให้อ่านในจดหมายของยอห์น ฉบับนี้สำคัญที่สุด ยอห์น เข้าใจอย่างลึกซึ้ง ในความหมายของการเป็น “คริสตชน”
ยอห์น เข้าใจอย่างดี และถูกต้องที่สุดว่า การเป็นคริสตชนนั้นต้องเป็นอะไร และเป็นอย่างไร
การเป็นคริสตชนก็คือ การทำตัวให้เป็นเหมือนพระเยซูเจ้า
ยอห์น เป็นศิษย์ที่มีอายุน้อย ถือว่าน้อยสุดในหมู่อัครสาวก แต่มีความเข้าใจอย่างลึกซึ้ง มิน่าเล่า!พระเยซูเจ้าจึงทรงรักยอห์น เหลือเกิน เพราะยอห์นสอนได้อย่างตรงใจพระองค์ และเข้าใจพระองค์อย่างลึกซึ้ง
การเป็นคริสตชนก็คือ การทำตัว ทำชีวิตให้เหมือนพระเยซูเจ้า
และการทำชีวิตให้เหมือนพระเยซูเจ้า เป็นกระบวนการที่ต้องทำขณะยังไม่ตาย และต้องค่อยเป็นค่อยไป เปลี่ยนชีวิตของตัวเราเองทีละเล็กทีละน้อยด้วย พระวาจาที่พระเยซูเจ้าทรงสอนและมอบไว้ให้เรา
ดังนั้นกระบวนการ การเป็นนักบุญเริ่มตั้งแต่อยู่ในโลก หรือ เริ่มต้นตั้งแต่เรายังไม่ตาย โดยเอาพระวาจาที่พระเยซูเจ้าทรงให้เป็นต้นพระวาจาในวันนี้ เป็นบรรทัดฐาน พระวาจาที่พระเยซูเจ้าทรงให้ในพระวรสาร มัทธิว บทที่ 5 ข้อ 1 ถึง 12 คือ บันใดก้าวไปสู่ความเป็นนักบุญค่อยๆ ปฏิบัติพระวาจาเหล่านั้นทีละเล็กทีละน้อย และค่อยๆเปลี่ยนชีวิตของเรา ตัวของเราให้เป็นนักบุญทีละเล็กทีละน้อย เราจะค่อยๆ “เป็นเหมือนพระองค์” ดังที่ยอห์นบอกไว้ในจดหมายของท่าน
และคนที่ “เป็นเหมือนพระองค์” ในโลกนี้เท่านั้นจึงจะมีสิทธิ์ “เห็นพระองค์อย่างที่พระองค์ทรงเป็น” หลังจากที่เราตายไปแล้ว ดังภาษิตลาตินที่ว่า
SIMILIS SIMILE COGNOSCITUR
พวกเดียวกันเท่านั้นที่จะจำกันได้
สวัสดี…พ่อสานิจ